ASTVผู้จัดการรายวัน- บอร์ดกนอ.เคาะแผนสร้างคันกั้นน้ำถาวรใน 6 นิคมฯที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมได้แก่ นิคมฯ บางพลี บางชัน ลาดกระบัง บางปู สมุทรสาครและพิจิตร โดยจะขอรับเงินสนับสนุนจากออมสิน 5,415 ล้านบาท เร่งให้เสร็จส.ค. 55 สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและระบบประกันภัยของประเทศเพิ่มเติม
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(บอร์ดกนอ.) เปิดเผยหลังการประชุมวานนี้(29มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้กนอ.ขอรับการสนับสนุนวงเงินกู้ประมาณ 5,415 ล้านบาทผ่านธนาคารออมสิน เพื่อก่อสร้างเขื่อนหรือคันกั้นน้ำถาวรในนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่งที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกนอ.ได้แก่ นิคมฯบางชัน ลาดกระบัง บางพลี บางปู สมุทราสาคร และพิจิตร โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในส.ค. 55
“การกู้เงินจะเป็นไปตามกรอบเดียวกับนิคมฯที่ถูกน้ำท่วมที่รัฐบาลสนับสนุนเงินผ่านธนาคารออมสินให้โดยล่าสุดได้ปรับเงื่อนไขการชำระคืนจาก 7 ปีเป็น 15 ปี ซึ่งแนวทางดังกล่าวก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนเองและรวมไปถึงระบบประกันภัยของประเทศด้วย”นายวิฑูรย์กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบการปรับปรุงข้อบังคับมาตรฐานระบบสาธารณปโภคสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการในนิคมอุตสาหกรรม พ.ศ . 2548 ใหม่กำหนดให้นิคมฯในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมจากลุ่มแม่น้ำสำคัญต้องมีระบบดูแลและป้องกันน้ำท่วมทั้งระบบบ่อรับน้ำ เครื่องสูบน้ำ ฯลฯ
นายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่ากนอ.กล่าวว่า หลังจากนี้กนอ.จะต้องไปศึกษารายละเอียดเนื่องจากหลักการของรัฐบาลนั้นจะมีการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือ 2 ใน 3 ของเงินลงทุนสร้างระบบคันกันน้ำดังนั้นนิคมฯดังกล่าวก็อาจจะกู้เพียง 1,800 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนรายได้ที่จะต้องนำมาชำระหนื้คืนก็จะต้องไปจัดทำรายละเอียดควบคู่กันไปด้วยซึ่งมีหลายวิธีการ
“ก็คงจะต้องรอความชัดเจนของเงิน 2 ใน 3 ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอผ่านไปยังคณะกรรมการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยหรือกฟย.ก่อนที่จะเสนอครม. ซึ่งเบื้องต้นก็ได้มีการหารือกันว่าเงินดังกล่าวอาจจะผ่านมายังสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นตัวกลางในการพิจารณาจัดสรรเงินดังกล่าว ซึ่งระหว่างนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณาราคากลางของเขื่อน
นายนราพจน์ ทิวถนอม รองผู้ว่าการกนอ.กล่าวถึงแนวทางการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนครหลวง และบางปะหัน ซึ่งนิคมฯสหรัตนนคร อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ว่า แผนระยะสั้น ในการดูแลปริมาณน้ำ จะดำเนินการขุดลอกคูคลองสาธารณะตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการระบายน้ำ การระบายน้ำออกจากเขื่อน ยกระดับเส้นถนนที่ล้อมรอบให้มีระดับที่สูงขึ้น โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ควบคู่ไปกับแผนการสร้างคันกั้นน้ำของนิคมฯสหรัตนนคร
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(บอร์ดกนอ.) เปิดเผยหลังการประชุมวานนี้(29มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้กนอ.ขอรับการสนับสนุนวงเงินกู้ประมาณ 5,415 ล้านบาทผ่านธนาคารออมสิน เพื่อก่อสร้างเขื่อนหรือคันกั้นน้ำถาวรในนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่งที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกนอ.ได้แก่ นิคมฯบางชัน ลาดกระบัง บางพลี บางปู สมุทราสาคร และพิจิตร โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในส.ค. 55
“การกู้เงินจะเป็นไปตามกรอบเดียวกับนิคมฯที่ถูกน้ำท่วมที่รัฐบาลสนับสนุนเงินผ่านธนาคารออมสินให้โดยล่าสุดได้ปรับเงื่อนไขการชำระคืนจาก 7 ปีเป็น 15 ปี ซึ่งแนวทางดังกล่าวก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนเองและรวมไปถึงระบบประกันภัยของประเทศด้วย”นายวิฑูรย์กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบการปรับปรุงข้อบังคับมาตรฐานระบบสาธารณปโภคสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการในนิคมอุตสาหกรรม พ.ศ . 2548 ใหม่กำหนดให้นิคมฯในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมจากลุ่มแม่น้ำสำคัญต้องมีระบบดูแลและป้องกันน้ำท่วมทั้งระบบบ่อรับน้ำ เครื่องสูบน้ำ ฯลฯ
นายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่ากนอ.กล่าวว่า หลังจากนี้กนอ.จะต้องไปศึกษารายละเอียดเนื่องจากหลักการของรัฐบาลนั้นจะมีการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือ 2 ใน 3 ของเงินลงทุนสร้างระบบคันกันน้ำดังนั้นนิคมฯดังกล่าวก็อาจจะกู้เพียง 1,800 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนรายได้ที่จะต้องนำมาชำระหนื้คืนก็จะต้องไปจัดทำรายละเอียดควบคู่กันไปด้วยซึ่งมีหลายวิธีการ
“ก็คงจะต้องรอความชัดเจนของเงิน 2 ใน 3 ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอผ่านไปยังคณะกรรมการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยหรือกฟย.ก่อนที่จะเสนอครม. ซึ่งเบื้องต้นก็ได้มีการหารือกันว่าเงินดังกล่าวอาจจะผ่านมายังสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นตัวกลางในการพิจารณาจัดสรรเงินดังกล่าว ซึ่งระหว่างนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณาราคากลางของเขื่อน
นายนราพจน์ ทิวถนอม รองผู้ว่าการกนอ.กล่าวถึงแนวทางการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนครหลวง และบางปะหัน ซึ่งนิคมฯสหรัตนนคร อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ว่า แผนระยะสั้น ในการดูแลปริมาณน้ำ จะดำเนินการขุดลอกคูคลองสาธารณะตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการระบายน้ำ การระบายน้ำออกจากเขื่อน ยกระดับเส้นถนนที่ล้อมรอบให้มีระดับที่สูงขึ้น โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ควบคู่ไปกับแผนการสร้างคันกั้นน้ำของนิคมฯสหรัตนนคร