วานนี้ (8 เม.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 9 เม.ย.นี้ เวลา 14.00 น. พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 เม.ยเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระ 2 ภายหลังจากที่คณะกรรมาธิการพิจารณารัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ได้พิจารณายกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการกำหนดท่าทีการอภิปราย และการทำความเข้าใจกับ ส.ส. ให้ตรงกัน ไปในทิศทางเดียวกันถึงการแปรญัตติในวาระ 2 เช่น เรื่องที่มาของ ส.ส.ร.จำนวน 99 คน มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน และจากการสรรหา 22 คน
ด้านนายศรีราชา เจริญพาณิชย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผย ถึงประเด็นข้อท้วงติงของคณะกรรมการที่ปรึกษาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญของผู้ตรวจฯ ที่มีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าทางผู้ตรวจจะมีการหารือกันอีกครั้งในเรื่องข้อเสนอดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าจะหารือแล้วเสร็จและส่งไปยังรัฐสภาได้ช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีวาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้มีการพิจารณา เบื้องต้นคาดว่าจะทัน
เมื่อถามถึงสาระสำคัญของร่างแก้ไข ที่กรรมาธิการฯ ได้พิจารณาแล้วเสร็จ นายศรีราชา กล่าวว่า เป็นการทำงานที่ทำแบบลวกๆ ลกๆ รีบๆ และไม่รอบคอบ เชื่อว่าในอนาคตจะมีปัญหาต่อการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของถ้อยคำที่กำกวม บทบัญญัติและหลักการ หรือชอบด้วยหลักนิติธรรมหรือไม่
"หากเขาร่างอะไรตามใจเพื่อวัตถุประสงค์ใด อาจจะไปไม่ถึงเป้า ต้องมีคนค้าน ผมก็รอดูและทำใจ เพราะเขาจะเอาอย่างใจอะไรก็ได้ โดยอ้างว่าเขามีอำนาจ แต่เมื่ออ้างคำว่าอำนาจ ต้องมองว่าเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือโดยบริสุทธิ์หรือไม่ ผมทำใจแล้วตั้งแต่ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เสร็จ สักวันหนึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะต้องถูกแก้ไข อย่างไรก็ตามหากจะแก้ ก็ต้องยึดสิ่งที่ถูกต้อง มีเหตุผล และความชอบธรรม เพราะหากฝืนสิ่งเหล่านี้ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นปัญหา" นายศรีราชา กล่าว
ถามต่อว่ามองอย่างไรต่อความเป็นไปได้กับการรื้อองค์กรอิสระ นายศรีราชา กล่าวว่า ก็ต้องทำใจ เพราะหากตนหลุดจากตำแหน่งนี้ไป ตั้งใจไปเขียนหนังสือ ซึ่งการทำหน้าที่ตรงนี้ได้พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ส่วนคนส่วนใหญ่จะต้องทำใจด้วยหรือไม่ ตนมองว่า พวกเขาก็ต้องรับกรรม ทั้งนี้ตนมองว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก เมื่อเขามีอำนาจ ก็ดันทุรังเอาแต่ประโยชน์ตามใจตัวเอง ซึ่งคนส่วนใหญ่เขาไม่เห็นด้วย
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงกรณีที่ประธานรัฐสภา กำหนดให้มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 วันที่ 10-11 เม.ย.นี้ ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้สงวนคำแปรญัตติ ซึ่งมีมากถึง 172 คน โดยให้เวลา 2 วันคงจะไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะในการสงวนคำแปรญัตติเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาในการอภิปราย ที่จะต้องมีการแสดงเหตุผลจนจบกระบวนความ ซึ่งประธานไม่สามารถที่จะรวบรัด หรือจำกัดเวลาการอภิปรายได้ โดยเฉพาะ 4 ประเด็นใหญ่ ที่จะต้องอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง เช่น 1.ที่มาของส.ส.ร. 2. จำนวนของส.ส.ร. 3.คุณสมบัติของส.ส.ร. และ 4.กระบวนการเลือกตั้งของส.ส.ร. ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผู้แปรญัตติเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้สงวนคำแปรญัตติแต่ละคน ก็มีเหตุผลที่มีน้ำหนักแตกต่างกันไป อาจจะต้องมีการอภิปรายในแต่ละประเด็นหลายชั่วโมง ซึ่งไม่นับรวมไปถึงรายละเอียดในมาตราปลีกย่อย ที่มีสมาชิกสงวนคำแปรญัตติในทุกมาตรา
"ไม่เว้นแม้แต่มาตรา 1 เรื่องชื่อของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ระบุว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ... โดยผมได้แปรญัตติในมาตรา 1 นี้โดยให้ชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญรวบรัดเพื่อทักษิณแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.... มาตรานี้แม้จะถูกขัดขวางไม่ให้แปรญัตติ จากสมาชิกของพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่ผมถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ในฐานะสมาชิกรัฐสภา และจะอภิปรายเหตุผลว่าทำไมต้องเรียกว่ารวบรัดเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยพร้อมที่จะแฉกระบวนการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการฯ ว่ามีการรวบรัดเป็นเผด็จการ เอาเสียงข้างมากลากไปอย่างไรบ้าง และถือโอกาสที่การพิจารณาวาระ 2 มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ ให้ประชาชน ได้รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ทำไปก็เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณโดยแท้จริง"นายเทพไท กล่าว
ด้านนายศรีราชา เจริญพาณิชย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผย ถึงประเด็นข้อท้วงติงของคณะกรรมการที่ปรึกษาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญของผู้ตรวจฯ ที่มีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าทางผู้ตรวจจะมีการหารือกันอีกครั้งในเรื่องข้อเสนอดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าจะหารือแล้วเสร็จและส่งไปยังรัฐสภาได้ช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีวาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้มีการพิจารณา เบื้องต้นคาดว่าจะทัน
เมื่อถามถึงสาระสำคัญของร่างแก้ไข ที่กรรมาธิการฯ ได้พิจารณาแล้วเสร็จ นายศรีราชา กล่าวว่า เป็นการทำงานที่ทำแบบลวกๆ ลกๆ รีบๆ และไม่รอบคอบ เชื่อว่าในอนาคตจะมีปัญหาต่อการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของถ้อยคำที่กำกวม บทบัญญัติและหลักการ หรือชอบด้วยหลักนิติธรรมหรือไม่
"หากเขาร่างอะไรตามใจเพื่อวัตถุประสงค์ใด อาจจะไปไม่ถึงเป้า ต้องมีคนค้าน ผมก็รอดูและทำใจ เพราะเขาจะเอาอย่างใจอะไรก็ได้ โดยอ้างว่าเขามีอำนาจ แต่เมื่ออ้างคำว่าอำนาจ ต้องมองว่าเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือโดยบริสุทธิ์หรือไม่ ผมทำใจแล้วตั้งแต่ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เสร็จ สักวันหนึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะต้องถูกแก้ไข อย่างไรก็ตามหากจะแก้ ก็ต้องยึดสิ่งที่ถูกต้อง มีเหตุผล และความชอบธรรม เพราะหากฝืนสิ่งเหล่านี้ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นปัญหา" นายศรีราชา กล่าว
ถามต่อว่ามองอย่างไรต่อความเป็นไปได้กับการรื้อองค์กรอิสระ นายศรีราชา กล่าวว่า ก็ต้องทำใจ เพราะหากตนหลุดจากตำแหน่งนี้ไป ตั้งใจไปเขียนหนังสือ ซึ่งการทำหน้าที่ตรงนี้ได้พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ส่วนคนส่วนใหญ่จะต้องทำใจด้วยหรือไม่ ตนมองว่า พวกเขาก็ต้องรับกรรม ทั้งนี้ตนมองว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก เมื่อเขามีอำนาจ ก็ดันทุรังเอาแต่ประโยชน์ตามใจตัวเอง ซึ่งคนส่วนใหญ่เขาไม่เห็นด้วย
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงกรณีที่ประธานรัฐสภา กำหนดให้มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 วันที่ 10-11 เม.ย.นี้ ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้สงวนคำแปรญัตติ ซึ่งมีมากถึง 172 คน โดยให้เวลา 2 วันคงจะไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะในการสงวนคำแปรญัตติเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาในการอภิปราย ที่จะต้องมีการแสดงเหตุผลจนจบกระบวนความ ซึ่งประธานไม่สามารถที่จะรวบรัด หรือจำกัดเวลาการอภิปรายได้ โดยเฉพาะ 4 ประเด็นใหญ่ ที่จะต้องอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง เช่น 1.ที่มาของส.ส.ร. 2. จำนวนของส.ส.ร. 3.คุณสมบัติของส.ส.ร. และ 4.กระบวนการเลือกตั้งของส.ส.ร. ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผู้แปรญัตติเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้สงวนคำแปรญัตติแต่ละคน ก็มีเหตุผลที่มีน้ำหนักแตกต่างกันไป อาจจะต้องมีการอภิปรายในแต่ละประเด็นหลายชั่วโมง ซึ่งไม่นับรวมไปถึงรายละเอียดในมาตราปลีกย่อย ที่มีสมาชิกสงวนคำแปรญัตติในทุกมาตรา
"ไม่เว้นแม้แต่มาตรา 1 เรื่องชื่อของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ระบุว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ... โดยผมได้แปรญัตติในมาตรา 1 นี้โดยให้ชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญรวบรัดเพื่อทักษิณแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.... มาตรานี้แม้จะถูกขัดขวางไม่ให้แปรญัตติ จากสมาชิกของพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่ผมถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ในฐานะสมาชิกรัฐสภา และจะอภิปรายเหตุผลว่าทำไมต้องเรียกว่ารวบรัดเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยพร้อมที่จะแฉกระบวนการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการฯ ว่ามีการรวบรัดเป็นเผด็จการ เอาเสียงข้างมากลากไปอย่างไรบ้าง และถือโอกาสที่การพิจารณาวาระ 2 มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ ให้ประชาชน ได้รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ทำไปก็เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณโดยแท้จริง"นายเทพไท กล่าว
