xs
xsm
sm
md
lg

สงกรานต์เทศกาลแห่งความตาย (1)

เผยแพร่:   โดย: ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต

เทศกาลสงกรานต์ปีนี้มาพร้อมกับความทุกข์ยากของประชาชน ข้าวยากหมากแพง น้ำมันขึ้นราคาต่อเนื่อง สวนทางกับตลาดโลกเสียด้วยซ้ำ อ้างราคาน้ำมันสำเร็จรูปของปาป๊ามาม้าที่สิงคโปร์ ทั้งที่ราคาน้ำมันในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และพม่ายังถูกกว่าบ้านเรา คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยหาเสียงไว้ก่อนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า จะกระชากราคาค่าครองชีพลงมา จะลดราคาน้ำมัน จะยกเลิกกองทุนน้ำมัน มาถึงวันนี้คำพูดทั้งหมดที่กล่าวมาคือการโกหกประชาชนโดยไม่มีความละอาย และไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ ตามเยี่ยงอย่างวิญญูชนในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกเขาทำกัน

บ้านเมืองวิกฤตไปทุกด้าน แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่รู้จักความหมายของคำว่า “ธุดงควัตร” ซึ่งตามปกติจะออกธุดงค์กันตามป่าตามเขาเพื่อปลีกวิเวกหลีกเลี่ยงผู้คน หากไม่จำเป็นก็จะไม่เดินบนถนนด้วยซ้ำ ไม่ใช่เรื่องของการมาโปรดสัตว์ แต่เป็นเรื่องของการฝึกจิตบำเพ็ญเพียรเพื่อกำจัดกิเลส พระบางรูปเพิ่งบวชมาใหม่ๆ ไม่เคยไปธุดงค์ที่ไหน ผ่ามาธุดงค์โชว์ตามศูนย์การค้า มีการโฆษณาด้วยป้าย จัดสายบอกบุญ เกณฑ์ญาติธรรมมาโปรยกลีบกุหลาบให้เดินบนเสื่อสีแดง ธุดงค์กลางเมืองให้รถติดกันวินาศสันตะโร ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งบ้านทั้งเมือง เกิดมาไม่เคยเห็นก็ได้เห็น การอวดอุตริผิดจากคณะสงฆ์อื่นๆ ที่เคยทำ ไม่เห็นมหาเถรสมาคมจะออกมาตักเตือนอะไรบ้าง อย่าให้ชาวบ้านต้องเหลืออดเลย

ในสมัยพุทธกาล เมื่อย่างเข้าฤดูฝน ชาวนาเขาทำนาทำไร่กัน พระก็เดินไปตามนาเหยียบข้าว เหยียบพืชไร่ของชาวบ้าน เมื่อมีคนไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงกำหนดให้พระหยุดการจาริกไปตามที่ต่างๆ โดยจำพรรษาในฤดูฝน ภิกษุอยู่ได้ด้วยภิกขาจารคือการบิณฑบาตขอเขากินเพื่อให้ได้อาหารมาเลี้ยงชีพ ทุกวันนี้พระไม่ต้องง้อฆราวาสแล้ว บางรูปไม่เคยบิณฑบาตโปรดสัตว์เลย สั่งอาหารภัตตาคารหรือไม่ก็มีแม่ยกคอยรับออร์เดอร์ไม่ว่าจะโปรดอาหารอะไรก็คอยจัดหามาให้บำรุงกิเลส ในขณะที่ชาวบ้านหากินกันเลือดตาแทบกระเด็น

ศาสนาไม่ได้เสื่อมถอยลง แต่เพราะคนไม่ดีใช้ศาสนาเป็นเครื่องบังหน้า เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ ไม่ต่างอะไรจากนักการเมืองบ้านเรา คนทำชั่วได้ครองเมืองให้เห็นตำตา เป็นสมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติ เตะต่อยเพื่อนสมาชิกในสภา ศาลชั้นต้นสั่งลงโทษก็อ้างคดียังไม่สิ้นสุดอยู่ต่อไป กกต.ชี้มูลว่านายจตุพรไม่มีสิทธิเป็น ส.ส.ทั้งที่ก็รู้ตัวดีแต่ก็ยังดันทุรังอ้างรอศาลสั่งก่อน รัฐมนตรีบางคนในอดีตเคยทำผิดก็ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ไม่ว่าจะโดนคดีอาญามาตรา 157 ประพฤติผิดวินัยร้ายแรง หรือคนที่เคยประกาศปลุกระดมให้ผู้คนเผาบ้านเผาเมือง “เผาเลยครับ ผมรับผิดชอบเอง” มาวันนี้ผิดไม่รับ รับแต่ชอบ ยังมีนักค้ายาเสพติด เจ้ามือหวย เจ้าของซ่อง ฆาตกร ฯลฯ ลอยนวลอยู่ในสภาและรัฐบาล จะมีอะไรเหลือให้ลูกหลานดูเป็นตัวอย่างที่ดีบ้างไหม

จะพูดเรื่องสงกรานต์ พาลไปหาเรื่องกับพระและสีกาโฟร์ซีซั่น ประเพณีบ้านเมืองทุกวันนี้ก็วิปริตผิดเพี้ยนกันไปด้วย เพราะแนวนโยบายแห่งรัฐเช่นกัน เราปล่อยให้เมืองหลวงเจริญเติบโตอยู่ที่เดียว ผู้คนจึงหลั่งไหลกันเข้ามาหางานหาเงินในเมืองใหญ่ เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดหลายวันแบบนี้ ผู้คนจึงเบียดเสียดยัดเยียดกันกลับบ้านเพื่อไปพบหน้ากับครอบครัว แต่ทุกปีจะมีคนราว 300-400 คนที่ไปไม่ถึงบ้านหรือได้กลับบ้านเป็นครั้งสุดท้าย กลายเป็นเทศกาลแห่งความตาย คนอีกหลายพันต้องไปร่วมงานศพแทนงานรื่นเริง ทหารอเมริกันบุกยึดอิรักสูญเสียชีวิตไป 200 กว่านาย คิดดูแล้วยังน้อยกว่าคนตายในช่วงเทศกาลสงกรานต์บ้านเราเสียอีก นี่ยังไม่นับที่บาดเจ็บอีกนับพัน

ไม่เฉพาะคนตายกันมากในเทศกาลนี้เท่านั้น วัฒนธรรมประเพณีดีๆ ก็ล้มหายตายจากกันไปด้วย สมัยก่อนเราแค่ทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ เล่นน้ำสงกรานต์กันพอประมาณเพื่อคลายร้อนในเดือนเมษายน เป็นเรื่องเหมาะสมซึ่งสืบทอดกันมาช้านาน แต่ปัจจุบันงานสงกรานต์แต่ละจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหลายพากันโฆษณาชูจุดขายเพียงเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว ดูอย่างบุรีรัมย์เมืองคนดัง ถึงกับลงทุนจ้างดาวโป๊จากญี่ปุ่นมาเล่นคอนเสิร์ตในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ใครวิพากษ์วิจารณ์ก็ถูกด่ากลับ “ผมมีตังค์ พ่อผมรวย ผมจะจัดใครจะทำไม” วันนี้ทุกแห่งจึงแข่งกันโฆษณาเอกอัครอภิมหาสงกรานต์เพื่อแย่งนักท่องเที่ยวกัน จังหวัดเชียงใหม่จากที่เคยดังๆ ก็ถูกแย่งซีนจากหลายพื้นที่

ผมอยู่เชียงใหม่มานานพอจะเห็นวิวัฒนาการของสงกรานต์ที่นี่ ยังทันได้เห็นแม่หญิงขี่รถถีบกางจ้องไปแอ่วงานวัด อ้ายหนุ่มใส่ชุดม่อฮ่อมคาดผ้าขาวม้าถือขันใส่น้ำเจือน้ำอบน้ำปรุงลอยกลีบดอกไม้ ดีดน้ำใส่สาวๆ กันสนุกสนานแค่พอให้ได้เปียก ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว สงกรานต์เชียงใหม่เล่นน้ำกันเอาเป็นเอาตาย บางคนตายจริงๆ เพราะถูกสาดน้ำใส่กระจกหน้ารถอย่างแรงทำให้มองทางไม่เห็น ขับรถพุ่งไปชนต้นไม้ถึงแก่ชีวิต อีกรายเคยเห็นกับตาว่ากระโดดลงจากรถไปไล่ฟันคนที่สาดน้ำใส่แฟนตัวเองอย่างแรงจนตกรถมอเตอร์ไซค์ บางรายลงทุนใช้เครื่องสูบน้ำตั้งบนรถ บ้างก็ใช้ถัง 200 ลิตรใส่น้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ ลงไปให้น้ำเย็นเฉียบ ลูกเล็กเด็กแดงบางคนหนาวสั่นงันงกจนต้องหามส่งโรงพยาบาล

สงกรานต์ยุคนี้เขาไม่ได้เล่นกันอย่างแต่ก่อนแล้ว มันกลายเป็นเกมซาดิสต์ที่บางคนถือโอกาสระบายแค้นผ่านน้ำ และที่ทันสมัยคือไม่ใช้ขันน้ำหรือกระป๋องกันแล้ว พ่อค้าหัวใสเอาปืนฉีดน้ำออกมาขายหลากหลายรูปแบบ บางชนิดแรงดันสูงมาก ฉีดใส่ลูกตาจนตาแตกเลือดอาบก็ยังมี ประเทศนี้เสรีภาพล้นเหลือ เล่นกันถึงตาย แต่คนก็ยังบ้าคลั่ง อยากออกมาเล่นกันมากขึ้นด้วยแรงโฆษณา

เมื่องานอภิมหาสงกรานต์รวมศูนย์กลางกระจุกตัวอยู่เฉพาะในเมืองใหญ่เช่นเดียวกับการเมือง ประเพณีสงกรานต์ในบ้านนอกจึงเงียบเหงา ตกเย็นจึงเห็นเพียงพ่ออุ๊ย แม่อุ๊ย กับตุ๊เจ้าเฒ่าขนทรายเข้าวัดอย่างเดียวดาย พระหนุ่ม เณรแต๋ว เด็กเล็ก และคนหนุ่มสาวในหมู่บ้านแห่กันไปซื้อตั๋วสงกรานต์เพื่อดูคอนเสิร์ตและแย่งกันดูโคโยตี้

อนิจจา สงกรานต์
กำลังโหลดความคิดเห็น