ยื่นถอดถอนอสส. ไล่บี้แจงไม่ฎีกาคดีชินฯโกงภาษี จับตารัฐแทรกแซงระบบยุติธรรม

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.จี้อัยการสูงสุดชี้แจงกรณีไม่ฎีกาคดี "คุณหญิงพจมาน" เลี่ยงภาษีชินคอร์ป ทั้งที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตัดสินไปคนละทาง เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการยื่นถอดถอนอัยการสูงสุด ปลุกสังคมจับตารัฐแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัยต์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงกรณีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ไม่ยื่นฎีกาคดีที่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เลี่ยงการชำระภาษี ว่า ตนขอเรียกร้องให้อัยการสูงสุดชี้แจงเหตุผลที่ใช้ดุลพินิจไม่ยื่นฎีกาในคดีนี้ เพราะทำให้เกิดคำถาม และข้อข้องใจในสังคม เนื่องจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ เป็นคนละมุม เมื่ออัยการเป็นคนนำเรื่องไปฟ้อง ก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเหตุใดไม่ใช้สิทธิยื่นฎีกา จะอ้างเพียงแค่ว่าเห็นพ้องกับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คงเป็นเรื่องแปลก เพราะอัยการเป็นผู้ฟ้อง และศาลชั้นต้นพิพากษาตรงกันข้ามกับศาลอุทธรณ์ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังดูรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร ในทางกฎหมายหรือไม่ เพราะการใช้ดุลพินิจแม้จะเป็นอำนาจตามกฎหมายก็ต้องสมเหตุสมผลด้วย ดังนั้น อัยการสูงสุดควรชี้แจงในรายละเอียด ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นความข้องใจของสังคมที่จะกระทบความเชื่อมั่นต่อองค์กร

"รายละเอียดในคำพิพากษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของคดี มูลเหตุจูงใจ มีการสมคบคิดหรือไม่ ก็ยังไม่มีการให้รายละเอียดว่าอัยการมีความเห็นอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ดีที่สุดอัยการต้องชี้แจงในสิ่งเหล่านี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว

** ขู่ยื่นถอดถอนอัยการสูงสุด

นายสกลธี ภัททิยะกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเคยกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมที่มีก่อนปี 49 เหตุการณ์ในขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะกลับไปเป็นเช่นนั้นอีก เพราะประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขาคุณหญิงพจมาน พร้อมกับเปลี่ยนโทษจำคุก นายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ เป็นการรอลงอาญา ซึ่งอัยการสูงสุดเห็นชอบกับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ทุกกรณี ทั้งที่คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นต่างกัน ซึ่งตามหลักการอัยการ ควรยื่นฎีกา เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในคดีภาษี

ทั้งนี้ เพราะศาลชั้นต้นเห็นว่าคุณหญิงพจมาน รู้เห็นเป็นใจกับการหลีกเลี่ยงภาษี แตกต่างจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ แต่อัยการกลับไม่ฎีกา ทั้งที่คดีนี้มีการหลีกเลี่ยงภาษีกว่า 200 ล้านบาท เป็นการหลบเลี่ยงภาษีเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์การเสียภาษีของประเทศไทย จึงเห็นว่า การใช้ดุลพินิจดังกล่าวน่าจะมีปัญหา อัยการสูงสุดอาจบิดข้อกฎหมายได้ แต่บิดเบือนความรู้สึกประชาชนที่มีต่อเรื่องนี้ไม่ได้

"ผมเรียนอัยการสูงสุด ให้ท่านเตรียมตัวรับการยื่นถอดถอนจากฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ได้เลย และเตือนข้าราชการอื่นๆ อยากให้ทำหน้าที่ให้สมเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำประโยชน์เพื่อชาติไม่ใช่ประโยชน์เพื่อคนเดียว ไม่อย่างนั้นท่านจะมีความผิดด้วย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะดูเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด อัยการสูงสุดไม่ควรทำตัวเป็นศาลฎีกาเสียเอง จากเหตุการณ์นี้รวมถึงกรณีที่อัยการไม่ฟ้องนายนพดล ปัทมะ ในกรณีออกแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชา ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่สังคมต้องจับตา เพราะต่อจากนี้ไปเชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมจะถูกแทรกแซงอย่างต่อเนื่อง" นายสกลธีกล่าว

** อสส.ไม่ฎีกาคดีถือว่าสิ้นสุด

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกป.ป.ช. กล่าวว่า การจะฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด การที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกา คดีจึงถือเป็นที่สุด ส่วนกรณีที่มีข้อครหาถึงการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบของอัยการสูงสุดนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเข้าชื่อยื่นคำร้องให้ถอดถอนอัยการสูงสุด และยังไม่มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงชัดแจ้ง ป.ป.ช.จึงมีมติให้รวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการ