เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ตอนแรกจะไม่กล่าวถึงกรณี กวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข ที่ไปก่อเหตุทุบรถ วอยซ์ ทีวี ของ พานทองแท้ ชินวัตร ระหว่างมีการประชุมหารือกันของกลุ่มพันธมิตรฯที่สวนลุมฯเมื่อวันเสาร์ที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา และต่อมามีการนำไปขยายผลในเรื่อง “เหลืองเทียม” กันอย่างจงใจ เพียงเพราะมีพิธีกรบนเวทีบางคนสรุปจากเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งเมื่อมาพิจารณาจากข้อมูลในอดีตก็ต้องยอมรับว่า กวีไกร เคยร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และเกลียด “ระบอบทักษิณ” เข้าไส้ แต่พฤติกรรมดังกล่าวถือว่า “รุนแรง” และไม่ใช่แนวทางของพันธมิตรฯ ที่สำคัญในวันนั้นฝ่ายที่จับกุมส่งตำรวจก็คือ “การ์ดพันธมิตรฯ” ที่รักษาความปลอดภัยอยู่เห็นเหตุการณ์ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายตามกระบวนการ
00 เรื่องเคยเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯก็ต้องบอกว่าใช่ อีกทั้งมีหลักฐานให้เห็นก็ไม่มีทางปฏิเสธ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือ การชุมนุมของพันธมิตรฯทุกครั้งมีเจตนารมณ์แน่วแน่คือ สงบ สันติ อหิงสา มีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องต่อต้านความไม่ถูกต้องในบ้านเมือง คราวนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ทุบทำลายทรัพย์สินของสื่อ แม้จะเป็น “สื่อของระบอบทักษิณ” รวมไปถึงไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินของใครก็ตาม ก็ต้องขัดขวางจับกุมนำส่งตำรวจให้ดำเนินการตามกระบวนการ
00 ถามว่ากรณี “ชายชุดดำ” มีอาวุธสงครามเดินปะปนแฝงตัวอยู่ม็อบเสื้อแดง ทั้งที่ “แยกคอกวัว” เมื่อค่ำวันที่ 10 เม.ย.53 ซุ่มยิงทหาร รวมทั้งลอบยิง พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และปะปนมาที่แยกราชประสงค์ คนพวกนี้ก็ยังเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน แต่พอถูกจับได้ก็จะปัดความรับผิดชอบบอกว่านี่คือ “แดงเทียม” และไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่คนเสื้อแดงด้วยกันเองจับส่งตำรวจ หรือชี้ให้ตำรวจจับกุม หรือแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยขณะที่บรรดาแกนนำกลับยุยงให้ใช้ความรุนแรง ไล่ลงมาตั้งแต่ “แดงตัวพ่อ” คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ปลุกระดมให้มาตายแทนอยู่ตลอดเวลา เช่น “หากถูกทำร้ายให้มารวมกันที่ศาลากลาง” ผลก็คือศาลากลางถูกเผาวอด หรือบางคนบอกว่าให้นำขวดมาคนละขวดไปหาน้ำมันเอาข้างหน้า ล้านคนก็ล้านขวด กรุงเทพฯจะต้องเป็นทะเลเพลิง หรือ เผาไปเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง อย่างหลังคนพูดคือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่อมาก็ได้บำเหน็จเป็น รมช.เกษตรฯ แต่สำหรับพันธมิตรฯไปย้อนดูอดีตก็ได้ไม่เคยมีแกนนำคนไหนพูดยุยงให้ใช้ความรุนแรงเลย หรือแม้แต่การชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่กำลังถูกยัดเยียดเป็นผู้ก่อการร้ายนั้นพอสลาย ทุกอย่างก็ยังอยู่ในสภาพเดิมไม่มีเผา วันรุ่งขึ้นเครื่องบินก็สามารถขึ้นบินได้ หรือที่ทำเนียบฯที่ปักหลักนานหลายเดือน ก็อาจทรุดโทรมไปบ้าง สนามหญ้าอาจเสียหาย แต่ก็ไม่ได้วอดวาย ทุกอย่างเป็นเพราะมีการควบคุม จัดการที่ดี และรู้ว่ามีเป้าหมายคืออะไร และนี่คือความแตกต่างของพันธมิตรฯกับแดงเทียมไงละ !!
00 พูดถึงบำเหน็จรางวัล ก็ต้องนึกขึ้นได้ เพราะบังเอิญได้ยินข้อมูลจากปากของ สดศรี สัตยธรรม กกต.บอกว่าเวลานี้ศาลรธน.ได้ประทับรับฟ้องกรณีที่กกต.มีมติให้ จตุพร พรหมพันธุ์ ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.จากการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากติดคุกคดีก่อการร้ายและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำให้เวลานี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส.แล้ว ซึ่งถ้าพิจารณาจากสัญญาณเหมือนกับรับรู้ว่า “จะเกิดอะไรขึ้น” ทำให้ทักษิณ ถึงกับปลอบใจว่าปรับครม.เที่ยวหน้าจะได้เป็นรมต.ค่อนข้างแน่
00 ส่วนรายนี้ก็รอบำเหน็จก้อนใหญ่เช่นเดียวกัน ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ประกาศวันเวลาชัดเจนแล้วว่าจะเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯช่วยแม้วให้พ้นผิดในสมัยประชุมหน้า ซึ่งก็อยากลองดูว่า “เสียงข้างมาก” และทุนสามานย์ ใช้เป็นเครื่องมือได้ทุกอย่างจริงหรือไม่ และผ่านได้โดยสะดวกดังที่หวังหรือไม่ต้องรอลุ้นกันต่อ !!