ปชป.ลั่นยื่นถอดถอนอัยการสูงสุด ใช้ดุลพินิจปิดฉากคดีหนีภาษีช่วย “หญิงอ้อ” กับพวก ระบุเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์สั่งคดีต่างกันตามหลักการต้องยื่นฎีกาเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน เตือนบิดข้อกฎหมายได้ แต่บิดเบือนความรู้สึกประชาชนไม่ได้ เรียกร้องจับตารัฐแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
นายสกลธี ภัททิยะกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดไม่ฎีกาคดีที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และพวก หลีกเลี่ยงภาษีว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยกังวลกี่ยวกับการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมที่มีก่อนปี 2549 เหตุการณ์ในขณะนี้มีแนวโน้มกลับไปเป็นเช่นนั้นอีก เพราะประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขาคุณหญิงพจมาน พร้อมกับเปลี่ยนโทษจำคุกนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ เป็นการรอลงอาญา ซึ่งอัยการสูงสุดเห็นชอบับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ทุกกรณี ทั้งที่คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นต่างกันซึ่งตามหลักการอัยการควรยื่นฎีกาเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในคดีภาษี เพราะศาลชั้นต้นเห็นว่าคุณหญิงพจมานรู้เห็นเป็นใจกับการหลีกเลี่ยงภาษีแตกต่างจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ แต่อัยการกลับไม่ฎีกาทั้งที่คดีนี้มีการหลีกเลี่ยงภาษีกว่า 200 ล้านบาท เป็นการหลบเลี่ยงภาษีเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์การเสียภาษีของประเทศไทย จึงเห็นว่าการใช้ดุลพินิจดังกล่าวน่าจะมีปัญหา อัยการสูงสุดอาจบิดข้อกฎหมายได้แต่บิดเบือนความรู้สึกประชาชนที่มีต่อเรื่องนี้ไม่ได้
“ผมเรียนอัยการสูงสุดให้ท่านเตรียมตัวรับการยื่นถอดถอนจากฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ได้เลย และเตือนข้าราชการอื่นๆ อยากให้ทำหน้าที่ให้สมเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำประโยชน์เพื่อชาติไม่ใช่ประโยชน์เพื่อคนเดียว ไม่อย่างนั้นท่านจะมีความผิดด้วย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะดูเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด อัยการสูงสุดไม่ควรทำตัวเป็นศาลฎีกาเสียเอง จากเหตุการณ์นี้รวมถึงกรณีที่อัยการไม่ฟ้องนายนพดล ปัทมะ ในกรณีออกแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชาขัดรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่สังคมต้องจับตา เพราะต่อจากนี้ไปเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะถูกแทรกแซงอย่างต่อเนื่อง” นายสกลธีกล่าว