ASTVผู้จัดการรายวัน - ออมสินโกยกำไรปี 54 อู้ฟู่ 2.6 หมื่นล้านบาท จากความสามารถในการขยายเงินให้สินเชื่อ การบริหารเงินลงทุน และมีกำไรและเงินปันผลจากเงินลงทุนสูงกว่าปีก่อน รวมถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ส่งผลให้ NPL ลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 0.94% หรือ 12,710 ล้านบาท เผยแผนปี 2555 ยังคงมุ่งเน้นการเป็นสถาบันเพื่อการออม ควบคู่กับเป็นแหล่งทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมและชุมชน
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารออมสิน ประจำปี 2554 ว่า มีกำไรสุทธิก่อนหักผลกระทบมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19 จำนวน 26,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 6,915 ล้านบาท (หากบันทึกรับรู้หนี้สินผลประโยชน์พนักงานในอดีตเป็นค่าใช้จ่าย ภายใน 5 ปี ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ จะมีผลให้กำไรสุทธิเท่ากับ 17,620 ล้านบาท) ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ย สินเชื่อ และกำไรและเงินปันผลจากเงินลงทุน รวมทั้งความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดย ณ สิ้นปี 2554 มีสินทรัพย์รวมถึง 1,772,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2553 จำนวน 308,985 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.12% ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยที่การเติบโตของสินเชื่อทำให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นสุทธิ 240,153 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขยายตัว 21.60% ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อที่ครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อบุคคลรายย่อย สินเชื่อแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก โดยสินเชื่อคงเหลือ ณ สิ้นปี 2554 อยู่ที่ 1,351,990 ล้านบาท โดยที่ธนาคารฯ ยังดำรงสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ 92 : 8
ส่วนด้านการรับฝากเงิน ภายใต้ภารกิจความเป็นสถาบันเพื่อการออมของธนาคารออมสิน ปรากฏว่า ณ สิ้นปี 2554 มียอดเงินฝากรวม 1,525,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 345,508 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.27% โดยในปี 2554 มีผลิตภัณฑ์เงินฝากหลากหลายที่ตอบสนองตรงตามความต้องการของผู้ออมเงิน อาทิ สลากออมสินพิเศษ 3 ปี สลากออมสินพิเศษ 5 ปี สลากออมสินกุศล เงินฝากประจำ 11 เดือน เงินฝากประจำ 15 เดือน เงินฝากประจำ 99 วัน เงินฝากประจำ 66 วัน เงินฝากสงเคราะห์ชีวิต 3 รูปแบบใหม่ เป็นต้น ซึ่งผู้ฝากยังคงให้ความสนใจออมเงินผ่านผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปี 2554 มีเงินฝากประจำและสลากออมสินพิเศษที่ครบกำหนดไถ่ถอนจำนวนกว่า 900,000 ล้านบาทก็ตาม
“ในปี 2554 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารออมสินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ประกอบกับมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ที่จูงใจ รวมทั้งผลจากพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่มีผลบังคับใช้ โดยลดความคุ้มครองลงไม่เกิน 50 ล้านบาท ต่อบัญชีต่อธนาคาร เมื่อเดือนสิงหาคม 2554” นายเลอศักดิ์กล่าว
ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม และเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ มีการแก้ไขตามลำดับความสำคัญและอายุหนี้ การเจรจาไกล่เกลี่ย การปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนการบังคับคดี โดยขั้นตอนการแก้ไขหนี้ที่ธนาคารฯ สามารถดำเนินการสำเร็จลุล่วงได้มากที่สุด คือ ขั้นตอนการติดตามให้ชำระเงินงวด/ชำระหนี้ปิดบัญชี ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 61 ของมูลหนี้ที่ต้องแก้ไขคุณภาพหนี้ ซึ่งเกิดจากการได้รับความร่วมมือที่ดีจากลูกหนี้ ขณะที่ขั้นตอนการปรับโครงสร้างหนี้มีสัดส่วน 28%
ส่วนขั้นตอนการบังคับคดีมีเพียง 11% เท่านั้น ซึ่งการแก้ไขหนี้อย่างมีประสิทธิภาพดังกล่าว ธนาคารฯ ได้ดำเนินการควบคู่กับการปล่อยสินเชื่ออย่างเหมาะสมและรัดกุม ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับดี ยอดหนี้ค้างชำระลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นก็ตาม โดย ณ สิ้นปี 2554 ธนาคารฯ มีอัตราส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพียง 0.94% ของสินเชื่อรวม หรือประมาณ 12,710 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 1.20% โดยที่มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึง 26,254 ล้านบาท หรือมากกว่า 206.56%
ทั้งนี้ การขยายตัวด้านผลประกอบการดังกล่าว ทำให้ปี 2554 ธนาคารออมสินมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 1.58% (กำไรก่อนหักผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 19) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน (ROE) อยู่ที่ 20.72% สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินลงทุน 80 : 20 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio คำนวณตามเกณฑ์ Basel II) อยู่ที่ 11.44%
ยกปี54ปีแห่งนวัตกรรมบริการ
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2554 นับได้ว่าเป็นปีแห่งความก้าวหน้าด้านการให้บริการของธนาคารออมสิน โดยสามารถเปิดช่องทางให้บริการเพิ่มเติมได้อย่างมากมาย ได้แก่ เปิดสาขาใหม่ที่ให้บริการเต็มรูปแบบเพิ่มอีกถึง 130 สาขา ทำให้สาขาที่เปิดให้บริการอยู่ทั่วประเทศเพิ่มเป็น 868 สาขา (ยังไม่รวมหน่วยให้บริการบนอำเภออีก 44 แห่ง) มีการติดตั้งเครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และตู้เอทีเอ็มเพิ่มอีก 1,217 เครื่อง จึงมีเครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และตู้เอทีเอ็มเพิ่มเป็น 3,549 เครื่อง เพิ่มรถตู้ให้บริการเคลื่อนที่จาก 62 คัน เป็น 92 คัน เปิดธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน เพื่อปลูกฝังการออมตั้งแต่วัยเด็กผ่านสถานศึกษาอีก 143 แห่ง รวมเป็น 613 แห่งทั่วประเทศ ยกระดับกองทุนหมู่บ้านขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชนจำนวน 17,247 แห่ง รวมเป็น 19,986 แห่ง อบรมที่ปรึกษาทางการเงินประจำหมู่บ้าน (หมอหนี้) จำนวน 105,551 คน รวมเป็น 118,370 คน
“ธนาคารออมสิน ดำเนินงานภายใต้ภารกิจมุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินในภาคประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถึงรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. โดยมีกรอบทิศทางการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการที่เหมาะสมชัดเจน ที่ผ่านการกลั่นกรองและเห็นชอบโดยคณะกรรมการธนาคารออมสินและกระทรวงการคลัง และมีการถ่ายทอดนโยบายจากผู้บริหารธนาคารออมสินเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอน มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ ซึ่งทั้งหมดดำเนินภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ และเป็นผู้นำในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาล” ซึ่งได้สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานที่เติบโตก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยมีรางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 และรางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ประจำปี 2554 ที่จัดมอบให้โดยกระทรวงการคลัง อีกทั้งยังมีรางวัลธนาคารยอดเยี่ยมแห่งปี 3 ปีซ้อน (ปี 2552-2554) และรางวัลนักการธนาคารดีเด่นแห่งปี 3 ปีซ้อนเช่นกัน (ปี 2552-2554) ที่ประกาศโดยสื่อมวลชน การันตีความสำเร็จดังกล่าว” นายเลอศักดิ์กล่าว.
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารออมสิน ประจำปี 2554 ว่า มีกำไรสุทธิก่อนหักผลกระทบมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19 จำนวน 26,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 6,915 ล้านบาท (หากบันทึกรับรู้หนี้สินผลประโยชน์พนักงานในอดีตเป็นค่าใช้จ่าย ภายใน 5 ปี ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ จะมีผลให้กำไรสุทธิเท่ากับ 17,620 ล้านบาท) ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ย สินเชื่อ และกำไรและเงินปันผลจากเงินลงทุน รวมทั้งความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดย ณ สิ้นปี 2554 มีสินทรัพย์รวมถึง 1,772,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2553 จำนวน 308,985 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.12% ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยที่การเติบโตของสินเชื่อทำให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นสุทธิ 240,153 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขยายตัว 21.60% ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อที่ครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อบุคคลรายย่อย สินเชื่อแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก โดยสินเชื่อคงเหลือ ณ สิ้นปี 2554 อยู่ที่ 1,351,990 ล้านบาท โดยที่ธนาคารฯ ยังดำรงสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ 92 : 8
ส่วนด้านการรับฝากเงิน ภายใต้ภารกิจความเป็นสถาบันเพื่อการออมของธนาคารออมสิน ปรากฏว่า ณ สิ้นปี 2554 มียอดเงินฝากรวม 1,525,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 345,508 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.27% โดยในปี 2554 มีผลิตภัณฑ์เงินฝากหลากหลายที่ตอบสนองตรงตามความต้องการของผู้ออมเงิน อาทิ สลากออมสินพิเศษ 3 ปี สลากออมสินพิเศษ 5 ปี สลากออมสินกุศล เงินฝากประจำ 11 เดือน เงินฝากประจำ 15 เดือน เงินฝากประจำ 99 วัน เงินฝากประจำ 66 วัน เงินฝากสงเคราะห์ชีวิต 3 รูปแบบใหม่ เป็นต้น ซึ่งผู้ฝากยังคงให้ความสนใจออมเงินผ่านผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปี 2554 มีเงินฝากประจำและสลากออมสินพิเศษที่ครบกำหนดไถ่ถอนจำนวนกว่า 900,000 ล้านบาทก็ตาม
“ในปี 2554 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารออมสินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ประกอบกับมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ที่จูงใจ รวมทั้งผลจากพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่มีผลบังคับใช้ โดยลดความคุ้มครองลงไม่เกิน 50 ล้านบาท ต่อบัญชีต่อธนาคาร เมื่อเดือนสิงหาคม 2554” นายเลอศักดิ์กล่าว
ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม และเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ มีการแก้ไขตามลำดับความสำคัญและอายุหนี้ การเจรจาไกล่เกลี่ย การปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนการบังคับคดี โดยขั้นตอนการแก้ไขหนี้ที่ธนาคารฯ สามารถดำเนินการสำเร็จลุล่วงได้มากที่สุด คือ ขั้นตอนการติดตามให้ชำระเงินงวด/ชำระหนี้ปิดบัญชี ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 61 ของมูลหนี้ที่ต้องแก้ไขคุณภาพหนี้ ซึ่งเกิดจากการได้รับความร่วมมือที่ดีจากลูกหนี้ ขณะที่ขั้นตอนการปรับโครงสร้างหนี้มีสัดส่วน 28%
ส่วนขั้นตอนการบังคับคดีมีเพียง 11% เท่านั้น ซึ่งการแก้ไขหนี้อย่างมีประสิทธิภาพดังกล่าว ธนาคารฯ ได้ดำเนินการควบคู่กับการปล่อยสินเชื่ออย่างเหมาะสมและรัดกุม ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับดี ยอดหนี้ค้างชำระลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นก็ตาม โดย ณ สิ้นปี 2554 ธนาคารฯ มีอัตราส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพียง 0.94% ของสินเชื่อรวม หรือประมาณ 12,710 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 1.20% โดยที่มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึง 26,254 ล้านบาท หรือมากกว่า 206.56%
ทั้งนี้ การขยายตัวด้านผลประกอบการดังกล่าว ทำให้ปี 2554 ธนาคารออมสินมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 1.58% (กำไรก่อนหักผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 19) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน (ROE) อยู่ที่ 20.72% สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินลงทุน 80 : 20 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio คำนวณตามเกณฑ์ Basel II) อยู่ที่ 11.44%
ยกปี54ปีแห่งนวัตกรรมบริการ
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2554 นับได้ว่าเป็นปีแห่งความก้าวหน้าด้านการให้บริการของธนาคารออมสิน โดยสามารถเปิดช่องทางให้บริการเพิ่มเติมได้อย่างมากมาย ได้แก่ เปิดสาขาใหม่ที่ให้บริการเต็มรูปแบบเพิ่มอีกถึง 130 สาขา ทำให้สาขาที่เปิดให้บริการอยู่ทั่วประเทศเพิ่มเป็น 868 สาขา (ยังไม่รวมหน่วยให้บริการบนอำเภออีก 44 แห่ง) มีการติดตั้งเครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และตู้เอทีเอ็มเพิ่มอีก 1,217 เครื่อง จึงมีเครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และตู้เอทีเอ็มเพิ่มเป็น 3,549 เครื่อง เพิ่มรถตู้ให้บริการเคลื่อนที่จาก 62 คัน เป็น 92 คัน เปิดธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน เพื่อปลูกฝังการออมตั้งแต่วัยเด็กผ่านสถานศึกษาอีก 143 แห่ง รวมเป็น 613 แห่งทั่วประเทศ ยกระดับกองทุนหมู่บ้านขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชนจำนวน 17,247 แห่ง รวมเป็น 19,986 แห่ง อบรมที่ปรึกษาทางการเงินประจำหมู่บ้าน (หมอหนี้) จำนวน 105,551 คน รวมเป็น 118,370 คน
“ธนาคารออมสิน ดำเนินงานภายใต้ภารกิจมุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินในภาคประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถึงรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. โดยมีกรอบทิศทางการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการที่เหมาะสมชัดเจน ที่ผ่านการกลั่นกรองและเห็นชอบโดยคณะกรรมการธนาคารออมสินและกระทรวงการคลัง และมีการถ่ายทอดนโยบายจากผู้บริหารธนาคารออมสินเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอน มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ ซึ่งทั้งหมดดำเนินภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ และเป็นผู้นำในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาล” ซึ่งได้สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานที่เติบโตก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยมีรางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 และรางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ประจำปี 2554 ที่จัดมอบให้โดยกระทรวงการคลัง อีกทั้งยังมีรางวัลธนาคารยอดเยี่ยมแห่งปี 3 ปีซ้อน (ปี 2552-2554) และรางวัลนักการธนาคารดีเด่นแห่งปี 3 ปีซ้อนเช่นกัน (ปี 2552-2554) ที่ประกาศโดยสื่อมวลชน การันตีความสำเร็จดังกล่าว” นายเลอศักดิ์กล่าว.