ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) ที่รัฐสภา เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.) โดยมีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นประธาน และได้มีการแถลงภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับแนวทางในการยกร่างกฎหมายนิรโทษกรรม รวมทั้งกฎหมายนิรโทษกรรมที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ 22 ฉบับ มาให้กมธ.แล้ว
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินคดีที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งในอดีต และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี รวมทั้ง คอป.ได้ส่งข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดี ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองรวมทั้งคู่กรณีมาให้กมธ.ได้ศึกษา นอกจากนี้ยังได้เชิญ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย มาหารือด้วย
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ในโอกาสปีใหม่นี้ ประชาชน ภาคธุรกิจ และนักวิชาการ ต่างเห็นว่าปัญหาความขัดแย้งในประเทศค่อนข้างใหญ่พอสมควร และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ จึงอยากฝากไปยังประชาชนว่า สิ่งที่จะทำให้ประเทศเกิดความปรองดองกัน คือ การให้อภัยกัน เพราะการเป็นผู้ให้จะทำให้ประเทศขับเคลื่อนจากปัญหาไปได้
นายนคร มาฉิม โฆษก กมธ. ปรองดอง กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้า ได้เสนอโครงร่างข้อเสนอโครงการสร้างความปรองดองแห่งชาติครั้งแรก ต่อที่ประชุม ซึ่งทางกมธ.ได้พิจารณาแล้ว ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม ซึ่งทางสถาบันฯ ก็จะไปยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม เพราะกมธ.ต้องการให้เกิดความชัดเจน เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่นามธรรมเท่านั้น เพราะบริบทในสังคมที่มีความขัดแย้งหลายอย่างจะต้องมีโครงสร้างกฎหมายและการบังคับใช้ โดยยากให้สถาบันได้เสนอทางออกให้ด้วยเพื่อนำมาสู่การพิจารณาต่อไป
ขณะที่ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ เลขาธิการ กมธ. กล่าวว่า ทางสมาคมธนาคารไทยและประธานสภาอุตสาหกรรม ได้ให้ความเห็นตรงกันว่า สถานการณ์ความขัดแย้งของสังคมไทย ถือเป็นอันตรายต่อการลงทุน
ดังนั้นสมควรจะยุติความขัดแย้งได้แล้ว เพื่อให้เกิดการแข่งขันและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการปรองดอง จะต้องให้อภัยกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ ในโครงร่างบทเรียนประวัติศาสตร์ของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาและอีก 10 ประเทศ ในเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกาใต้ สามารถนำมาปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยได้
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินคดีที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งในอดีต และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี รวมทั้ง คอป.ได้ส่งข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดี ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองรวมทั้งคู่กรณีมาให้กมธ.ได้ศึกษา นอกจากนี้ยังได้เชิญ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย มาหารือด้วย
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ในโอกาสปีใหม่นี้ ประชาชน ภาคธุรกิจ และนักวิชาการ ต่างเห็นว่าปัญหาความขัดแย้งในประเทศค่อนข้างใหญ่พอสมควร และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ จึงอยากฝากไปยังประชาชนว่า สิ่งที่จะทำให้ประเทศเกิดความปรองดองกัน คือ การให้อภัยกัน เพราะการเป็นผู้ให้จะทำให้ประเทศขับเคลื่อนจากปัญหาไปได้
นายนคร มาฉิม โฆษก กมธ. ปรองดอง กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้า ได้เสนอโครงร่างข้อเสนอโครงการสร้างความปรองดองแห่งชาติครั้งแรก ต่อที่ประชุม ซึ่งทางกมธ.ได้พิจารณาแล้ว ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม ซึ่งทางสถาบันฯ ก็จะไปยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม เพราะกมธ.ต้องการให้เกิดความชัดเจน เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่นามธรรมเท่านั้น เพราะบริบทในสังคมที่มีความขัดแย้งหลายอย่างจะต้องมีโครงสร้างกฎหมายและการบังคับใช้ โดยยากให้สถาบันได้เสนอทางออกให้ด้วยเพื่อนำมาสู่การพิจารณาต่อไป
ขณะที่ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ เลขาธิการ กมธ. กล่าวว่า ทางสมาคมธนาคารไทยและประธานสภาอุตสาหกรรม ได้ให้ความเห็นตรงกันว่า สถานการณ์ความขัดแย้งของสังคมไทย ถือเป็นอันตรายต่อการลงทุน
ดังนั้นสมควรจะยุติความขัดแย้งได้แล้ว เพื่อให้เกิดการแข่งขันและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการปรองดอง จะต้องให้อภัยกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ ในโครงร่างบทเรียนประวัติศาสตร์ของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาและอีก 10 ประเทศ ในเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกาใต้ สามารถนำมาปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยได้
