กว่าครึ่งค่อนของแผ่นดินไทยจมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนหลายล้านคนจมอยู่ในกองทุกข์ น้ำตาท่วมเต็มหัวอก นักการเมือง ส.ส.หายหัวไปกับสายน้ำ
ทิ้งให้นายกฯ ปู ต้องทำตัวเหมือนปูโพรก ตรากตรำงาน นำข้าราชการตระเวนเยี่ยมชาวบ้านในชุดสวยหรูเริด เฉิดฉาย สลับกับเดินสายไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มจากบรูไน ตามด้วยอินโดนีเซีย เพื่อกระชับสัมพันธไมตรี
นักการเมืองผีโม่แป้งทั้งระดับขาใหญ่ ประเภทธรรมดาจนถึงกระจอกแข่งกันวุ่นอยู่กับการหาช่องทาง ข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเหลี่ยมร้าย นายทาสน้ำเงินให้พ้นโทษอาญา นักนิติศาสตร์ ส.ส.เร่งกวดวิชาศรีธนญชัยศาสตร์
มีพื้นฐานในกมลสันดานอยู่แล้ว เพียงเสริมทักษะเล็กน้อย ก็เข้าฝัก! ฮ่า!
ชาวบ้านต่างจังหวัดได้แต่มองกระแสน้ำพัดผ่านหมู่บ้าน รอความช่วยเหลือเป็นถุงยังชีพจากเรือท้องแบน พร้อมกับความระทมทุกข์
ยุคนี้ไม่มีใครป่าวร้องให้ระดมช่วยพลังซับน้ำตาเพื่อนไทยเหมือนแต่ก่อน! สภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความแร้นแค้นจากแรงกดดันรอบด้าน การแบ่งแยกกันเป็นสี หมู่บ้านแดง แตกต่าง ทำให้คนไทยยุคนี้เหมือนไร้น้ำใจ
“เมื่ออยากอยู่แบบนั้น ก็ควรรอความช่วยเหลือจากพวกเดียวกัน”
นั่นคงอยู่ในแนวคิดของคนอยากสะใจ โดยน่าจะฉุกคิดว่าเมื่ออยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกัน ควรมีมิตรไมตรีต่อกัน อย่างน้อยสภาพวิกฤต ปัญหาการดำรงชีพน่าจะทำให้คนคิดว่าอะไรเป็นเรื่องน่าเชื่อ ควรเชื่อ ถ้ายังมีสติปัญญาเหลือ
แม้จะมีใครให้ความช่วยเหลือเจือจาน ต้องดูเจตนาเช่นกัน!
วิกฤตน้ำท่วมทั่วประเทศครั้งนี้ให้บทเรียนเจ็บปวดซ้ำซาก การตัดไม้ทำลายป่า แหล่งธรรมชาติ ต้นน้ำ โดยไม่คำนึงถึงผลร้าย ทำให้เกิดภัยพิบัติ เมื่อถูกธรรมชาติเอาคืน คนอยู่ในชนบทหรือในเมือง ก็โดนถ้วนหน้า
ต้องบอกว่าคนอาศัยบนแผ่นดินไทย สัญชาติใดก็ตาม ล้วนมีส่วนในการล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติในอัตรารวดเร็ว ทำให้สภาพวิปริต! อากาศประเทศไทยร้อนกว่าทุกชาติในอาเซียน อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา
ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ในอดีตในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง กลายเป็นภูเขาหัวโล้น ป่าโกร๋น ต้นน้ำลำธารถูกทำลายวายวอด! ป่าดงพระยาเย็น ดงพระยาไฟ มีสัตว์ร้าย ภัยสารพัด กลายเป็นแหล่งทำกินของชาวบ้าน
จะโทษใคร ถ้าไม่โทษตัวเอง! การยอมรับเศษเงิน เป็นทาสนายทุนในการตัดไม้ทำลายป่า บุกรุกพื้นที่อุดมสมบูรณ์ แปลงกรรมสิทธิ์ให้เป็นของนายทุน ทำให้พื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติลดน้อยลง ป่าปลูกก็ไม่สมบูรณ์เท่า
นอกจากน้ำท่วม เราเผชิญกับภัยดินโคลนถล่มหลายพื้นที่ มีความถี่มากกว่าที่เคยเป็นมา พร้อมความเสียหายรุนแรง หลังจากภัยครั้งแล้วครั้งเล่า เราไม่จดจำบทเรียน ทำให้เป็นวงจรวิบัติภัยซ้ำซากเกือบทุกปี
จากน้ำท่วม เป็นภัยแล้ง! ถือเป็นจังหวะโอกาสทองของนักการเมือง พ่อค้า ข้าราชการ กลุ่มเดิมๆ เป็นแกนอักษะแห่งความชั่วร้ายในแผ่นดิน
อาศัยหากินกับงบประมาณจัดไว้บรรเทาทุกข์ชาวบ้าน จนกลายเป็นว่าความทุกข์ยากลำบากของเหยื่อภัยพิบัติ เป็นหนทางสู่รายได้พิเศษก้อนใหญ่
เมื่อไม่สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ทั่วถึง นักการเมืองต้องเร่งหาตัวช่วย ด้วยการหักเหความสนใจ ปั่นกระแสข่าวเรื่องใหม่ ชาวบ้านจึงได้เห็นความผงาดในบทบาท “นายกฯ น้อย” ของ “สิงห์เหลิม บางบอน”
โดดเด่นโลดแล่นอยู่กับอำนาจ ล้ำหน้าคนอื่น! มีเสียงค่อนแคะ หมั่นไส้จากใครก็ตาม “นายกฯ น้อย” ไม่สนใจ ตราบใดที่เหลี่ยมร้ายและนายกฯ ปู พอใจ ในสภาพคอมมานโด องครักษ์แอ่นอกพิทักษ์ปกป้องภัยให้คุณปูผู้นำ
ดูให้ดี “นายกฯ น้อย” คนนี้ควบตำแหน่งไม่เป็นทางการ เช่น รมต. มหาดไทย, รมต.ยุติธรรม, ผบ.ตร., รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามขบวนการผู้ค้ายาเสพติด! แบบนี้ “เหลิม” ขออะไร นายใหญ่ต้องยอมให้
ผลงานเข้าตา ประทับใจเหลือหลาย ทั้งนายใหญ่ และนายหญิง!
แค่เตะโด่ง ผบ.ตร.วิเชียร ออกไป ไสส่ง ผอ.สมช. “ถวิล เปลี่ยนศรี” ปูทางให้พี่ชายนายหญิงมาเป็นใหญ่ในวงการสีกากี แค่นี้ “สิงห์เหลิม” จัดให้ จัดเต็ม ไม่ต้องกินดีหมี หัวใจเสือให้เสียพื้นที่กระเพาะซึ่งสำรองไว้งานอื่น
ใครจะว่าเป็นสายล่อฟ้า ตัวเสื่อม ก็ช่าง! “นายกฯ น้อย” คนนี้พร้อมเผชิญทุกงาน ภารกิจสำคัญยิ่งคือการดิ้นหารูหมาลอดให้นายใหญ่พ้นโทษ
ทำงานแบบนี้เหมือนโชว์ว่า “นี่แหละเหมาะสมกับเก้าอี้นายกฯ จริง”
คนใน ครม.ตาขวาง แกนนำเสื้อแดงหมั่นไส้ แต่ใครจะแหยมกับ “สิงห์เหลิม” ต้องคิดหนัก ฉายา “นินจา” หรือ “เหลิม ดาวเทียม” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ยิ่งกว่าแมวเก้าชีวิต! แบบนี้ต้องยกระดับให้ยศ “พลตำรวจเอก” ด้วยซ้ำ
เป็นเพียงร้อยตำรวจเอก ต้องสั่งงานนายพัน นายพล ไม่สมราคา!
การให้นายกฯ ปูโคลนนิ่ง วิ่งหัวฟูดูชาวบ้านจมน้ำ มีแต่เจ๊งกับเจ๊า! แต่ “นายกฯ น้อย” ตีกินคะแนนและพื้นที่ข่าว ได้ใจนาย เจ๋งกว่าเยอะนิ! อิอิอิ!!!
ทิ้งให้นายกฯ ปู ต้องทำตัวเหมือนปูโพรก ตรากตรำงาน นำข้าราชการตระเวนเยี่ยมชาวบ้านในชุดสวยหรูเริด เฉิดฉาย สลับกับเดินสายไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มจากบรูไน ตามด้วยอินโดนีเซีย เพื่อกระชับสัมพันธไมตรี
นักการเมืองผีโม่แป้งทั้งระดับขาใหญ่ ประเภทธรรมดาจนถึงกระจอกแข่งกันวุ่นอยู่กับการหาช่องทาง ข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเหลี่ยมร้าย นายทาสน้ำเงินให้พ้นโทษอาญา นักนิติศาสตร์ ส.ส.เร่งกวดวิชาศรีธนญชัยศาสตร์
มีพื้นฐานในกมลสันดานอยู่แล้ว เพียงเสริมทักษะเล็กน้อย ก็เข้าฝัก! ฮ่า!
ชาวบ้านต่างจังหวัดได้แต่มองกระแสน้ำพัดผ่านหมู่บ้าน รอความช่วยเหลือเป็นถุงยังชีพจากเรือท้องแบน พร้อมกับความระทมทุกข์
ยุคนี้ไม่มีใครป่าวร้องให้ระดมช่วยพลังซับน้ำตาเพื่อนไทยเหมือนแต่ก่อน! สภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความแร้นแค้นจากแรงกดดันรอบด้าน การแบ่งแยกกันเป็นสี หมู่บ้านแดง แตกต่าง ทำให้คนไทยยุคนี้เหมือนไร้น้ำใจ
“เมื่ออยากอยู่แบบนั้น ก็ควรรอความช่วยเหลือจากพวกเดียวกัน”
นั่นคงอยู่ในแนวคิดของคนอยากสะใจ โดยน่าจะฉุกคิดว่าเมื่ออยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกัน ควรมีมิตรไมตรีต่อกัน อย่างน้อยสภาพวิกฤต ปัญหาการดำรงชีพน่าจะทำให้คนคิดว่าอะไรเป็นเรื่องน่าเชื่อ ควรเชื่อ ถ้ายังมีสติปัญญาเหลือ
แม้จะมีใครให้ความช่วยเหลือเจือจาน ต้องดูเจตนาเช่นกัน!
วิกฤตน้ำท่วมทั่วประเทศครั้งนี้ให้บทเรียนเจ็บปวดซ้ำซาก การตัดไม้ทำลายป่า แหล่งธรรมชาติ ต้นน้ำ โดยไม่คำนึงถึงผลร้าย ทำให้เกิดภัยพิบัติ เมื่อถูกธรรมชาติเอาคืน คนอยู่ในชนบทหรือในเมือง ก็โดนถ้วนหน้า
ต้องบอกว่าคนอาศัยบนแผ่นดินไทย สัญชาติใดก็ตาม ล้วนมีส่วนในการล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติในอัตรารวดเร็ว ทำให้สภาพวิปริต! อากาศประเทศไทยร้อนกว่าทุกชาติในอาเซียน อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา
ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ในอดีตในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง กลายเป็นภูเขาหัวโล้น ป่าโกร๋น ต้นน้ำลำธารถูกทำลายวายวอด! ป่าดงพระยาเย็น ดงพระยาไฟ มีสัตว์ร้าย ภัยสารพัด กลายเป็นแหล่งทำกินของชาวบ้าน
จะโทษใคร ถ้าไม่โทษตัวเอง! การยอมรับเศษเงิน เป็นทาสนายทุนในการตัดไม้ทำลายป่า บุกรุกพื้นที่อุดมสมบูรณ์ แปลงกรรมสิทธิ์ให้เป็นของนายทุน ทำให้พื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติลดน้อยลง ป่าปลูกก็ไม่สมบูรณ์เท่า
นอกจากน้ำท่วม เราเผชิญกับภัยดินโคลนถล่มหลายพื้นที่ มีความถี่มากกว่าที่เคยเป็นมา พร้อมความเสียหายรุนแรง หลังจากภัยครั้งแล้วครั้งเล่า เราไม่จดจำบทเรียน ทำให้เป็นวงจรวิบัติภัยซ้ำซากเกือบทุกปี
จากน้ำท่วม เป็นภัยแล้ง! ถือเป็นจังหวะโอกาสทองของนักการเมือง พ่อค้า ข้าราชการ กลุ่มเดิมๆ เป็นแกนอักษะแห่งความชั่วร้ายในแผ่นดิน
อาศัยหากินกับงบประมาณจัดไว้บรรเทาทุกข์ชาวบ้าน จนกลายเป็นว่าความทุกข์ยากลำบากของเหยื่อภัยพิบัติ เป็นหนทางสู่รายได้พิเศษก้อนใหญ่
เมื่อไม่สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ทั่วถึง นักการเมืองต้องเร่งหาตัวช่วย ด้วยการหักเหความสนใจ ปั่นกระแสข่าวเรื่องใหม่ ชาวบ้านจึงได้เห็นความผงาดในบทบาท “นายกฯ น้อย” ของ “สิงห์เหลิม บางบอน”
โดดเด่นโลดแล่นอยู่กับอำนาจ ล้ำหน้าคนอื่น! มีเสียงค่อนแคะ หมั่นไส้จากใครก็ตาม “นายกฯ น้อย” ไม่สนใจ ตราบใดที่เหลี่ยมร้ายและนายกฯ ปู พอใจ ในสภาพคอมมานโด องครักษ์แอ่นอกพิทักษ์ปกป้องภัยให้คุณปูผู้นำ
ดูให้ดี “นายกฯ น้อย” คนนี้ควบตำแหน่งไม่เป็นทางการ เช่น รมต. มหาดไทย, รมต.ยุติธรรม, ผบ.ตร., รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามขบวนการผู้ค้ายาเสพติด! แบบนี้ “เหลิม” ขออะไร นายใหญ่ต้องยอมให้
ผลงานเข้าตา ประทับใจเหลือหลาย ทั้งนายใหญ่ และนายหญิง!
แค่เตะโด่ง ผบ.ตร.วิเชียร ออกไป ไสส่ง ผอ.สมช. “ถวิล เปลี่ยนศรี” ปูทางให้พี่ชายนายหญิงมาเป็นใหญ่ในวงการสีกากี แค่นี้ “สิงห์เหลิม” จัดให้ จัดเต็ม ไม่ต้องกินดีหมี หัวใจเสือให้เสียพื้นที่กระเพาะซึ่งสำรองไว้งานอื่น
ใครจะว่าเป็นสายล่อฟ้า ตัวเสื่อม ก็ช่าง! “นายกฯ น้อย” คนนี้พร้อมเผชิญทุกงาน ภารกิจสำคัญยิ่งคือการดิ้นหารูหมาลอดให้นายใหญ่พ้นโทษ
ทำงานแบบนี้เหมือนโชว์ว่า “นี่แหละเหมาะสมกับเก้าอี้นายกฯ จริง”
คนใน ครม.ตาขวาง แกนนำเสื้อแดงหมั่นไส้ แต่ใครจะแหยมกับ “สิงห์เหลิม” ต้องคิดหนัก ฉายา “นินจา” หรือ “เหลิม ดาวเทียม” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ยิ่งกว่าแมวเก้าชีวิต! แบบนี้ต้องยกระดับให้ยศ “พลตำรวจเอก” ด้วยซ้ำ
เป็นเพียงร้อยตำรวจเอก ต้องสั่งงานนายพัน นายพล ไม่สมราคา!
การให้นายกฯ ปูโคลนนิ่ง วิ่งหัวฟูดูชาวบ้านจมน้ำ มีแต่เจ๊งกับเจ๊า! แต่ “นายกฯ น้อย” ตีกินคะแนนและพื้นที่ข่าว ได้ใจนาย เจ๋งกว่าเยอะนิ! อิอิอิ!!!