xs
xsm
sm
md
lg

อ้าง“จิ๋ว”ม็อบสโมสรทัพบก มาร์คไม่เชื่อ“แม้ว”ไม่เอาคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่ม“สหธรรมิก 4” โผล่อ้างชื่อ “บิ๊กจิ๋ว” ชวนม๊อบที่สโมสรทบ. “เพื่อไทย”ตกผลึกปรองดองฉบับเหลิม “มาร์ค”ไม่เชื่อน้ำลายแม้วไม่เอาคืน ด้านพันธมิตรฯ จับมือสยามประชาภิวัฒน์ตกผลึกเห็นด้วยแนวทางปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมปฏิรูปประเทศ ก่อนคิดโครงสร้างนำเสนอมวลชน พร้อมตอกย้ำไม่เกี่ยวกับการชุมนุม 21 เม.ย.นี้

วานนี้ (19 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พลเรือโทประทีป ชื่นอารมณ์ และนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย ได้พูดคุยกับนักวิชาการกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ นำโดยนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน, นายบรรเจิด สิงคะเนติ, นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, นายคมสัน โพธิ์คง และนายศักดิ์ณรงค์ มงคล เพื่อหาแนวทางในการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อหารือในเรื่องของการปกป้องสถาบันการปฏิรูปโครงสร้าง และเตรียมให้ความรู้กับประชาชน

นายพิภพกล่าวว่า การเชิญนักวิชาการกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์มาหารือวานนี้ เพราะเป็นกลุ่มนักวิชาการที่ให้ความรู้ในการปฏิรูปประเทศ จึงต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อให้ตกผลึก ก่อนที่พันธมิตรฯ จะเดินสายให้ความรู้กับประชาชน ทั้งนี้ พันธมิตรฯ และกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์มีความเห็นตรงกันว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่ถูกครอบงำด้วยระบบทุนสามานย์

ด้านนายปานเทพกล่าวว่า แกนนำได้มีการประชุมกัน และกำหนดหลักปกครองประเทศมาประมาณ 14 ข้อถึงระบบการเมืองในประเทศไทย การปกครอง ระบบการศึกษา เศรษฐกิจ และระบบสิ่งแวดล้อม เพื่อหวังว่าถ้าความคิดทุกอย่างเป็นเอกภาพและมีปรับปรุงแก้ไขแล้วก็จะนำไปสู่การรณรงค์ครั้งใหญ่ถึงหลักความคิด เข้าใจว่าเมื่อตกผลึกแล้ว พันธมิตรฯ โดยเฉพาะแกนนำจะมีการแถลงข่าวถึงหลักปกครองประเทศว่าทั้งหมดควรจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า ทั้งสองกลุ่มยังไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้เท่าที่ควร เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับนักการเมืองและประชาชนในการร่วมกันปฏิรูปประเทศได้ โดยเห็นตรงกันกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อ 1 ถึง 8 ประเด็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ในข้อ 9 ถึง 14 ต้องมีการเสริมในส่วนของเรื่องการศึกษา เพราะการปฏิรูปประเทศต้องคิดในเรื่องของโครงสร้าง เนื่องจากนักการเมืองที่เข้ามาสู่อำนาจมาจากเสียงข้างมาก อันเป็นผลมาจากระบอบประชาธิปไตยของไทยที่ยังไม่มีความชอบธรรม จึงทำให้เสียงข้างมากมาจากการใช้ทุนนิยมซื้อเข้ามา เช่น ที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งตัวแทนแต่ละจังหวัด จำนวน 77 จังหวัด แทนที่จะเป็น 200 คน

**“สยามสามัคคี”เตือนแม้วอย่าประมาท

นายประสาร มฤคพิทักษ์ แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและ นปช. กำลังสร้างเงื่อนไขสงครามกลางเมืองด้วยตนเอง ด้วยการเร่งเครื่องเดินหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พยายามรวบหัวรวบหางให้จบเร็วภายในไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้ ทั้งยังต้องการเร่ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยให้กรรมาธิการปรองดองไปหยิบฉวยเอาเนื้อหาเฉพาะส่วนงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า เป็นการยกเลิกผลพวงทางคดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทั้งหมด

“คุณทักษิณ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง และเครือข่าย ประเมินกำลังของฝ่ายต่อต้านต่ำเกินไป เขาคิดว่าพันธมิตรอ่อนแรง เขาเชื่อว่ากลุ่มสยามสามัคคี กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ กลุ่มเสื้อหลากสี เป็นพวกไร้น้ำยา ที่ทำอะไรเขาไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่า ความจริงแล้วพลังมวลชนมหาศาลไม่ใช่เกิดจากการปลุกเร้าของใครคนใดหรือกลุ่มใด หากไม่มีประเด็นท้าทายประชาชนอย่างแหลมคม ต่อให้สิบพันธมิตร ร้อยสยามสามัคคี หรือพันเสื้อหลากสี ก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ ปัจจัยชี้ขาดกำลังประชาชนคือการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมต่างหาก”แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าว

**อ้างชื่อ“บิ๊กจิ๋ว” ชวนม๊อบที่สโมสรทบ.

ที่ด้านหน้ารัฐสภา มีเครือข่ายภาคประชาชน ประกอบด้วยสภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.) สมาพันธ์พลเมืองฐานราก (สพฐ.) องค์การโอนอำนาจทรัพยากรใต้ดิน เพื่อสร้างสรรค์การปรองดองแห่งชาติ (อทพช.) องค์การทรัพยากรทางทะเล เพื่อสรางสรรค์การปรองดองแห่งชาติ (อททช.) ร่วมเรียกร้องและเชิญชวนให้ประชาชนรวมถึงนักการเมือง เข้าร่วมงานเสวนา “โอนอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน” ในวันที่ 21 เม.ย. ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีฯ โดยจะมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ฐานะที่ปรึกษาใหญ่ สวชพ. ร่วมเปิดงานดังกล่าว

นอกจากนั้น ได้แจกคำแถลงกรณ์ของเครือข่าย ซึ่งตอนหนึ่งได้ระบุว่า พล.อ.ชวลิตจะเป็น ที่ปรึกษาใหญ่ สวชพ. ได้ร่วมผนึกกำลังมวลชน เพื่อปฏิบัติภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ของชาติ ในการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการประชุมสถาปนา “สภาโอนอำนาจรัฐแห่งชาติเพื่อสร้างสรรค์การปรองดอง อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ

ทั้งนี้ เครือข่ายที่เรียกตนเองว่า “สหธรรมิก 4” ได้นำเสนอนโยบายและแผนการโอนอำนาจการบริหารทรัพยากรธรรมชาติในทุกๆ ด้าน ให้แก่คนไทย แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

เวลา 12.30 น. กลุ่มดังกล่าวในนาม “กลุ่มเรียกคืนอำนาจนักการเมืองเนรคุณแผ่นดิน” ออกแถลงการณ์ถึงการจัดชุมนุมในวันที่ 21 เม.ย..ที่สโมสรทหารบก วิภาวดีรังสิต

โดยนายพายัพ ยังปักษี ในฐานะสมาพันธ์พลเมืองฐานราก (สพฐ) กล่าวว่า ถ้าทางกลุ่มของเราทำหนังสือขออนุญาตกับกองทัพแล้ว กองทัพอนุญาต กองทัพก็จะมีปัญหากับรัฐบาล แต่หากทางกองทัพปฏิเสธก็จะมีปัญหากับประชาชน ตรงนี้เราก็เห็นใจว่าปัญหาหนักหนาสาหัสของกองทัพ แต่ทางเราก็ขอยืนยันว่า วันที่ 21 เม.ย.นี้ ทางกลุ่มจะมีการจัดชุมนุมขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากมี นายบวร ยสินทร ตัวแทนกลุ่มราษฏรอาสาปกป้องสามสถาบัน ร่วมชุมนุมแล้ว ยังมีนายรัฐเขต แจ้งจำรัส ตัวแทนกลุ่มองค์กรโอนอำนาจทรัพยากรใต้ดินเพื่อสร้างสรรค์การปรองดองแห่งชาติ (อททช.) ที่ระบุว่าจะเปิดเผยเรื่องพลังงานในการชุมนุม

ทั้งนี้ ต่อข้อถามว่า พล.อ.ชวลิต จะเข้ามาร่วมงานหรือไม่แกนนำกลุ่มนี้ ระบุว่า อยู่ที่สถานการณ์ในขณะนั้นว่าจะเอื้อหรือไม่และจำนวนผู้ชุมนุมในวันนั้นคาดว่าจะไม่ต่ำกว่าแสนคนแน่นอน

**เพื่อไทยตกผลึกปรองดองฉบับเหลิม

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภาให้ทันสมัยประชุมนี้ ว่า แล้วมันมีปัญหาอะไร ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เห็นด้วยนั้น ตนไม่ได้ดูตรงนั้น แต่ตนดูความรู้สึกของประชาชนทั่วไปว่าต้องการให้ปรองดอง สมานฉันท์หรือไม่ และต้องการให้เดินหน้าหรือไม่ ฟังความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ขัดข้องเรื่องปรองดอง แต่มาติดเรื่องตัวคน เราไม่ได้พูดเรื่องตัวคน แต่เราพูดถึงหลักการ ฉะนั้นต้องพูดให้ตรงกัน ถ้าพูดไม่ตรงกันก็เข้าใจกันยาก

เมื่อถามว่าตกลงว่า จะเอาร่างพ.ร.บ.ปรองดองของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับร่างของร.ต.อ.เฉลิม แต่ยังไม่ตัวร่าง ต้องเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ท่านเป็นนักกฎหมายมือดี อ่านกฎหมายรู้ดูกฎหมายเป็น นอกจากนี้ วันที่ 20 เม.ย.นี้ ตนจะประชุมคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คปอป.) เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณารายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ

**"มาร์ค"ไม่เชื่อน้ำลายแม้วไม่เอาคืน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนแนวทางปรองดองแต่สิ่งที่ไม่สนับสนุน คือ การนำคำว่าปรองดองมาบังหน้า อ้างเพื่อใช้ในการล้างผิดให้คนบางคนคนบางกลุ่ม และตนคิดว่ารัฐบาลมีความพยายามที่จะทำให้สังคมเกิดความสับสนโดยนำสองเรื่องมาปะปนกัน โดยกระบวนการปรองดองเราสนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เดินหน้าเป็นหลักในการคนหาข้อเท็จจริงสรุปข้อเสนอสู่สังคมว่าควรเดินหน้ากันอย่างไร และสนับสนุนให้นำประเด็นที่มีการอภิปรายในสภาและการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าไปใช้ในการรับฟังความเห็นเพื่อให้สังคมตกผลึกและเกิดบรรยากาศของความปรองดอง แต่ที่เราไม่สนับสนุน คือ การอ้างความปรองดองแต่สุดท้ายคือการสร้างความขัดแย้งใหม่ ด้วยการออกกฎหมายหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เหนือกฎหมายไทย

ส่วนกรณีที่นายยงยุทธ ท้าให้มีการทำประชามติในการออก พ.ร.บ.ปรองดองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามว่าจะมีการตั้งคำถามในการทำประชามติว่าอย่างไร เพราะถ้าถามว่าจะปรองดองหรือไม่ ประชาชนเกือบ 100% ก็คงตอบว่าปรองดอง รวมทั้งตนด้วย แต่ถ้าถามว่าจะล้างผิดให้คนโกงหรือไม่ ตนก็ไม่คิดว่าประชาชนจะยอมให้ล้างผิดให้คนโกง นอกจากนั้นการทำประชามติตามรัฐธรรมนูญก็มีเงื่อนไขในมาตรา 165 ดังนั้น จะบอกว่าทำประชามติให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านหรือไม่ทำไม่ได้เพราะขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลคงไม่ใช้วิธีตรงไปตรงมา

กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ที่รัสเซีย โดยระบุว่า จะไม่เรียกร้องกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป และจะไม่เรียกร้องเอาทรัพย์สินที่ถูกยึดคืน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่อยู่กับร่องกับรอย เวลานี้พูดอะไรก็ได้ แต่กลับมาแล้วก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

**เรียกร้องให้รัฐออกมาพูดความจริง

นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ปรานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ออกมาระบุให้ทางคอป.เป็นผู้เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น ตนเห็นว่า คอป.ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีความเห็นที่จะต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งอยากเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาพูดความจริง ถ้าเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมก็พูดตรงๆ ไม่ใช่หลอกประชาชน โดยเลี่ยงใช้คำว่า กฎหมายปรองดอง

**ย้ำ 21 เม.ย.พันธมิตรไม่เกี่ยวชุมนุม

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรกล่าว กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมวันที่ 21 เม.ย.นี้ โดยสิ่งที่จะทำ คือ การพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ผ่าน 3 ช่องทาง คือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่จะยื่นอัยการสูงสุด เพื่อยื่นต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเรื่อง นักการเมือง 416 คน ที่สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ และช่องทางที่ 2 คือ การยื่นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และช่องทางสุดท้าย คือ พร้อมชุมนุมทันที หากมีการแก้กฎหมายที่กระทบต่อสถาบัน หรือการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ

***"ตู่"สีข้างเข้าถูไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิของ ครม. ส.ส. ส.ว.และประชาชนที่สามารถขอแก้รัฐธรรมนูญได้ตามมาตรา 291 ซึ่งเป็นการแก้ไขมาตรา 291เพียงมาตราเดียวเพื่อเปิดทางให้มีส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญ และยังระบุชัดเจนว่า ไม่มีการแก้ไขหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น จึงไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ดังนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องทบทวนว่า เหตุใดตอนทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญปี 2540 จึงไม่ออกมาปกป้อง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่า เท่าที่ตรวจสอบแล้วไม่มีกลุ่มพันธมิตร มาใช้สโมสรกองทัพบกในการจัดกิจกรรมทางการเมือง แต่เป็นการนัดแนะกันเอง ซึ่งการจะมาขอใช้พื้นที่ต้องมีการขอล่วงหน้า โดยสโมสรกองทัพบกมีคิวจองแน่นไม่ใช่จะขอพื้นที่แล้วจะได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการพยายามดึงทหารเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านถามว่าเขาพยายาม แต่ตนจะไม่ให้เขาพยายาม เขาพยายามอย่างไรเราก็ไม่ไปกับเขาก็จบ
กำลังโหลดความคิดเห็น