xs
xsm
sm
md
lg

คอป.หวัง “รบ.ปู” หนุนทำงานต่อ ยึดหลักตรวจสอบอย่างอิสระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.คณิต ณ นคร
“ศ.คณิต” หวังรัฐบาล “ปู” สนับสนุนการทำงาน คอป. ยึดหลักการเป็นอิสระตีแผ่ข้อเท็จจริงนำไปสู่สังคมสงบสันติ ชี้ ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ใช้กฎหมายปราบปรามเท่าที่จำเป็น เผยคนล้นคุกแต่เมื่อถึงศาลกลับยกฟ้องถึงครึ่งหนึ่งเป็นความสูญเปล่า


ศ.คณิต ณ นคร ประธาน คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) กล่าวในรายการ “ตอบโจทย์” สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถึงการทำงานของ คอป.หลังจากตั้งขึ้นมาครบ 1 ปีว่า รัฐบาลชุดก่อนก่อตั้ง คอป.ขึ้นมา ซึ่งได้ให้ คอป.ได้ทำงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ โดยมีคณะอนุกรรมการอีก 4 ชุดซึ่งทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด โดยไม่ได้มีความกังวลเรื่องเวลา แต่เรื่องที่กังวลคือ เรื่องงานมากกว่าว่าจะไม่สามารถทำงานได้สำเร็จ แต่ถ้าประชาชนเรียกร้องให้ทำงานต่อก็จะทำ โดยจะยึดหลักการมีความอิสระ มีความรับผิดชอบกับประชาชน โดยใช้หลักวิชาการในการทำงาน เพื่อให้เกิดความเชื่อถือศรัทธา หวังจะได้ความร่วมมือที่ดี ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้น ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ให้การช่วยเหลือก็จะช่วยให้งานเร็วขึ้น

ศ.คณิตกล่าวว่า ในตอนแรกที่ตั้งคอป.ขึ้นมา คิดไว้ว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี เมื่อต่อมามีการเปลี่ยนรัฐบาล ตอนนี้เรื่องเวลาก็ไม่สนใจเท่าไร ถ้าประชาชนเห็นว่างานของเราเดินหน้าไปได้ด้วยดี ช่วยสร้างให้เกิดสันติได้ในบ้านเมือง ก็สนับสนุนเราต่อ ตอนนี้งานยาก เพราะความขัดแย้งยังคงอยู่

สำหรับผลสรุปในที่สุดนั้น การลงโทษเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบของ คอป. เรามีหน้าที่เอาความจริงมาตีแผ่ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย โดยเราทำไปด้วยความโปร่งใส เพื่อให้เกิดความสงบในบ้านเมือง ผลที่ออกมาน่าจะได้รับการยอมรับด้วยดี ส่วนเรื่องการเยียวยา เราชัดเจนว่า ไม่ใช่ยียวยาเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยการเยียวยาจะดูเรื่องของจิตใจเป็นสำคัญ เข้าไปดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง

ศ.คณิตกล่าวว่า คนเรามีความต้องการพื้นฐาน 2 อย่าง คือ ความมั่นคงในชีวิต และความเป็นธรรม ในสังคมเราในเรื่องความเป็นธรรมยังมีหลายอย่างต้องปรับปรุง ตอนนี้ก็ค่อยๆดีขึ้น ที่ผ่านมาเรื่องกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องในมิติของการออกกฎหมาย เราออกกฎหมายเชิงปราบปรามมาก แต่ในเชิงสร้างสรรค์ไม่ค่อยมี น่าจะมีมิติในการแก้ไขกฎหมายในแง่ของการเสริมสร้างบ้าง ไม่ใช่ปราบปรามลูกเดียว

“เรามีกฎหมายอาญาเยอะมาก ความจริงอาจไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ กระบวนการยุติธรรมของเรา เป็นระบบสายพาน จากตำรวจ สู่อัยการ ไปศาล ไปราชทัณฑ์ ปัญหาตอนนี้ คือ มีคนล้นคุก มีนักโทษ 2 แสนกว่าคน แต่เรือนจำรับได้แค่แสนคน สภาพตอนนี้แออัดมาก ถ้าเกิดเหตุการณ์ในส่วนราชทณฑ์ ก็จะเกิดจากเหตุนี้ เพราะกระบวนการยุติธรรมไม่ช่วยกันแก้ไข ควรจะให้มีการนำคนเข้าคุกน้อยลง บางคนเข้าคุกโดยไม่มีความจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นก็ต้องปล่อยไป ยกเว้นในกรณีที่จะหนี หรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือไปก่ออันตรายในการอื่น ซึ่งตอนนี้มีการเรียกร้องการประกันตัวต่างๆ มาก”

ศ.คณิตกล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมต้องปฏิรูปทั้งระบบ ต้องใช้งานวิจัยเข้ามาช่วย ต้องมีการวิจัยให้การปฏิรูปเกิดขึ้น ให้ขับเคลื่อนได้ ตอนนี้ทุกคนต้องเปลี่ยน อย่างน้อยความคิดก็ต้องเปลี่ยน ต้องสร้างเสริมให้คนรู้จักกฎหมายว่าแก้ปัญหาได้ ที่ผ่านมาเราเริ่มจับผู้กระทำความผิด แต่ไม่ได้เริ่มจากการตรวจสอบความจริง มีแต่จับตัวมาแล้วจะให้เขารับความผิด การจะจับใครจะต้องแน่ใจว่าผิดจริง ถ้าเอาคนมาขังไว้ เมื่อถึงศาลของบ้านเราสุดท้ายยกฟ้องถึง 50% ซึ่งเป็นความสูญเปล่า ถึงคราวที่เราจะต้อง ไม่ใช่ปะผุ ที่ผ่านมาเราแก้ปัญหาด้วยการปะผุ ถ้าตำรจมีปัญหาต้องแก้ที่หน่วยงานตำรวจ เดี๋ยวนี้เรามีหลายหน่วยงาน ทั้ง ดีเอสไอ ป.ป.ช. ป.ป.ท. แต่ไม่ได้มีบูรณาการร่วมกัน งานนี้อัยการควรเป็นเจ้าภาพให้หลายๆหน่วยงานบูรณาการร่วมกันเพราะเป็นหน่วยงานสุดท้ายก่อนนำคดีขึ้นสู่ศาล และต้องให้ความรู้ประชาชนให้มากขึ้น

เรื่องความขัดแย้งประเทศอื่นมีความขัดแย้ง มีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย แต่ของเรานี่กลุ่มชาติพันธุ์น้อย แต่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ต้องดูว่าเกิดจากอะไร หลายๆฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข เรื่องการปรองดองนั้นพูดกันในหลายมิติ อาจจะไม่ได้ถูกใจทั้งหมด แต่ต้องคิดว่าจะนำไปสู่สันติ คืออยู่ด้วยกันอย่างเรียบร้อยได้อย่างไร ซึ่งตอนนี้สังคมเราเปลี่ยนไปแล้ว เราก็ต้องปรับเปลี่ยน
กำลังโหลดความคิดเห็น