น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งนายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภาในยุค รสช. ดำรงประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ว่า คณะกรรมการฯชุดนี้จะไปศึกษาในเรื่องของกฎหมาย และดูหลักกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่มีคนมองว่าไม่เหมาะสมนั้น ก็ต้องดูคณะกรรมการฯที่นายอุกฤษจะแต่งตั้งเข้ามา แต่อยากให้รอมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการก่อน เชื่อว่า นายอุกฤษจะมีการชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบ อย่างไรก้ตามมีการเรียนเชิญไว้แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้จะเข้ามาปฏิรูปกฎหมายทั้งหมด อะไรที่ไม่เป็นธรรม จะต้องสังคายนาใหม่ ทั้งนี้นายอุกฤษ ถือเป็นคนเก่ง ส่วนคณะกรรมการจะมีใครบ้างนั้น ตนยังไม่ทราบ
ส่วนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้อำนาจเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในส่วนของศาลนั้น ไม่มีผู้ใดที่จะปฏิรูปได้ แต่สามารถปฏิรูปกฎหมายได้ ซึ่งกฎหมายที่ศาลใช้อยู่ทุกวันนี้ รัฐภาเป็นผู้ออก และไม่เชื่อว่าจะซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการปฏิรูปที่เคยมีอยู่เดิม เพราะรัฐบาลใดมีแนวคิดอย่างไรก็เป็นสิทธิของรัฐบาลนั้น ทั้งนี้เชื่อว่านายอุกฤษ จะมีคนที่มีมาตรฐานและคุณภาพ อย่างไรก็ตามไม่ขอวิจารณ์เพราะเกรงจะเป็นการชี้นำกรณีที่เมื่อตั้งองค์กรอิสระมาแล้วไมได่ค่อยได่รับความสนใจ “ไม่แสดงความเห็น แต่อะไรที่มาจะคณะปฏิวัติผมไม่เห็นด้วย”
นายสกลธี ภัททิยะกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวของนายอุกฤษไม่มีใครปฏิเสธเรื่องความรู้ความสามารถและความรอบรู้ด้านกฏหมาย แต่พรรคมีความเป็นห่วงถึงวัตถุประสงค์ในการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ว่า จะมีวาระซ่อนเร้นอย่างไรหรือไม่ น่าเป็นห่วงว่าจะเป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระหรือไม่ จึงขอให้ประชาชนจับตาดูว่า รัฐบาลจะใช้ผลการทำงานและผลสรุปศึกษาของคณะกรรมการชุดนี้เพื่ออ้างในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและลดอำนาจการตรวจสอบขององค์กรอิสระ รวมถึงการเสนอแก้ไขกฏหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องหรือไม่
อีกเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีแต่งตั้งนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ มืออัดเทปตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคประชาธิปัตย์มาเผยแพร่ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข ว่าตนเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตั้งต่างตอบแทนนั้น เห็นว่า อย่าไปมองมุมนั้น แต่อยากให้มองว่า ทุกคนมีความสามารถ และสามารถให้คำแนะนำการทำงานกับรัฐมนตรีได้ ซึ่งรัฐบาลได้เปิดโอกาส ไม่เคยกีดกันใคร
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เป็นความต้องการของนายพสิษฐ์ที่ขอมาช่วยงานตน เพราะงานกระทรวงนี้ไม่ค่อยมีคนสนใจ โดยจะให้มาดูงานด้านกฎหมาย และด้านเทคนิคการแพทย์ ซึ่งนายพสิษฐ์มีความรู้ในด้านนี้อยู่
นายสกลธี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ทำเสมือนว่าการโยกย้ายชนิดล้างบางข้าราชการเป็นวาระแห่งชาติเพื่อเอื้อให้ญาติและบุคคลใกล้ชิดมากุมอำนาจ เช่นนายอำพล วงศ์ศิริ อดีตเลขาธิการป.ป.ท.ที่มีผลงานชัดเจน มีความผิดอะไร หรือนายชาติชาย สุทธิกรม อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีความผิดอะไรจึงถูกย้าย จนขณะนี้กระทรวงยุติธรรมจะกลายเป็นรัฐตำรวจไปแล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมว.มหาดไทยเงา กล่าวถึงกรณีนายถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาสมช. ยื่นร้องเรียนกรณีโยกย้ายไม่เป็นธรรมต่อก.พ.ค. จนทำให้รัฐบาลเบรกแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ ว่า เขาคงต้องดูก่อนว่าถ้านายถวิลชนะก็ย้ายเขาไม่ได้ และเอาพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ออกจากการเป็นผบ.ตร.ไม่ได้ ดังนั้นเขาก็ต้องไปหาทางอื่น อาทิ ให้พล.ต.อ.วิเชียรลาออก หรืออะไรก็ว่าไป แต่อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ เพราะเรายังไม่รู้ พูดไปก็ผิด
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรมว.ยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงแถลงยืนยันว่า การย้ายนายชาติชาย ให้ดำรงตำแน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นการโยกย้ายตามฤดูกาล ไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เป็นหน้าที่ของคณะทำงานพิจารณาและกลั่นกรองและไม่กระทบกับนายชาติชาย
ส่วนความคืบหน้าต่อรายชื่อบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2554 เมื่อเวลา 10.30น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้หารือเกี่ยวกับบัญชีแต่งตั้งฯ และไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เป็นเพียงการพูดคุยกันถึงเรื่องงาน ส่วนเรื่องโผทหารนั้น า ขณะนี้กำลังดูรายชื่อบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีอยู่ ซึ่งรายชื่อทั้งหมดที่เสนอเข้ามาจากกระทรวงกลาโหมเป็นแบบไหนก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ แบบนั้นเลย การพิจาณาดูรายชื่อของตนในเบื้องต้นนั้นก็เพื่อให้ทราบเฉยๆ ในส่วนของการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯนั้นก็จะพยายามและคงไม่ช้า เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเก็บบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารไว้นาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า บังเอิญว่าเอกสารช่วงนี้มีมาก.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้จะเข้ามาปฏิรูปกฎหมายทั้งหมด อะไรที่ไม่เป็นธรรม จะต้องสังคายนาใหม่ ทั้งนี้นายอุกฤษ ถือเป็นคนเก่ง ส่วนคณะกรรมการจะมีใครบ้างนั้น ตนยังไม่ทราบ
ส่วนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้อำนาจเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในส่วนของศาลนั้น ไม่มีผู้ใดที่จะปฏิรูปได้ แต่สามารถปฏิรูปกฎหมายได้ ซึ่งกฎหมายที่ศาลใช้อยู่ทุกวันนี้ รัฐภาเป็นผู้ออก และไม่เชื่อว่าจะซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการปฏิรูปที่เคยมีอยู่เดิม เพราะรัฐบาลใดมีแนวคิดอย่างไรก็เป็นสิทธิของรัฐบาลนั้น ทั้งนี้เชื่อว่านายอุกฤษ จะมีคนที่มีมาตรฐานและคุณภาพ อย่างไรก็ตามไม่ขอวิจารณ์เพราะเกรงจะเป็นการชี้นำกรณีที่เมื่อตั้งองค์กรอิสระมาแล้วไมได่ค่อยได่รับความสนใจ “ไม่แสดงความเห็น แต่อะไรที่มาจะคณะปฏิวัติผมไม่เห็นด้วย”
นายสกลธี ภัททิยะกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวของนายอุกฤษไม่มีใครปฏิเสธเรื่องความรู้ความสามารถและความรอบรู้ด้านกฏหมาย แต่พรรคมีความเป็นห่วงถึงวัตถุประสงค์ในการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ว่า จะมีวาระซ่อนเร้นอย่างไรหรือไม่ น่าเป็นห่วงว่าจะเป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระหรือไม่ จึงขอให้ประชาชนจับตาดูว่า รัฐบาลจะใช้ผลการทำงานและผลสรุปศึกษาของคณะกรรมการชุดนี้เพื่ออ้างในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและลดอำนาจการตรวจสอบขององค์กรอิสระ รวมถึงการเสนอแก้ไขกฏหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องหรือไม่
อีกเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีแต่งตั้งนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ มืออัดเทปตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคประชาธิปัตย์มาเผยแพร่ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข ว่าตนเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตั้งต่างตอบแทนนั้น เห็นว่า อย่าไปมองมุมนั้น แต่อยากให้มองว่า ทุกคนมีความสามารถ และสามารถให้คำแนะนำการทำงานกับรัฐมนตรีได้ ซึ่งรัฐบาลได้เปิดโอกาส ไม่เคยกีดกันใคร
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เป็นความต้องการของนายพสิษฐ์ที่ขอมาช่วยงานตน เพราะงานกระทรวงนี้ไม่ค่อยมีคนสนใจ โดยจะให้มาดูงานด้านกฎหมาย และด้านเทคนิคการแพทย์ ซึ่งนายพสิษฐ์มีความรู้ในด้านนี้อยู่
นายสกลธี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ทำเสมือนว่าการโยกย้ายชนิดล้างบางข้าราชการเป็นวาระแห่งชาติเพื่อเอื้อให้ญาติและบุคคลใกล้ชิดมากุมอำนาจ เช่นนายอำพล วงศ์ศิริ อดีตเลขาธิการป.ป.ท.ที่มีผลงานชัดเจน มีความผิดอะไร หรือนายชาติชาย สุทธิกรม อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีความผิดอะไรจึงถูกย้าย จนขณะนี้กระทรวงยุติธรรมจะกลายเป็นรัฐตำรวจไปแล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมว.มหาดไทยเงา กล่าวถึงกรณีนายถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาสมช. ยื่นร้องเรียนกรณีโยกย้ายไม่เป็นธรรมต่อก.พ.ค. จนทำให้รัฐบาลเบรกแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ ว่า เขาคงต้องดูก่อนว่าถ้านายถวิลชนะก็ย้ายเขาไม่ได้ และเอาพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ออกจากการเป็นผบ.ตร.ไม่ได้ ดังนั้นเขาก็ต้องไปหาทางอื่น อาทิ ให้พล.ต.อ.วิเชียรลาออก หรืออะไรก็ว่าไป แต่อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ เพราะเรายังไม่รู้ พูดไปก็ผิด
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรมว.ยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงแถลงยืนยันว่า การย้ายนายชาติชาย ให้ดำรงตำแน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นการโยกย้ายตามฤดูกาล ไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เป็นหน้าที่ของคณะทำงานพิจารณาและกลั่นกรองและไม่กระทบกับนายชาติชาย
ส่วนความคืบหน้าต่อรายชื่อบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2554 เมื่อเวลา 10.30น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้หารือเกี่ยวกับบัญชีแต่งตั้งฯ และไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เป็นเพียงการพูดคุยกันถึงเรื่องงาน ส่วนเรื่องโผทหารนั้น า ขณะนี้กำลังดูรายชื่อบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีอยู่ ซึ่งรายชื่อทั้งหมดที่เสนอเข้ามาจากกระทรวงกลาโหมเป็นแบบไหนก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ แบบนั้นเลย การพิจาณาดูรายชื่อของตนในเบื้องต้นนั้นก็เพื่อให้ทราบเฉยๆ ในส่วนของการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯนั้นก็จะพยายามและคงไม่ช้า เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเก็บบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารไว้นาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า บังเอิญว่าเอกสารช่วงนี้มีมาก.