xs
xsm
sm
md
lg

ล่า5ล้านชื่อไล่รบ.ปู เบี้ยวขึ้นค่าแรง300บ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “เผดิมชัย” ลั่นตั้งเป้าไม่เกิน 2 ปีค่าแรง 300 บาท ได้ครบทุกจังหวัด ขณะที่ภาคแรงงานจี้ปรับขึ้นค่าจ้างพร้อมทั่วประเทศภายในม.ค.55 เตรียมตบเท้าเข้าพบ”ยิ่งลักษณ์” 7 ต.ค.ขู่ล่า 5 ล้านชื่อฟ้องศาลปกครองจ้องไล่รัฐบาลทำไม่ได้ตามที่พูดให้ลาออก ด้าน “พาณิชย์” เผยสินค้า 5 กลุ่ม ปูน กระเบื้อง ปุ๋ย เครื่องปั๊มน้ำ และแป้งสาลี ยอมลดราคาทันที เพื่อช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการแฉยังถูกตำรวจเรียกส่วยรถบรรทุก ทำให้ลดน้ำมันไม่ทำให้ต้นทุนสินค้าลด

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเพิ่มรายได้ให้แก่แรงงานให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยการที่ใช้คำว่าให้มีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาท ไม่ได้บิดเบือนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ แต่มีเจตนาที่บริสุทธิ์ที่ต้องการให้แรงงานทุกกลุ่มทั้งในระบบและนอกระบบ เช่น แรงงานภาคเกษตร ผู้ที่รับงานไปทำที่บ้าน มีโอกาสได้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาท โดยไม่รวมค่าทำโอที ซึ่งรัฐบาลจะทำทันทีโดยให้ทั้งฝ่ายลูกจ้างและนายจ้างอยู่ได้ ไม่มีใครบอบช้ำ ได้เปรียบเสียเปรียบ ยุติธรรม และพอใจทั้งสองฝ่าย

**แรงงาน 7 จว.เฮ!! 1 ม.ค.เริ่มรับ 300

นายเผดิมชัย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะทำตามข้อสัญญาที่หาเสียงไว้แน่นอน ซึ่งการปรับค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท จะทยอยปรับแบบขั้นบันได ไม่อาจทำให้ได้พร้อมกันในทันที เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีอัตราค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อที่ไม่เท่ากัน แต่มีแนวทางว่า วันที่ 1 มกราคม ปี 2555 จะปรับขึ้นให้กับ 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรีและภูเก็ต รับค่าจ้างขั้นต่ำใกล้เคียงวันละ 300 บาท ส่วนจังหวัดที่เหลือจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างอัตราร้อยละ 40 และภายใน 1 ปี จะทยอยปรับขึ้นให้เท่ากันวันละ 300 บาท โดยจะปรับฐานค่าจ้างสูงขึ้นก่อนดำเนินการให้มีอัตรา 300 บาทเท่ากันทั่วประเทศใน 77 จังหวัดและทำในเวลากระชับ ทุกอย่างจะไม่ใช้เวลายาวถึง 2 ปี

**จี้ปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน พร้อมทั่วประเทศภายในม.ค.นี้**

นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า ตอนนี้ ราคาสินค้าในบางจังหวัดปรับขึ้นสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำไปแล้ว และสถานประกอบการบางจังหวัด ก็มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันไปแล้ว ดังนั้น แรงงานไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐมนตรีแรงงานในการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทที่จะเริ่มนำร่องใน 7 จังหวัด ก่อนนำสัดส่วนการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันใน 7 จังหวัดซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 มาเป็นฐานในการเพิ่มค่าจ้างให้แก่จังหวัดอื่นๆ โดยอยากให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมกราคมปีหน้า

**ขู่ล่า 5 ล้านชื่อฟ้องศาลปกครอง

“ในวันที่ 7 ต.ค. คสรท. จะร่วมกับกลุ่มองค์การแรงงาน จะไปพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อขอความชัดเจนในเรื่องการปรับค่าจ้าง 300 บาท หากในเดือนมกราคม รัฐบาลยังไม่ดำเนินการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทให้แก่แรงงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะแจ้งความว่ารัฐบาลทำผิด มาตรา 53 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.และการได้มาซึ่งสว. พ.ศ.2550 ในเรื่องทำผิดสัญญาหาเสียงโดยสัญญาว่าจะให้แล้วไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทจำนวน 5 ล้านคน ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองด้วย” ประธาน คสรท. กล่าว

นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กลุ่มแรงงานมารวมตัวกันมากที่สุด แต่การเคลื่อนไหวเรียกร้องอยากให้ทำในนามของกลุ่มแรงงานทั่วประเทศ ไม่ใช่ในนามขององค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้นเพื่อจะได้เกิดพลังในขับเคลื่อนให้ได้ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งสาเหตุแรงงานต้องรวมตัวเรียกร้องเช่นนี้เพราะค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาสินค้อุปโภคบริโภคขายราคาเท่ากันในห้างใหญ่ๆที่กระจายอยู่ตามภูมิภาค แต่เหตุใดจะนำร่องปรับค่าจ้างแค่ 7 จังหวัดไม่ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ

**ไล่รัฐบาลทำไม่ได้ตามที่พูดให้ลาออก

นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า ค่าจ้างเป็นประเด็นทางการเมือง เมื่อรัฐบาลหาเสียงที่จะปรับค่าจ้างซึ่งเป็นการส่งสัญญาณทำให้สินค้าปรับราคาสูงขึ้น หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมราคาสินค้าได้การปรับค่าจ้างก็จะไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถควบคุมราคาสินค้าได้ จึงอยากให้รัฐบาลชุดนี้ควบคุมีราคาสินค้าให้ได้ ทั้งนี้ ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท จะต้องใช้บังคับกับแรงงานภาคเกษตรและแรงงานข้ามชาติด้วย แต่หากรัฐบาลทำไม่ได้ก็ขอให้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

**กทม.บุกมหาดไทยขอเพิ่มด้วย

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย. 54) กทม. จะหารือกับกระทรวงมหาดไทยในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลในส่วนของเงินเดือน 15,000 บาท และค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันกทม. ใช้เงินรายได้ที่จัดเก็บได้นำมาจัดสรรเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างกทม. ซึ่งไม่เกินร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด ทั้งนี้หากมีการปรับขึ้นเงินเดือนและค่าจ้างตามนโยบายรัฐบาล กทม.จำเป็นต้องขอรับการสนับสนุน งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบการเงินและการคลังของกทม. รวมไปถึงจะเสนอให้มีการขยายสถานธนานุบาล ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ครบ 50 เขต เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งการเงินได้ง่ายขึ้น

***พาณิชย์จี้ลดราคาสินค้า 5 รายการ

นายภูมิ สาระผล รมช.ทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการปรับลดราคาสินค้าเบื้องต้น 5 รายการ ลดราคาตั้งแต่ 0.55-13.88% แม้ว่าต้นทุนจะลดลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการลดรายจ่ายในส่วนการซื้อหาสินค้า หลังจากที่ได้ดูแลในเรื่องราคาน้ำมันไปแล้ว สินค้าทั้ง 5 รายการ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา ปุ๋ยเคมี เครื่องปั๊มน้ำและแป้งสาลี

สำหรับกลุ่มสินค้าที่ยังไม่สามารถลดราคาได้ทันที ผู้ประกอบการได้ยืนยันจะไม่มีการปรับขึ้นราคา และจะตรึงราคาจำหน่ายไปจนถึงสิ้นปี ได้แก่ หมวดของใช้ประจำวัน เช่น ผงชักฟอก สบู่ ยาสีฟัน และหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง เพราะสินค้ากลุ่มนี้ได้มีการทำสัญญาว่าจ้างการขนส่งกับผู้ประกอบการรับเหมาขนส่งไว้เป็นรายปี และทำสัญญากันล่วงหน้ากันถึงสิ้นปี แม้ว่าต้นทุนค่าขนส่งจะปรับลดลงจากการลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาทก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือครั้งนี้ ผู้ประกอบการได้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่สามารถปรับลดราคาสินค้าลงมาได้ หลังจากที่ต้นทุนภาคการขนส่งปรับลดลงจากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง โดยระบุว่า เป็นเพราะผู้ประกอบการขนส่งได้ผลักภาระการขนส่งสินค้าบางส่วนมาให้ หลังจากที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องจ่ายค่าส่วยรถบรรทุกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยังคงต้องจ่ายเป็นรายเดือนแลกกับสติกเกอร์มาติดไว้หน้ารถเพื่อป้องกันการถูกจับกุม ทำให้ไม่สามารถปรับลดราคาสินค้าจากต้นทุนน้ำมันที่ทำให้ค่าขนส่งลดลงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น