‘ประธานาธิบดี’ เร่ร่อนออกลายแล้ว!

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

หลังจากขับเคลื่อน ดันให้ “น้องปู โคลนนิ่ง” เป็นนายกรัฐมนตรีจนก้นเริ่มคุ้นกับเก้าอี้ผู้นำประเทศ ได้ประชุมคณะรัฐมนตรีสั่งงาน ตระเวนเยี่ยมเหยื่ออุทกภัยในหลายจังหวัดตามหน้าที่และบทบาทวางไว้โดยคณะบริวารและข้าราชการ จนเคลิ้มนึกว่าเป็นหัวหน้ารัฐบาลตัวจริงแล้วพี่ชายเหลี่ยมร้ายก็ออกลาย!

คงกลัวว่าบริวารในพรรคเพื่อเหลี่ยมร้าย ผีโม่แป้ง และขบวนการแดงเผาเมืองจะลืมไปว่าผู้นำตัวจริงอยู่ต่างประเทศ คนที่นั่งเป็นนายกฯ นั้นคือนอมินี ดังนั้นเหลี่ยมในฐานะนายจ้างต้อง skype โทรศัพท์มาสั่งการโดยตรง

ทำเป็นชี้แนะบอกแนวทางในการบริหารจัดลำดับความสำคัญของงานต่างๆ ให้เข้ากับสภาพการณ์ ไม่เลอะเทอะ เฟอะฟะ ตามล้างตามเช็ดความผิดพลาด ดังกรณีคืนภาษีรถยนต์ ซื้อบ้านหลังแรก จนหน้าแหก ดูไม่เนียน

เหลี่ยมร้ายไม่ไว้หน้า “น้องปู” หรือหน้าใครทั้งนั้น ถ้าหน้าไม่เหลี่ยม!

สั่งงานแบบนี้อ้างได้ว่าทำในฐานะเป็นอดีตนายกฯ ผู้มีประสบการณ์ เป็นพี่ชายห่วงใยน้องสาว กลัวจะพลาด ทำให้ตกเก้าอี้เร็วเหมือนน้าเขย

อย่าทำอะไรแบบลวกๆ สุกเอาเผากิน จะทำให้เสียเหลี่ยม ฮ่า!

ทุกวันนี้ยังต้องลุ้นว่า “น้องปู“ จะรอดได้นานแค่ไหน หลังจากเร่งกระชับอำนาจ เหิมเกริมทำให้ชาวบ้านเริ่มทนไม่ได้ แถมยังออกลายหาผลประโยชน์ ไม่จำบทเรียนยุคเหลี่ยมร้ายผยองครองเมือง งาบหนัก ยึดประเทศหากิน

แอบโทรศัพท์กำกับบทอย่างเดียวไม่พอ กลัวว่าผีโม้แป้งจะเชื่อว่าทุกอย่างมาจากมันสมองน้องปูล้วนๆ ดังนั้นเหลี่ยมร้ายต้องแสดงตัวชัดเจนว่าทุกคนต้องฟังตัวจริง ผู้มีอำนาจเต็มในฐานะเป็นเจ้าของขบวนการยึดชาติเพื่อขาย

ยังใช้หลักการ “ซื้อเสียงจากชาวบ้านในราคาถูกๆ ต่อหัว ได้อำนาจเพื่อเอาสมบัติของชาติ ทรัพย์สินแผ่นดินไปขายได้กำไรเยอะๆ” เหมือนตอนเอาสัมปทานดาวเทียม โทรศัพท์ ไปขายให้พวกสิงคโปร์ ไม่ต้องเสียภาษีสักบาท

ขายตรงครั้งที่แล้วได้เงินมากว่า 7.6 หมื่นล้านบาท! สัมปทานได้มาในยุครัฐประหารโดยคณะ รสช. แต่พวกนิติศรีธนญชัยธรรมศาสตร์ไม่นับรวมด้วย

ขอเริ่มนับจากการรัฐประหารของ คมช. 19 กันยายน 2549 เท่านั้น! ชาวบ้านต้องบอกว่าเหลี่ยมร้ายได้เปิดหน้ากากผีโม่แป้งของพวกรับจ้างสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างเป็นทางการ หมดสิทธิ์เป็นอีแอบ

จากนี้ไปถือเป็นภาระผูกพันต้องเป็นผีโม่แป้ง ตัวช่วยเหลี่ยมร้าย ไม่มีทางเลือกอื่นๆ เมื่อชาวบ้านได้รู้ไส้เน่า ไม่เหลือความน่าเชื่อถือทางวิชาการ

จะเปิดปาก แสดงความคิดเห็นทางกฎหมาย หรือวิชาการเรื่องใด ต้องถูกมองว่านี่เป็นกระบอกเสียงผีโม่แป้ง แอบแฝงตัวในมหาวิทยาลัยนานแล้ว

ยังฝังตัวในสถาบันการศึกษาอื่นๆ อีกเยอะ รอวันเปิดตัวรับงาน!

การสั่งงานของเหลี่ยมร้ายโดยตรงคือการยืนยันรูปแบบ พฤตินัย และสถานภาพของเหลี่ยมร้ายว่าเป็น “ประธานาธิบดี” เร่ร่อนอยู่ต่างแดน สั่งการผ่านโทรศัพท์ ไม่ตกเป็นเป้า สุ่มเสี่ยงต่อการถูกปองร้ายโดยฝ่ายไม่หวังดี ฮ่า!

ไม่แปลก เมื่อยุคนี้อะไรๆ มี “เทียม” และ “แท้” เช่นแดงแท้ แดงเทียม สื่อแท้ สื่อเทียม จึงต้องมีนายกฯ แท้ นายกฯ เทียม นายกฯ น้อย และนายกฯ เงา!

รวมแล้วเป็นขบวนการงี่เง่าของประชาธิปไตยแบบไทยๆ เงินเป็นใหญ่!

รอบแรกของการชี้แนะผ่าน skype เป็นเรื่องนโยบายประชานิยม ติงความผิดพลาดเรื่องโครงการรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก หลังจากพิธีกรรมสุกเอาเผากินมีความผิดพลาด ต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้เหมาะกับการเอื้อประโยชน์

โดนรุมถล่มว่าเป็นการหวังผลธุรกิจของเครือข่าย แฝงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ค่ายสะตอออกมาแฉฉอดๆ หวังตีกินคะแนน กำลังมันอารมณ์ต้องสะดุดขาตัวเองโดนกล้อง CCTV เปล่ากลวงโบ๋ฉาว เอาไว้หลอกผู้ร้าย

น่าจะเอาไว้แหกตา หลอกชาวบ้านคนเสียภาษีมากกว่า! หลังเกิดเรื่อง ชาวบ้านได้ฟังนิทานจากผู้บริหารกทม. ได้เห็นการสาธิตวิชาลิงแก้แห มัดคอตัวเอง นึกอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าเอากล้องกลวงติดหาสวรรค์วิมานอะไรกันแน่

ทำให้สงสัยว่าผู้บริหาร คนต้นคิด มีหัวกะโหลกกลวง ไร้สมองหรือไม่!

นั่นเป็นปัญหาของค่ายสะตอต้องเร่งแก้หน้า ถ้าไม่หลุด อาจต้องเจอแบบการจัดซื้อรถ เรือ ดับเพลิง จะทำให้ดับโอกาสชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.รอบใหม่

จากนี้ไป เหลี่ยมร้ายต้องเร่งกำกับการบริหาร สั่งงานถี่ยิบกว่าเดิม ให้รัฐมนตรีผีโม่แป้งนำเรื่องไปผ่านการประชุม ครม. ให้สมเจตนารมณ์นายทาส

ช่วง skype ไม่มีรายงานข่าวว่าผีโม่แป้งแข่งกันเสนอความคิด แย่งกันประจบประแจง “ถูกครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน” นำร่องการเลียออนไลน์ ผ่านระบบ skype ได้หรือไม่! น้องปูตีสีหน้าอย่างไร หรือบ๊องแบ๊ว?

เหลี่ยมร้ายแสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นพหูสูต รอบรู้ทุกเรื่อง แม้จะไม่ได้อยู่ในประเทศ 2-3 ปี แต่ละวันใช้เวลาพูดโทรศัพท์กับเครือข่าย บริวาร หุ้นส่วน เหมือนใช้กรรม ต้องพูดโทรศัพท์ไม่หยุด เพราะร่ำรวยมาจากสัมปทานโทรศัพท์

เมื่อ “ประธานาธิบดี” ทำงานเต็มที่ นายกฯ นอมินีคงเป็นเพียงคนรับคำสั่งปลายทาง แล้วทำตามเท่านั้น มองในแง่ดี ถือว่าไม่ต้องใช้สมองคิดเอง มีคนคิดแทนให้เสร็จ ผลสุดท้ายตัวเองเป็นหนังหน้าไฟ เป็นตัวแทนเท่านั้น

ทำแบบนี้ถ้าเหลี่ยมร้าย ญาติมิตรเครือข่ายไม่อาย ขอให้รู้ว่าคนบนแผ่นดินนี้รู้สึกอัปยศอดสู ทุกวันนี้ แทบต้องเอาปี๊บคลุมหัวเดินหลบในตรอกแล้วนิ! อิอิอิ!!!