ASTVผู้จัดการรายวัน - ซัดรัฐบริหารเยียวยา สุดมั่ว ทำแม่ผัวตบแย่งเงินลูกสะใภ้ “อ.คมสัน” เชื่อแหกตา เหตุขาดกฎหมายรองรับ ชี้ กฎหมายไทยไม่มีเกณฑ์จ่ายเงินให้ผู้กระทำผิด พร้อมส่งเสริมคนทำชั่วแล้วได้ดี “ยงยุทธ”ลั่นจ่ายทั่วถึงเมียน้อย คาดได้สุด 1-2 สัปดาห์ ยันไม่ทบทวน
วานนี้(9 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในนดยบายจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้รับผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองว่า มีลักษณะมั่วในการบริหาร โดยยกตัวอย่างการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เตือนมาตลอดว่าควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าใครจะได้รับการเยียวยาเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง แต่รัฐบาลก็ไม่สนใจโดยล่าสุดหลังจากที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนก็เกิดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ตบตีกันที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพราะระเบียบในการเยียวยาไม่ชัดเจน เป็นการโปรยเงินให้ประชาชนไล่ฟัดกันเองเหมือนไม่ใช่คน ใช้เงินกดหัวคนไทย
“ผมเตือนว่ารัฐบาลอย่าชะล่าใจเพราะศาลปกครองเรียกเอกสารมติครม.ไปพิจารณาประกอบคำขอให้ทุเลาบังคับมติครม.แล้ว จึงอย่าย่ามใจสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนด้วยการเลือกปฏิบ้ติ เพราะคนเหล่านี้จะลุกขึ้นมาไล่รัฐบาลที่มั่วในการบริหาร”
**หวั่นแเหกตา เหตุขาดกม.รับรอง
นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และแกนนำกลุ่มสยามประชาภิวัตน์ กล่าวว่า มติครม.นี้ ต้องทำความเข้าใจว่ามติดังกล่าวไม่ใช่กฎหมาย และการจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนจำเป็นจะต้องมีกฎหมายมารองรับ แต่ขณะนี้นั้นไม่มี และตนเชื่อว่าสุดท้ายก็จะไม่มีการจ่ายเงิน 7.5 ล้าน ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นการจ่ายเงินผิดหลักการและไม่มีหลักกฎหมายรองรับ ทั้งนี้หากกลุ่มผู้เสียหายมาเรียกร้อง ตนเชื่อว่ารัฐบาลพยายามเลี่ยงพร้อมระบุว่า รัฐบาลพยายามจ่ายเงินแล้ว แต่ถูกอีกฝ่ายคัดค้าน ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องออกเป็นพ.ร.บ. เพื่อมารองรับมติครม. ซึ่งเชื่อว่าจะมีการถกเถียงในรัฐสภา เรื่องความชอบธรรมและความเสมอภาคในการออกพ.ร.บ.นี้ต่อไป
นอกจากนี้ยังเห็นว่ารายชื่อผู้ที่ได้รับเงินเยียวยานั้น บางคนมีส่วนที่กระทำความผิด ซึ่งโดยหลักกฎหมายนั้น ผู้ที่มีส่วนกระทำความผิดจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐเป็นอันขาด อีกทั้งหลักการจ่ายเงินจะต้องรอให้คดีความเป็นที่ยุติเสียก่อน จึงจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ เพราะหากปล่อยมีการจ่ายเงินเยียวยาไปโดยผิดหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย ก็จะถือเป็นการส่งเสริมให้คนมากระทำผิดขึ้นเรื่อยๆ
**สาธิต รอลุ้น ศาลปกครองระงับ
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติครม.ว่า ศาลพิจารณาเห็นว่า จำเป็นต้องเรียกมติครม. 6 มี.ค. 2555 มาประกอบพิจารณาคำร้อง แต่ไม่ไต่สวนฉุกเฉินเนื่องจากเห็นว่ายังมีขั้นตอนอีกก่อนจะจ่ายเงินชดเชยจึงยังไม่มีเหตุฉุกเฉินให้ยกคำร้องในส่วนนี้ แต่สำหรับคำขอทุเลาบังคับมติ ครม. ศาลจะมีมติต่อไปหลังจากพิจารณามติ ครม.ก่อนและจะแจ้งให้ตนทราบอีกครั้ง นอกจากนี้ในส่วนของคดีหลักที่ขอให้ศาลเพิกถอนมติครม. เนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบขัดกฎหมาย ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรมนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
**แฉ 300 แดงบี้พท.เก่อนรัฐออกมติ
ส.ส.ระยอง ยังได้นำหลักฐานการลงทะเบียนของคนเสื้อแดงดว่า 300 รายที่ไปลงชื่อไว้ที่พรรคเพื่อไทยแต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือก่อนที่รัฐบาลจะออกมติครม.ตามมาในภายหลัง มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยชี้ว่าที่ผ่านมา แกนนำนปช.และพรรคเพื่อไทยไม่เคยให้ความช่วยเหลือคนเสื้อแดงทอดทิ้งให้คนเหล่านี้ดิ้นรนตามลำพัง ทั้ง ๆ ที่มาต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงควรใช้เงินของพ.ต.ท.ทักษิณ จ่ายเยียวยา แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมเสียเงินของตัวเองจึงมาใช้ภาษีประชาชนไปจ่ายแทน ซึ่งในคำร้องที่คนเสื้อแดงเหล่านี้ยื่นกับพรรคเพื่อไทยก็ขอเพียงแค่เงินทุนประกอบอาชีพค้าขาย และทุนการศึกษาบุตรหลานเท่านั้น ไม่ใช่ให้ใช้เงินจำนวนมากเยียวยาเหมือนที่รัฐบาลทำ โดยตนยืนยันว่าการเยียวยาต้องมีหลักเกณฑ์ มีความเสมอภาคและเป็นธรรม
**แจงพ่อ-แม่-เมียหลวงยันเมียน้อย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.) กล่าวว่า สำหรับคนที่เคยกล่าวว่าการจ่ายเงินเยียวยาฯ รายละ 7.75 ล้านบาทแพงไปนั้น เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ศาลแพ่งได้พิพากษาคดีนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่เสียชีวิตจากอุบัติตกจากรถเมล์ ซึ่งศาลสั่งจ่ายชดเชย 9.85 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นข้อยุติได้เสียทีว่าชีวิตมนุษย์นี้แพงหรือถูก ดังนั้นอย่ามาพูดกันลอยๆ เพราะอย่างน้อยศาลพิพากษาเป็นหลักเกณฑ์แล้วว่าได้เกือบ 10 ล้านบาท เนื่องจากความประมาทเลินเล่อของ ขสมก.และคนขับรถ ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ให้สังคม และน่าจะรับได้ว่าจำนวนเงินก้อนนี้น่าจะหาความพอใจได้ยาก ไม่ใช่ถูกหรือแพงไป
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว คาดว่าเร็วที่สุดประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็ต้องเริ่มจ่ายให้ได้แล้ว เพราะเขาอดทนกันมานาน ทั้งนี้หลักเกณฑ์ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือจ่ายทันที 3 ล้านบาท ส่วนเงินอีก 4.5 ล้านบาทนั้นต้องเป็นกองทุนเพื่อเก็บไว้ยังชีพต่อไป ส่วนส่วนเรื่องผู้ประกอบการและร้านค้า จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ในวันที่ 12 มี.ค.นี้
เมื่อถามว่าถ้านอกจากสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนแล้ว ยังมีอีกบ้านหนึ่งจะต้องจ่ายให้อย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องให้เฉลี่ยไป ซึ่งต้องมีพยานยืนยันว่าอยู่แต่ละบ้านด้วย โดยเจ้าหน้าที่เป็นคนจัดการแบ่งเป็นส่วนให้คนละหนึ่งส่วน เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าให้หมดทั้งเมียหลวงและเมียน้อยใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า “ให้หมด มี 3 หรือ 4 ครอบครัวก็ให้ทั้งหมดนั้น เพราะผู้ชายท่านนี้คงจะอุปการะครอบครัวทั้ง 3-4 ครอบครัว ดังนั้นเมื่อขาดผู้นำไป ครอบครัวเหล่านั้นคงจะเดือดร้อน”
**12 มี.ค.คุยเกณฑ์จ่าย 4.5 ล้านบาท
ด้านนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการเยียวยา กล่าวว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อหารือว่าการดำเนินการจ่ายเงินมีอุปสรรคหรือปัญหาอะไรหรือไม่ รวมทั้งหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน 4.5 ล้านบาท ในลักษณะของพันธบัตรและสลากออมสิน โดยจะหารือว่าจะทำอย่างไร มีกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการออกสลากอย่างไรบ้าง และถ้ามีคำสั่งจากศาลเป็นอย่างอื่นที่ทำให้เราไม่สามารถจะจ่ายเงินเยียวยาได้เราก็ต้องเคารพคำสั่งศาล แต่เมื่อศาลยังไม่มีคำสั่งก็คงต้องปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อไป .
วานนี้(9 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในนดยบายจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้รับผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองว่า มีลักษณะมั่วในการบริหาร โดยยกตัวอย่างการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เตือนมาตลอดว่าควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าใครจะได้รับการเยียวยาเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง แต่รัฐบาลก็ไม่สนใจโดยล่าสุดหลังจากที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนก็เกิดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ตบตีกันที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพราะระเบียบในการเยียวยาไม่ชัดเจน เป็นการโปรยเงินให้ประชาชนไล่ฟัดกันเองเหมือนไม่ใช่คน ใช้เงินกดหัวคนไทย
“ผมเตือนว่ารัฐบาลอย่าชะล่าใจเพราะศาลปกครองเรียกเอกสารมติครม.ไปพิจารณาประกอบคำขอให้ทุเลาบังคับมติครม.แล้ว จึงอย่าย่ามใจสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนด้วยการเลือกปฏิบ้ติ เพราะคนเหล่านี้จะลุกขึ้นมาไล่รัฐบาลที่มั่วในการบริหาร”
**หวั่นแเหกตา เหตุขาดกม.รับรอง
นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และแกนนำกลุ่มสยามประชาภิวัตน์ กล่าวว่า มติครม.นี้ ต้องทำความเข้าใจว่ามติดังกล่าวไม่ใช่กฎหมาย และการจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนจำเป็นจะต้องมีกฎหมายมารองรับ แต่ขณะนี้นั้นไม่มี และตนเชื่อว่าสุดท้ายก็จะไม่มีการจ่ายเงิน 7.5 ล้าน ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นการจ่ายเงินผิดหลักการและไม่มีหลักกฎหมายรองรับ ทั้งนี้หากกลุ่มผู้เสียหายมาเรียกร้อง ตนเชื่อว่ารัฐบาลพยายามเลี่ยงพร้อมระบุว่า รัฐบาลพยายามจ่ายเงินแล้ว แต่ถูกอีกฝ่ายคัดค้าน ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องออกเป็นพ.ร.บ. เพื่อมารองรับมติครม. ซึ่งเชื่อว่าจะมีการถกเถียงในรัฐสภา เรื่องความชอบธรรมและความเสมอภาคในการออกพ.ร.บ.นี้ต่อไป
นอกจากนี้ยังเห็นว่ารายชื่อผู้ที่ได้รับเงินเยียวยานั้น บางคนมีส่วนที่กระทำความผิด ซึ่งโดยหลักกฎหมายนั้น ผู้ที่มีส่วนกระทำความผิดจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐเป็นอันขาด อีกทั้งหลักการจ่ายเงินจะต้องรอให้คดีความเป็นที่ยุติเสียก่อน จึงจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ เพราะหากปล่อยมีการจ่ายเงินเยียวยาไปโดยผิดหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย ก็จะถือเป็นการส่งเสริมให้คนมากระทำผิดขึ้นเรื่อยๆ
**สาธิต รอลุ้น ศาลปกครองระงับ
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติครม.ว่า ศาลพิจารณาเห็นว่า จำเป็นต้องเรียกมติครม. 6 มี.ค. 2555 มาประกอบพิจารณาคำร้อง แต่ไม่ไต่สวนฉุกเฉินเนื่องจากเห็นว่ายังมีขั้นตอนอีกก่อนจะจ่ายเงินชดเชยจึงยังไม่มีเหตุฉุกเฉินให้ยกคำร้องในส่วนนี้ แต่สำหรับคำขอทุเลาบังคับมติ ครม. ศาลจะมีมติต่อไปหลังจากพิจารณามติ ครม.ก่อนและจะแจ้งให้ตนทราบอีกครั้ง นอกจากนี้ในส่วนของคดีหลักที่ขอให้ศาลเพิกถอนมติครม. เนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบขัดกฎหมาย ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรมนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
**แฉ 300 แดงบี้พท.เก่อนรัฐออกมติ
ส.ส.ระยอง ยังได้นำหลักฐานการลงทะเบียนของคนเสื้อแดงดว่า 300 รายที่ไปลงชื่อไว้ที่พรรคเพื่อไทยแต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือก่อนที่รัฐบาลจะออกมติครม.ตามมาในภายหลัง มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยชี้ว่าที่ผ่านมา แกนนำนปช.และพรรคเพื่อไทยไม่เคยให้ความช่วยเหลือคนเสื้อแดงทอดทิ้งให้คนเหล่านี้ดิ้นรนตามลำพัง ทั้ง ๆ ที่มาต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงควรใช้เงินของพ.ต.ท.ทักษิณ จ่ายเยียวยา แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมเสียเงินของตัวเองจึงมาใช้ภาษีประชาชนไปจ่ายแทน ซึ่งในคำร้องที่คนเสื้อแดงเหล่านี้ยื่นกับพรรคเพื่อไทยก็ขอเพียงแค่เงินทุนประกอบอาชีพค้าขาย และทุนการศึกษาบุตรหลานเท่านั้น ไม่ใช่ให้ใช้เงินจำนวนมากเยียวยาเหมือนที่รัฐบาลทำ โดยตนยืนยันว่าการเยียวยาต้องมีหลักเกณฑ์ มีความเสมอภาคและเป็นธรรม
**แจงพ่อ-แม่-เมียหลวงยันเมียน้อย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.) กล่าวว่า สำหรับคนที่เคยกล่าวว่าการจ่ายเงินเยียวยาฯ รายละ 7.75 ล้านบาทแพงไปนั้น เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ศาลแพ่งได้พิพากษาคดีนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่เสียชีวิตจากอุบัติตกจากรถเมล์ ซึ่งศาลสั่งจ่ายชดเชย 9.85 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นข้อยุติได้เสียทีว่าชีวิตมนุษย์นี้แพงหรือถูก ดังนั้นอย่ามาพูดกันลอยๆ เพราะอย่างน้อยศาลพิพากษาเป็นหลักเกณฑ์แล้วว่าได้เกือบ 10 ล้านบาท เนื่องจากความประมาทเลินเล่อของ ขสมก.และคนขับรถ ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ให้สังคม และน่าจะรับได้ว่าจำนวนเงินก้อนนี้น่าจะหาความพอใจได้ยาก ไม่ใช่ถูกหรือแพงไป
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว คาดว่าเร็วที่สุดประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็ต้องเริ่มจ่ายให้ได้แล้ว เพราะเขาอดทนกันมานาน ทั้งนี้หลักเกณฑ์ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือจ่ายทันที 3 ล้านบาท ส่วนเงินอีก 4.5 ล้านบาทนั้นต้องเป็นกองทุนเพื่อเก็บไว้ยังชีพต่อไป ส่วนส่วนเรื่องผู้ประกอบการและร้านค้า จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ในวันที่ 12 มี.ค.นี้
เมื่อถามว่าถ้านอกจากสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนแล้ว ยังมีอีกบ้านหนึ่งจะต้องจ่ายให้อย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องให้เฉลี่ยไป ซึ่งต้องมีพยานยืนยันว่าอยู่แต่ละบ้านด้วย โดยเจ้าหน้าที่เป็นคนจัดการแบ่งเป็นส่วนให้คนละหนึ่งส่วน เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าให้หมดทั้งเมียหลวงและเมียน้อยใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า “ให้หมด มี 3 หรือ 4 ครอบครัวก็ให้ทั้งหมดนั้น เพราะผู้ชายท่านนี้คงจะอุปการะครอบครัวทั้ง 3-4 ครอบครัว ดังนั้นเมื่อขาดผู้นำไป ครอบครัวเหล่านั้นคงจะเดือดร้อน”
**12 มี.ค.คุยเกณฑ์จ่าย 4.5 ล้านบาท
ด้านนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการเยียวยา กล่าวว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อหารือว่าการดำเนินการจ่ายเงินมีอุปสรรคหรือปัญหาอะไรหรือไม่ รวมทั้งหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน 4.5 ล้านบาท ในลักษณะของพันธบัตรและสลากออมสิน โดยจะหารือว่าจะทำอย่างไร มีกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการออกสลากอย่างไรบ้าง และถ้ามีคำสั่งจากศาลเป็นอย่างอื่นที่ทำให้เราไม่สามารถจะจ่ายเงินเยียวยาได้เราก็ต้องเคารพคำสั่งศาล แต่เมื่อศาลยังไม่มีคำสั่งก็คงต้องปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อไป .
