ผู้นำฝ่ายค้าน จี้ อัยการสูงสุดแจงไม่ยื่นศาลฎีกาคดี “หญิงอ้อ” เลี่ยงภาษี รับแปลกใจอ้างเห็นพ้องศาลอุทธรณ์ ชงฝ่ายกฎหมายพรรคเช็กฟันหรือไม่ เตือนกระทรวงยุติธรรมอย่าทำผิดหลักเจตนารมณ์พระราชทานอภัยโทษ อ้าง “พีระพันธ์” บอกดองฎีกา เหตุญาติที่มีชื่อไม่ยืนยันกลับกระทรวง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (27 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัยต์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุด จะมียื่นฎีกาคดีที่ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภริยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลี่ยงการชำระภาษี ว่า ตนขอเรียกร้องให้อัยการสูงสุดชี้แจงเหตุผลที่ใช้ดุลพินิจไม่ยื่นฎีกาในคดี คุณหญิง พจมาน หลีกเลี่ยงภาษี เพราะทำให้เกิดคำถามและความข้องใจในสังคม เนื่องจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และอุทธรณ์เป็นคนละมุม เมื่ออัยการเป็นคนนำเรื่องไปฟ้องก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เหตุใดไม่ใช้สิทธิ์ยื่นฎีกา จะอ้างเพียงแค่ว่าเห็นพ้องกับคำพิพากษากับศาลอุทธรณ์คงเป็นเรื่องแปลก เพราะอัยการเป็นผู้ฟ้อง และศาลชั้นต้นพิพากษาตรงกันข้ามกับศาลอุทธรณ์ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังดูรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไรในทางกฎหมายหรือไม่ เพราะการใช้ดุลพินิจ แม้จะเป็นอำนาจตามกฎหมายก็ต้องสมเหตุสมผลด้วย ดังนั้น อัยการสูงสุดควรชี้แจงให้รายละเอียดไม่เช่นนั้นก็จะเป็นความข้องใจของสังคมที่จะกระทบความเชื่อมั่นต่อองค์กร
“รายละเอียดในคำพิพากษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของคดี มูลเหตุจูงใจมีการสมคบคิดหรือไม่ ก็ยังไม่มีการให้รายละเอียดว่าอัยการมีความเห็นอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ดีที่สุดอัยการต้องแจงในสิ่งเหล่านี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่การสัมมนาที่จัดโดยศาลรัฐธรรมนูญ มีการระบุเกี่ยวกับการขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า เป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ถวายคำแนะนำ ซึ่งมีหลักเกณฑ์หากปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาก็ไม่มีปัญหา และต้องไม่ให้การเมืองมากดดัน หรือใช้มวลชนมากดดัน เพราะผิดเจตนารมณ์ของการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเรื่องที่ค้างอยู่เกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม รายงานว่า การตรวจสอบรายชื่อมีปัญหา แสดงว่า ฎีกานี้มีปัญหาและเมื่อมีการสอบถามคนที่เป็นญาติที่มีชื่อปรากฏเพื่อขอให้ยืนยันทำฎีกาให้ถูกต้องก็ไม่มีการยืนยันกลับมา
