โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
บ้านเมืองตกอยู่ในยุควิปริต อาเพศ อุบาทว์จากกรรมชั่ว กลุ่มชนฝ่ายเดียวกันมีพฤติกรรมต่างกัน แยกกันเดินหน้าด้วยยุทธวิธีแยบยล ซ่อนกล หักดิบซึ่งหน้า เพื่อสู่ผลสุดท้ายเป็นการประสานประโยชน์ แต่ไม่เกิดมรรคผลยั่งยืนจีรังของสังคมธรรมไทย
นี่เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่าน สู่จุดหักเห จะลงเอยด้วยความรุ่งเรือง หรือจบเห่ด้วยความเสื่อมของความเป็นชาติ ขึ้นอยู่กับกระแสอำนาจธรรมของประชาชนซึ่งรู้จักแยกผิดถูก ชั่วดี กล้าต้านกิเลศ ความท้าทายต่อหลักคุณธรรม หิริโอตตัปปะส่วนบุคคล
จุดเปลี่ยนสำคัญ อยู่ที่ความเป็น “ทักษิณ” ตัวกำหนดกลไกของมวลชนเสื้อแดง มีรากเหง้าประวัติของการใช้ความรุนแรง กล้าประกอบอาชญากรรม มีพลังหนุนในกลุ่ม “โล้นห่มเหลือง” แยกเป็น 2 ขั้ว คือขบวนโจรการเมือง และนักบวชกำมะลอ อลัชชี
ถ้าเหลี่ยมร้ายยังคงอยู่ เป็นศูนย์รวมอำนาจมีศักยภาพเชิงทำลายคุณค่าความเป็นชาติ ความดีงาม ศีลธรรม มีเครือข่ายอาชญากร ชนทุศีลอลัชชีเป็นผีโม่แป้งร่วมกัน สังคมธรรมต้องเผชิญกับความท้าทายว่าจะกล้าหาญลุกขึ้นสู้กับอำนาจอธรรมหรือไม่
ถ้าคนดียังเพิกเฉย ให้ความเสื่อมทรามในสังคมครอบงำโดยขบวนการกังฉิน อาชญากร และมีอลัชชี โล้นห่มเหลืองฉาบหน้า หนทางรอดจากการล่มสลายน่าจะยากเป็นแน่แท้! ถ้าคนดีปล่อยให้ขบวนการจัญไรย่ำยีบ้านเมือง เท่ากับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
คนดีที่ว่านี้ หลอกตัวเองว่า “เป็นกลาง” “ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง” ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง มองสภาพการณ์พร้อมยึดสุภาษิต “อย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง” “น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง” “อย่าเอามือไปซุกหีบ” สารพัดข้ออ้างเพื่อเอาตัวรอด ให้ดูดี สูงส่ง
เราเห็นขบวนการมวลชนเผ่าเสื้อแดงมีแกนนำสู้แล้วรวย หลอกกลุ่มรากหญ้าแพรกให้เป็นฐานหนุน ตัวเองได้ยกระดับเป็นอำมาตย์ เสวยสุขพร้อมเงินเดือนเป็นแสน ผลประโยชน์เกี่ยวโยงตำแหน่ง ใช้ร้อยลิ้นกะลาวนให้รากหญ้าเสพคำมั่นลมๆ แล้งๆ
แกนนำขบวนการเหล่านี้พร้อมปลุกระดม ปั่นหัวรากหญ้าสติปัญญาอ่อนด้อยให้ออกมานั่งยืนตากแดด แลกข้าวกล่อง น้ำขวด เบี้ยเลี้ยงไม่กี่ร้อยบาทรายวัน เพื่อเป็นกันชนป้องกันการรัฐประหารคือขบวนการมวลชนอื่นๆ ซึ่งไม่ยอมให้เหลี่ยมร้ายเถลิงอำนาจ
ขบวนการนี้มีกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ ชนกลุ่มน้อย รับจ้างรบแลกกับเงินชั่ว งบประมาณเบียดบังจากเงินกู้ และภาษีจากคนในสังคมธรรม หวังกุมอำนาจรัฐให้เหลี่ยมร้ายและเครือข่ายได้ล้างผลาญทรัพย์สินแผ่นดิน ขายชาติให้คนต่างแดนต่อไป
อีกเครือข่ายคือนักการเมืองฝักถั่ว ผีโม่แป้ง ในรัฐสภา รับบทเป็นตรายางเพื่อทำงานชั่วร้ายต่างๆ เช่นความพยายามล้มศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ขบวนการอาชญากร ทุรชน เดนคุกตะรางพวกเดียวกัน
กลุ่มอาชญากรการเมืองพยายามอ้างเสียง 15 ล้านคน ซึ่งมีทั้งพวกถูกหลอกลวงด้วยสัญญาค่าแรงเพิ่ม น้ำมันถูก เงินกองทุน บัตรเครดิต แท็บเล็ต ภายไต้นโยบายประชานิยม เดินหน้าล้มล้างรัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรมให้เหลี่ยมร้าย คนหนีคุก
กลุ่มผีโม่แป้งในสภาเร่งเดินเกมหักดิบ เดินหน้าอย่างอหังการ ไม่แยแสความรู้สึกของประชาชนเสียงส่วนใหญ่ คำท้วงติงจากคนในภาคส่วนสังคมอื่นๆ นึกว่าเหลี่ยมร้ายกุมอำนาจเด็ดขาดแล้ว ไม่มีพลังใดต้าน มีมวลชนรากหญ้าแพรกพร้อมเป็นเหยื่ออีกรอบ
กลุ่มพลังโล้นห่มเหลือง อลัชชีนิกาย “บวชแล้วรวย” เร่งขยายเครือข่ายสาวกเช่นกัน อาศัยเงินทุนมหาศาลหลอกล่อมาจากคนรวยบ้องตื้น มัวเมาในคำสั่งสอนธรรมกำมะลอโดยตัวพ่อ “นะจ๊ะ” สละเงินทองมุ่งสู่สวรรค์ แต่ในชีวิตจริงจมปลักอยู่ในอเวจีแห่งความหลงในเล่ห์คำสอนของเจ้าตำรับอวิชชา เปิบหูฉลาม อบสมุนไพร นวดสปา
นับวันจำนวนของโล้นห่มเหลือง นักเทศกำมะลอ บวชด้วยเบี้ยเลี้ยงจะโฉ่งฉ่าง ออกนอกตำรา ส่งตัวแทนไปหว่านล้อมลูกหลานชาวนารากหญ้าแพรกในภาคเหนือ อีสาน และส่วนอื่นๆ ให้เข้าพิธีกรรม “บวชด่วน” เร่งสร้างเครือข่าย ทำยอดให้ทะลุเป้า
ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา คนเมืองหลวงส่วนหนึ่งต้องทุกข์ทรมานกับปัญหาจราจร มีรายการอีเว้นท์เดินหน้าแสวงบุญ ธุดงค์ป่าคอนกรีต เปิดโอกาสให้นักบวชโล้นจากชนบทนาดอนได้สัมผัสกิเลสจากพลังทุนนิยมสามานย์ มือใครยาวสาวได้สาวเอา
มีเสียงสวดชยันโตดังขรมรอบทิศ จากชาวบ้านผู้ไม่ตกเป็นเหยื่อขบวนการธรรมกำมะลอของหลวงพ่อ “นะจ๊ะ” เมื่อเห็นฉากอีเว้นท์ซื้อดอกกุหลาบจากคุนหมิงมูลค่าหลายแสนบาทเอามาโปรยบนเส้นทางปูด้วยเสื่อ พรม ให้แถวคนหัวโล้นเดินธุดงค์เทียม
นอกจาก 3 ขบวนการ ยังมีกลุ่มข้าราชการ ตำรวจ ทหาร มะเขือเทศ แตงโม พวกทรยศแผ่นดินแลกกับเศษเงินเหลี่ยมร้ายเป็นเครือข่ายขยายจนยากต่อการสกัด หมู่บ้านเสื้อแดงเพิ่มขึ้น ประสานพลังเป็นฐานกลายเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ
ชาวบ้านทั่วไปยังมองไม่ชัดว่าจากนี้ไปบ้านเมืองจะอยู่ในสภาพอย่างไร ดูเผินๆ ขบวนการเหลี่ยมร้ายเป็นต่อ แทบหาคนรองไม่ได้! คนดี กำมะลอ เปิดหน้าถลาเข้ายอมสยบ สวามิภักดิ์แลกกับโอกาสได้อำนาจ วาสนา เงินตรา กล้าขายชาติไร้จิตสำนึกดี
แม้กระนั้น บรรดาโหราจารย์ นักวิเคราะห์ต่างพยากรณ์ว่าขบวนการเหลี่ยมร้ายเร่งเดินหน้าท้าทาย พร้อมแตกหัก! มีความเสี่ยงจะเกิดการเผชิญหน้า ปะทะกันด้วยกำลัง สงครามกลางเมือง ไทยฆ่าไทย ด้วยจิตสำนึก อุดมการณ์ เป้าหมายต่างกัน
เสียงร่ำลือกันว่าจากกลางเมษายนเป็นต้นไปน่าจะเกิดเหตุไม่พึงปรารถนา เมื่อเหลี่ยมร้ายกดหัวคนสังคมธรรมให้ยอมสยบต่อเงื่อนไขปรองดอง นั่นย่อมเกิดแรงต้าน! เสียงเตือนว่าจะเกิดมิคสัญญีไม่มีเสียงสะท้อนให้เห็นความหวาดหวั่น เพียงแต่คำย้อนว่า “อะไรจะเกิดก็ให้เกิด” “จะเอาหรือยัง รอมานานแล้ว” “ครั้งนี้จะเผาเมืองไม่ง่ายแน่”
ต้องถาม “ทักษิณ” ว่ายังเดินทุรังหักดิบ แน่ใจหรือว่าน้องปูโพรกจะ “เอาอยู่” และจะได้ “อยู่เอา” อีกต่อไป? ถ้า “เอาไม่อยู่” ทางเลือกคือต้องอพยพไปอยู่ดูไบทั้งโคตร เพราะคนไทยรักหวงแผ่นดินไม่ยอมหนีแบบคนขี้ขลาดตาขาวแน่ๆ!!