“ยะใส” ชี้ พท.แพ้เลือกตั้งซ่อมปทุมฯ สะท้อนความนิยมวูบ-บริหารเหลว

ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ชี้เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อมปทุมฯ สะท้อนความนิยมตกต่ำผลกระทบจากการบริหารจัดการน้ำล้มเหลว นโยบายผิดพลาด ค่าครองชีพสูง และรอยร้าวภายในระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย-เสื้อแดง

วันนี้ (22 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.จังหวัดปทุมธานี ที่ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งให้กับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์แบบพลิกความคาดหมายนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่ตกต่ำของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีการระดมทรัพยากร สรรพกำลังและกลไกรัฐลงไปช่วยมากมายหลายรูปแบบ มีการเชิญนายกฯ แกนนำพรรคและแกนนำเสื้อแดงลงไปช่วยปราศรัยหาเสียงอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็แพ้เลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเกิดจากสาเหตุ 3 ประการ

ประการแรก เป็นสาเหตุจากการบริหารจัดการอุทกภัยที่ล้มเหลวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายอย่างรุนแรงที่สุดอีกจังหวัดหนึ่ง และแผนฟื้นฟูเยียวยาก็ยังล่าช้าไม่มีประสิทธิภาพ

ประการที่สอง เกิดจากความล้มเหลวทางนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ปรากฏเป็นจริงอย่างที่หาเสียงไว้ ซ้ำร้ายการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพทำให้เกิดปัญหาข้าวยากหมากแพงรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง พื้นที่จังหวัดปทุมฯ มีทั้งชนชั้นกลางใหม่และคนระดับล่างและผู้ใช้แรงงานอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้สัมผัสปัญหาข้าวยากหมากแพงได้โดยตรง

ประการที่สาม เกิดจากการชิงบทบาทกันเองระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งรอยร้าวนี้ชัดเจนขึ้นหลังพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา พอได้อำนาจมาการจัดสรรบทบาทและตำแหน่งทางการเมืองทำให้ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยไม่พอใจที่ถูกลดบทบาท เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปให้บทบาทกับแกนนำม็อบเสื้อแดงมากกว่าคนทำงานในพรรคโดยตรง

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ตอกย้ำถึงขาลงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และความเสื่อมของคนเสื้อแดงอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะก่อนเลือกตั้งซ่อมมีการออกแบบกันวงในว่าจะต้องให้ผู้สมัครเพื่อไทยชนะแบบถล่มทลาย เพื่อกลบกระแสความล้มเหลวการแก้ปัญหาน้ำท่วมและความล้มเหลวทางนโยบาย แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถปิดฟ้าด้วยฝ่ามือได้แต่อย่างใด

“ผมคิดว่าสถานการณ์ในขณะนี้เป็นโอกาสดีที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเร่งให้ข้อมูลตีแผ่ความล้มเหลวทางนโยบายของรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่แค่การแถลงตอบโต้กับฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่ต้องให้ข้อมูลเข้าถึงคนระดับล่างหรือชาวบ้านในต่างจังหวัด เพราะคนในเมืองเริ่มเห็นปัญหาชัดเจนแล้ว” นายสุริยะใสกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรย่ามใจกับผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพราะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และแถบภาคกลางการหาเสียงหรือเปิดโปงความล้มเหลวของรัฐบาลอาจจะทำได้ง่าย และประชาชนแถบนี้เข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าคนในต่างจังหวัดอยู่แล้ว ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้อาจสะท้อนแค่สุ้มเสียงจากชนชั้นกลางเท่านั้น ยังไม่ใช่คนระดับล่างจริงๆ ซึ่งเป็นจุดที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ทางการเมืองมาตลอด