xs
xsm
sm
md
lg

ช่วยกันจับ“หน้าเหลี่ยม”แก้ผ้ากันดีกว่า!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

รวย-จน-ดี-ชั่ว“ชีวิตเกิดมาแค่ครั้งเดียว”และ“ชีวิตก็ตายได้แค่ครั้งเดียว”เหมือนกัน!

ความตาย-จึงมิใช่เรื่องน่ากลัว แต่ชีวิตนี้..เลือกจะตายแบบไหนได้ นี่สิสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด..

หากตายเพราะทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพียงเพื่อให้“หน้าเหลี่ยม”ร่ำรวยอำนาจล้นฟ้า-เงินทองท่วมดิน จะมีคนแซ่ซร้องก็แค่..อภิมหาโจรการเมือง“หน้าเหลี่ยม”กับเหล่าทุรชนเผาบ้านเผาเมืองเท่านั้น

หากตายเพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตายเพื่อความถูกต้อง-เพื่อคุณธรรม ความตายอันยิ่งใหญ่เยี่ยงนี้ย่อมได้รับเสียงสรรเสริญจากคนส่วนใหญ่ของชาติ

ผมขอคารวะหัวใจคนไทยมากมายที่เลือกตายแบบหลังครับ!

ดีใจ..ที่มีนักวิชาการผู้กล้าและรักชาติ นาม“กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์” ที่เปิดเวทีเสวนาทางวิชาการ เรื่อง“วิกฤตประเทศไทย ใครคือตัวการ” เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งให้ความรู้แก่ประชาชนคนไทยที่พอสรุปได้คร่าวๆ ว่า

ก่อนปี 2535 ทหารมีอำนาจมากในสังคมไทย แต่หลังปี2535 การเมืองไทยเป็นระบบเผด็จการพรรคนายทุน(ผูกขาดสามานย์-ผมเติมเอง) เหตุการณ์วันที่ 21 สิงหาคม 2544 ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินคดีซุกหุ้น“ทักษิณ ชินวัตร”ว่า“บกพร่องโดยสุจริต” ซึ่งถือเป็นวันที่รัฐธรรมนูญ 2540 “หักลง” หรือ “เป็นวันรัฐธรรมนูญตายแล้ว” ด้วยน้ำมือ“ทักษิณ ชินวัตร”นั่นเอง

พรรคการเมืองกลายเป็น “บริษัทการเมือง” ตามรัฐธรรมนูญแต่มิใช่พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน หากแต่เป็น“สมบัติส่วนตัว”ของนายทุนเจ้าของพรรคที่ควบคุมและบงการได้ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภาและฝ่ายบริหารหรือรัฐบาล ดังนั้นผลประโยชน์ที่ประชาชนควรได้รับจึงตกไปเข้ากระเป๋า“นายทุนเจ้าของพรรคการเมือง”เท่านั้น

1 ครอบครัว 3 นายกรัฐมนตรี เป็นความจริงในประเทศไทย ที่ได้อธิบายถึงการครอบครองเป็นเจ้าของพรรค ของนายทุนผูกขาดที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”อย่างชัดแจ้ง พวกนายทุนพรรคเหล่านี้จะใส่เสื้อคลุมประชาธิปไตย แต่เนื้อในเป็นเผด็จการรัฐสภา

รัฐธรรมนูญ-บอก ส.ส.เป็นผู้แทนปวงชน แต่ ส.ส.กลับถูกบังคับให้ต้องสังกัดพรรค ทั้งที่พรรคทุกพรรคในประเทศไทยเป็นของนายทุนโดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่คุมอำนาจรัฐในวันนี้ เป็นพรรคของนายทุนผูกขาดสามานย์ที่ฉ้อฉลจนทำให้เกิดวิกฤตชาติบานปลายอยู่ในวันนี้

ยิ่งการจะลงสมัครรับเลือกตั้งมีกฏกติกาว่า ส.ส.จะต้องเข้าสังกัดพรรคภายใน 90 วัน หากเจ้าของพรรคเกิดรวมหัวไม่ยอมส่ง ส.ส.คนไหนลงแข่งขัน ผู้สมัคร ส.ส.คนนั้นก็หมดสิทธิ์จะลงสมัครทันที

ที่สำคัญในทางลับ..เจ้าของพรรคจะให้ ส.ส.ทุกคนเขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว อ้าว..ทีนี้ ส.ส.จะทำอย่างไรล่ะ ระหว่างการเป็นผู้แทนของปวงชน กับการทำตามคำสั่งหัวหน้าพรรคหรือนายทุนเจ้าของพรรค

หาก ส.ส.เลือกทำให้ปวงชน..ก็จะโดนไล่ออกจากพรรคจึงไม่มีอีกแล้วที่ ส.ส.จะทำเพื่อประชาชน มีแต่ ส.ส.หักหลังประชาชนไปทำตามความต้องการของนายทุนเจ้าของพรรคการเมือง

ประเทศไทยจึงเป็นประธิปไตยกำมะลอ เพราะเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีกฏหมาย “ขังหมู่ ส.ส.ไว้ในคุกพรรคการเมือง” ส่งผลให้ ส.ส.ไทยไม่ใช้สมอง-ใช้แต่มือยกตามคำสั่งนายทุนเจ้าของพรรคเท่านั้น

ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา ได้ปาฐกถาในหัวข้อ“ระบอบประชาธิปไตย พ.ศ.2535 มาเป็นระบบเผด็จการ โดยพรรคการเมืองนายทุนในระบบรัฐสภา” โดยพูดถึงจุดอ่อนรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ จากนั้น ศ.ดร.อมรยังพูดถึงการปรองดองว่า

ความปรองดองที่นักการเมืองพยายามอ้างถึงนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะการปรองดองที่ว่า คือ การออกกฏหมายเอาคนผิดมากอดคอกับคนถูก หรือเอาคนที่คอร์รัปชั่นมารวมกับคนสุจริต เพื่อให้คนทุจริตบริหารประเทศและคอร์รัปชั่นต่อไป

วิธีการที่จะทำให้เกิดการปรองดอง คือ ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยเอาคนดีมาปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การครอบงำของการปกครองระบบเผด็จการโดยพรรคการเมืองนายทุนในระบบรัฐสภานั่นเอง

ฟัง“กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์”แล้ว ผู้คนสรุปได้ว่า..นายทุนผูกขาดสามานย์อภิมหาโจรการเมือง“หน้าเหลี่ยม” เจ้าของ“พรรคเผาไทย”นี่แหละที่เป็นต้นเหตุหรือต้นตอวิกฤตชาติไทยโดยแท้!

งานนี้“หน้าเหลี่ยม”เลยถูก“กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์” จับ“แก้ผ้าทีละชิ้น”กลางท้องสนามหลวงเลยครับ

แต่การแก้ผ้าของ“หน้าเหลี่ยม”ครั้งนี้ สื่อเสรีใต้บาทารัฐบาลนอมีนี“ปูแดง” ไม่ได้ถ่ายทอดหรือรายงานข่าวในเรื่องนี้เท่าที่ควร เรียกว่า..ทั้งสื่อรัฐและสื่อเอกชนบางแห่งกลับหยิบสากกะเบือมาเป่าเล่นอย่างหน้าตาเฉย!

อย่างไรก็ตาม..เรื่องจริงทางวิชาการ จากบรรดาอาจารย์“กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์”นั้น เป็นเทียนแห่งปัญญาอีกเล่มหนึ่ง ที่ส่งความรู้ให้กับผู้รักชาติบ้านเมืองให้หูตาสว่างขึ้นมาอีกพะเรอเกวียน

น่าเสียดายที่เวลาแห่งการเรียนรู้ครั้งนี้..น้อยไป โอกาสหน้าอันไม่ไกลนัก ปัญหา“หน้าเหลี่ยม”ที่ทำชั่วกับบ้านเมือง คงจะถูก“กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์”ลากจากใต้พรมออกสู่ที่แจ้ง เพื่อให้ผู้คนได้รู้ถึงความสกปรกที่“หน้าเหลี่ยม”กับพวกได้ก่อร่างสร้างไว้บนผืนแผ่นดินไทยอีกครั้ง

ทั้งในเรื่องการโกงบ้านโกงเมือง ทั้งในเรื่องการปล่อยให้ขบวนการล้มเจ้า ปฏิบัติการล้มเจ้าอย่างสบายใจเฉิบ ด้วยรัฐบาลนอมีนีเครือข่าย“หน้าเหลี่ยม”แอบขยิบตาด้วยข้ออ้างว่า

กลุ่มบั่นทอนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหลายมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเสรี ทั้งๆ ที่รัฐบาล“ปูแดง”มีหน้าที่ที่จะต้องบังคับใช้กฏหมายกับคนผิดอย่างตรงไปตรงมา

เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปี2550 ระบุไว้ใน “หมวด 2 พระมหากษัตริย์ มาตรา 8” อย่างชัดแจ้งว่า

“องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”

ดังนั้น การเคลื่อนไหวใดๆ ทางการเมือง เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์โดยนักวิชาการกำมะลอบางกลุ่มที่อ้างเสรีภาพบังหน้าแบบส่งเดชจึงมิใช่เสรีภาพทางวิชาการที่เที่ยงธรรมและบริสุทธิ์ในเชิงสร้างสรรค์

หากแต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สอดประสานเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ เพื่อหวังจะเปลี่ยนรัฐไทยเก่าให้เป็นรัฐไทยใหม่ตามจุดประสงค์ทางการเมืองของนายทุนผูกขาดสามานย์“หน้าเหลี่ยม” ซึ่งกำลังทรงอิทธิพลทางการเมืองในประเทศไทยยามนี้

ดังนั้น“หน้าเหลี่ยม”กับพลพรรคแดงล้มเจ้า จึงต้องบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อ่อนแอ ดุจดั่งกษัตริย์ในประเทศกัมพูชา ภายใต้อุ้งมือเผด็จการ“ฮุนเซน”เพื่อนสนิทของ“ทักษิณ ชินวัตร”

ทั้งๆ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอยู่เหนือการเมือง แต่อภิมหาโจรการเมือง“หน้าเหลี่ยม”กลับดึงพระองค์ลงต่ำ เพราะมองพระมหากษัตริย์เป็นอุปสรรคต่อการโกงกินชาติ และกีดขวางคนชั่วมิให้มีอำนาจ ขบวนการล้มเจ้าที่มี“หน้าเหลี่ยม”หนุนหลัง จึงเดินหน้าปฏิบัติการล้มเจ้าอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง

พฤติกรรมชั่วที่บรรยายไม่รู้จบของ“หน้าเหลี่ยม”ที่ถูกเปิดโปงไปแล้วต้องช่วยกันขยายออกไปให้ประชาชนได้รับรู้ในวงกว้างยิ่งขึ้น ส่วนความชั่ว“หน้าเหลี่ยม”ที่ยังไม่ถูกแฉโพย ก็ยังต้องการผู้รู้ผู้กล้าที่รักชาติทั้งหลายช่วยกันเปิดโปงอย่างต่อเนื่องครับ

“หน้าเหลี่ยม”ผู้เหิมเกริมกับอำนาจรัฐในกำมือ ผู้บงการรัฐบาลนอมีนี“ปูแดง”แบบเบ็ดเสร็จ 100% ผู้ร่ำรวยเงินทองและอำนาจ..แต่ไม่รู้จักพอ ผู้กล้าทำชั่วคอร์รัปชั่นโกงกินชาติ ผู้บังอาจท้าทายและมุ่งจะล้ม“ฟ้า”ทั้งลับและเปิดเผย ฯลฯ

“หน้าเหลี่ยม”นายทุนผูกขาดสามานย์ผู้ไม่ยอมละเว้น-ละทิ้งการทำความชั่ว!

ดังนั้น คนไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่เป็นทั้งผู้กล้า-ผู้รู้-ผู้เห็น-ผู้ตื่น ต้องช่วยกันจับ“หน้าเหลี่ยม”แก้ผ้าให้ล่อนจ้อนต่อไป

เอ้า..ใครเห็นด้วยก็มาร่วมด้วยช่วยกันจับ“หน้าเหลี่ยม”แก้ผ้ากันดีกว่า!
กำลังโหลดความคิดเห็น