ประจวบคีรีขันธ์ - นอภ.บางสะพานน้อย พร้อมทหารพราน 1403 บ้านคีรีล้อม หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตชด.ที่ 147 จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังกว่า 50 นายตรวจสอบพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมฯ พบมีกลุ่มนายทุนใต้เข้ามาโค่นไม้ใหญ่หลายจุด ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย-พม่าเพียง 2.5 กม.เป็นพื้นที่ความมั่นคง ยึดพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ ยางพารา ปาล์ม และกาแฟ จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ยอมรับกำลังไม่พอหลายปีพื้นที่ป่าต้นน้ำถูกบุกรุกไปแล้วถึง 1 แสนไร่
วันนี้ (23 ส.ค.) ปัญหาการบุกรุกป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ รอยต่อระหว่าง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับ จ.ชุมพร ยังคงเป็นปัญหาหนักเพราะพบว่ามีการบุกรุกอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอบางสะพานน้อย, พ.ต.เฉลิมพล คุปตะวาทิน ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1403 บ้านคีรีล้อม, หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ ร่วมสนธิกำลัง ภายหลังมีรายงานว่าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นป่าชั้นในต้นน้ำเอของจังหวัดชุมพร ติดชายแดนไทย-พม่า กำลังมีนายทุนเข้าไปบุกรุกโค่นป่า จึงนำกำลังเดินทางด้วยรถโฟร์วีล บางช่วงรถยนต์ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ต้องใช้วิธีการเดินเท้าแทน เนื่องจากพื้นที่ลาดชันและการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบากต้องใช้เวลาเดินทางนานหลายชั่วโมง
ทันทีเมื่อไปถึงพื้นที่เป้าหมาย เจ้าหน้าที่ไม่พบผู้ต้องหาแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้มีคนเฝ้าแจ้งเตือนกลุ่มผู้บุกรุกโดยใช้วิธีการยิงพลุหลายนัดเป็นการแจ้งเตือน จากการตรวจสอบมีเพียงบ้านพัก 1 หลัง และข้าวของใช้ และยังพบจักรยานยนต์ 1 คันจอดทิ้งไว้ทางขึ้นภูเขา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเอาไว้ หลังจากดูพิกัดจีพีเอส พบว่าจุดที่มีการบุกรุกอยู่ในป่าชั้นในห่างจากชายแดนไทย-พม่า เพียง 2.5 กิโลเมตรเท่านั้น
นายอำเภอบางสะพานน้อย สั่งเจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจสอบพบว่า จุดนี้นอกจากอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ แล้วยังอยู่ในเขต “โนแมนแลนด์” ซึ่งเป็นเขตความมั่นคงห้ามมีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ทั้งสิ้น โดยพบว่าพื้นที่จุดนี้มีขบวนการนายทุนจากทางภาคใต้เข้ามากว๊านซื้อที่ดิน และทำการโค่นป่าปลูกยางพารา เมื่อต้นยางพารามีอายุประมาณ 4 ปี กลุ่มนายทุนก็จะเข้าทำการเปิดอก หรือเปิดป่าด้วยการแผ้วถาง ใช้ยาฆ่าหญ้า
นอกจากนั้น วิธีการใหม่ก็คือการใช้ยาดูดซึมลาดบริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ โดยใช้วิธีการเฉาะต้นไม้และใช้น้ำยาดูดซึมลาดลงไปประมาณ 15-30 วันต้นไม้ก็จะเริ่มแห้งใบจะร่วงและยืนต้นตาย กลายเป็นป่าเสื่อมโทรม อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้พบว่าพื้นที่แนวชายแดนไทย-พม่าจุดนี้ กำลังเข้าสู่ภาวิฤกติ เนื่องจากสภาพป่าที่เห็นไม่ใช่เป็นป่าใหญ่ แต่ต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมสีเขียวไม่ใช่ไม้ใหญ่แต่กลายเป็นพวกกล้วยป่า และวัชพืชจำนวนมากที่ขึ้นปกคลุมด้านในกลายเป็น ต้นยางพารา แทบทั้งภูเขาถูกกลุ่มนายทุนกำลังรอเวลาที่จะเข้ามาบุกรุกแผ้วถางเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต่อไป วิธีการแบบนี้เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ แม้การบินสำรวจก็จะเห็นเพียงป่าสีเขียว แต่ความจริงไม่ใช่ ผืนป่าที่เห็นคือสวนยางพารา
นายอำเภอบางสะพานน้อย พร้อมทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก, เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ตชด.147 ผู้ใหญ่บ้านช่องลม ยังได้เข้าตรวจยึดไม้ยางนาซึ่งถูกโค่นประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา มีความยาวกว่า 22 เมตร และพื้นที่ภูเขาอีกจุดที่มีการแผ้วถางเผาทำลายบนภูเขาเกือบ 10 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ยืนยันว่าก่อนหน้านี้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว แต่ล่าสุดมีร่องรอยการเข้ามาปลูกพืชอีก ซึ่งทางนายอำเภอบางสะพานน้อย สั่งให้ตรวจยึดเพิ่มเติมต่อไป
มีรายงานล่าสุดว่า นายอำเภอบางสะพานน้อยได้รายงานสภาพปัญหาให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบข้อมูลการเข้ามาบุกรุกยึดป่าแถบนี้ของกลุ่มนายทุนจากภาคใต้ โดยผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอาคืนผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ที่มีการบุกรุกใหม่ถึงแม้จะจับกุมกลุ่มนายทุนไม่ได้ก็ตาม
ทั้งนี้ นายสถิต จันทรมณี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ ยอมรับสถานการณ์น่าเป็นห่วง พื้นที่เกือบ 2 แสนไร่หลายปีถูกบุกรุกไปแล้วเกือบ 1 แสนไร่ และยังมีการบุกรุกอย่างต่อเนื่อง และยอมรับด้วยว่าปัญหาอย่างหนึ่งในปัจจุบัน คือ กำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีอยู่เพียง 16 คนเท่านั้น ซึ่งพื้นที่ป่าชั้นในส่วนใหญ่ต้องเดินเท้าเท่านั้น
พร้อมเห็นว่าควรที่จะมีการสำรวจรังวัดพื้นที่ซึ่งมีผู้ครอบครองรายเดิมเพื่อขึ้นทะเบียนเอาไว้ เพราะจะได้เป็นฐานข้อมูลต่อไปว่าจุดนี้พิกัดนี้เป็นแปลงของใคร และเป็นการป้องกันการบุรุกเพิ่มเติมต่อไปอีก ซึ่งปัจจุบันสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ถูกบุกรุกมาหลายปี และมีการอำพรางเอาไว้ ซึ่งนับจากนี้ไปเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และเป็นสิ่งที่หลายภาคส่วนต้องมาหาทางออกร่วมกันในการป้องกันผืนป่าที่เหลือต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผืนป่าที่เราตรวจพบครั้งนี้ก็จะดำเนินการจับพิกัดจีพีเอสและทำการรังวัดตรวจยึดต่อไป ซึ่งยังมีพื้นที่อีกหลายจุดที่เราต้องสนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบและยึดคืนผืนป่าต่อไปวันนี้ที่ตรวจยึดก็ประมาณเกือบ 100 ไร่ ซึ่งจะรายงานสภาพปัญหาการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รับทราบต่อไปเพื่อหาแนวทางการสกัดกั้นการบุกรุกป่าต้นน้ำผืนนี้ให้ได้
ด้าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่าหลังจากรับทราบรายงานการบุกรุกของผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ แถบอำเภอบางสะพานน้อย แล้วมีความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ป่าไม้ ซึ่งตนเองจะเดินทางจะลงพื้นที่เพื่อไปดูข้อเท็จจริง และดูถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และอาจต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันฯ จากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบลาดตระเวนพื้นที่ด้วย
ลุงชิน สุดพิมพ์ศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านช่องลม กล่าวว่า ผืนป่าชั้นในเป็นป่าต้นน้ำชั้นเอของจังหวัดชุมพร มีคลองท่าแซะไหลผ่านซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศวิทยา เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ กำลังกลายเป็นสวยยางในอนาคต สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างคงไม่พ้นปัญหาดินภูเขาที่อาจสไลด์ลงมาในแถบนี้ได้ เนื่องจากต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นไปหมด วันนี้ทำยังไงที่จะดึงเอาชาวบ้านในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลป่าอนุรักษ์ที่กำลังลดลงไป
“ผมบอกตรงๆ วันนี้ต้องช่วยกัน ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้ป่าใหญ่กลายเป็นสวนยาง แล้วจะเรียกว่าป่าอนุรักษ์ได้อย่างไร”
