ฯพณฯ เฉลิมใหญ่คับฟ้า คุมตำรวจ - คดีแม้ว - สื่อ ได้ดีเพราะเชลียร์นาย

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ใครที่ได้ติดตามดูการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่หากไม่นับการยืนอ่านสคิปต์นโยบายของรัฐบาลยาวกว่า 44 หน้าแล้ว หลายคนคงนึกพาลไปว่าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เสียด้วยซ้ำ

เพราะสิ่งที่ปรากฏแทงตาประชาชนทั้งหลายก็คือภาพของ ร.ต.อ.เฉลิม รับบทเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้านทั้งพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ในทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านพยายามอภิปรายโจมตีพรรคเพื่อไทย นช.ทักษิณ ชินวัตร หรือน.ส.ยิ่งลักษณ์

เรียกว่าย่อมสร้างความชื่นใจให้กับนายใหญ่ไม่น้อยที่มอบความไว้วางใจในบทบาทหัวหอกของพรรคเพื่อไทย ในเวทีสภาผู้แทนราษฎร และเชื่อว่าภารกิจหลักในสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะอยู่ในการกำกับดูแลของ ร.ต.อ.เฉลิมไปอีกนานแสนนาน

ขณะเดียวกัน สิ่งที่สังคมพอจะได้พึงทราบแล้วขณะนี้ก็คือความเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในภาพนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดที่นับวันเริ่มจะปรากฏให้เห็นถึงความไร้เดียงสาทางการเมืองเข้าไปทุกทีๆ แน่นอนก็หลายคนย่อมเข้าใจได้ในระดับหนึ่งว่าเธอเพิ่งจะก้าวเข้ามาสู่เวทีการเมืองได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งอย่าได้แปลกใจหากจะเห็นเธอเดินหนีนักข่าวเอาดื้อๆ เมื่อยามตอบคำถามที่เกินความสามารถของเธอ

และหากใครได้ติดตามข่าวทางโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็อย่าได้แปลกใจหากจะเห็นหน้า ร.ต.อ.เฉลิม รองนายกรัฐมนตรี โผล่มาแทบทุกครั้ง เสมือนประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี ชื่อร.ต.อ.เฉลิมก็ไม่ปาน เรียกว่ามิเสียแรงที่ถวายตัวรับใช้จนได้รับฉายาหัวขบวนองครักษ์พิทักษ์นายใหญ่เลยแม้แต่น้อย

ทั้งนี้ คงไม่ได้เป็นการเกินเลยแต่อย่างใด หากจะกล่าวว่านับจากนี้เป็นต้นไปบทบาทของร.ต.อ.เฉลิมจะโดนเด่นเกินหน้าเกินตานายกรัฐมนตรีตัวจริง อย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ่งเมื่อมีการแบ่งงานคณะรัฐมนตรีก็ยิ่งเห็นความจริงข้อนี้ชัด เพราะบุคคลที่ดูจะได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จโดดเด่นที่สุดก็ยังคงเป็น สารวัตรเหลิม เนื่องจากได้รับหน้าที่ให้กำกับดูแลทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

จะไม่เรียกว่ายิ่งใหญ่คับประเทศได้อย่างไร เอาแค่งานแรกที่ต้องไปกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภารกิจจัดการเด้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. สารวัตรเหลิมก็เดินทางมา สตช.ด้วยรถสุดหรู ยี่ห้อเบนท์เลย์ สีดำ ทะเบียน ฉล9999 ในสนนราคาเหยียบ 60 ล้านบาท ท่ามกลางการรอรับของนายตำรวจระดับนายพลที่ยืนเอามือกุมเป้ากันคับคั่ง ชนิดที่หลายคนคงไม่กล้าแม้จะคาดคิดว่า นี่คือบิดาของนายดวง อยู่บำรุง อดีตผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ ดาบยิ้ม ในทเวนตี้ผับ ซึ่งบัดนี้พ้นผิดกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ไปเรียบร้อย

แต่จะอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสังคมไทยยังคงไม่ลืมวลีเด็ดที่ออกมาจากปากของ ฯพณฯเหลิม ณ บางบอนว่า "ไอ้ปื๊ด มันยิงดาบยิ้ม"

และในที่สุด สารวัตรเหลิมก็พิสูจน์ให้นายใหญ่เห็นแล้วว่า คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มที่เลือกใช้บริการเขา เพราะสามารถเด้ง พล.ต.อ.วิเชียรให้ไปนั่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติและดัน พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ พี่ชายนายหญิง ได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.สมใจ

ขณะเดียวกัน ความยิ่งใหญ่ของ ฯพณฯเฉลิม ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะนอกจากจะได้คุมองค์กรใหญ่อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีบุคลากรปาเข้าไปกว่า 2แสนคนแล้ว โดยยังได้รับความไว้วางใจให้กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนั้นก็หมายถึงคดีความทั้งหลายทั้งแหลของนายใหญ่ รวมไปถึงคดีของบรรดาแกนนำเสื้อแดง ก็ต้องอยู่ในการดูแลควบคุมของ ฯพณฯเฉลิม แบบไม่ต้องสงสัย

นี่ยังไม่นับรวมอำนาจหน้าที่ของ ฯพณฯเฉลิมในการกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ องค์กรที่ดูแลคดีสำคัญและคดีการเมืองโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย ก็มักจะทำผลคดีออกมาเป็นคุณแก่รัฐบาลนั้นเสมอมา เรียกว่ายุคประชาธิปัตย์ก็เล่นงานแกนนำเสื้อแดง เสียไปไม่เป็นมาแล้วเช่นกัน ที่สำคัญก็คือล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังได้มอบความไว้วางใจให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นประธานคณะกรรมคดีพิเศษ หรือ กคพ.พ่วงไปอีกตำแหน่งอีกด้วย

ไม่หมดแค่นั้น งานสำคัญอย่างการดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ก็ยังต้องตกอยู่ภายในอำนาจของ ฯพณฯเฉลิมอีกเช่นกัน ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ ก็ได้เกิดการรื้อแผงผังรายการตามวาระประเพณีของการเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งรายการที่หวยออกก็คือ "รายงานเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก" ของสำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งในยุคที่ผ่านมาก็ได้เปิดหน้าชนด้วยการนำเสนอถึงความพยายามชี้ให้เห็นถึงความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง

ขณะที่ผู้เป็นพ่ออย่างร.ต.อ.เฉลิมเติบใหญ่แทบจะคับประเทศ ดังนั้น จงอย่าแปลกใจหากอานิสงส์จะตกไปถึงคนในตระกูลอยู่บำรุง เพราะปรากฏว่านายวัน อยู่บำรุง ก็ได้ตกรางวัลเป็นผู้ช่วย เลขานุการรมช.คมนาคม (นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์) ที่ถึงแม้จะสอบตกทำเอาผู้เป็นพ่อขายหน้าไปพักใหญ่ ด้วยประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่จนแล้วจนรอดก็ได้ดิบได้ดีเกินคาดไปอีกเสียต่างหาก

ขณะที่ นายดวง อยู่บำรุง ก็มีกระแสข่าวว่าจะได้ไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยาเสพติดแห่งชาติ ที่มีพ่อบังเกิดเกล้าเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง

อย่างไรก็ตาม จะว่าไปแล้วการที่ ร.ต.อ.เฉลิม ได้รับการตบรางวัลทางการเมืองชนิดใหญ่คับเมือง ก็คงไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน เพราะต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าการที่พรรคเพื่อไทยชนะเป็นกอบเป็นกำ ก็เป็น ร.ต.อ.เฉลิม ที่ได้จุดพลุนำ นช.ทักษิณกลับบ้านเป็นคนแรก ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายต่อหลายคนที่มองว่า พรรคเพื่อไทย ควรตีตัวออกห่าง นช.ทักษิณได้แล้ว เพราะอาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยตกต่ำยิ่งขึ้นไปอีก

แต่ก็เป็น ร.ต.อ.เฉลิมที่ยังมั่นใจในแนวทางนำ นช.ทักษิณ กลับบ้านไปหาเสียงจนพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แถมด้วยประกาศว่าได้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้นายใหญ่แบบเสร็จสรรพแล้วด้วยซ้ำ และก็เป็น ร.ต.อ.เฉลิมนี่เอง ที่เป็นหัวหอกคนสำคัญในช่วงหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย จนได้รับชัยชนะ

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังได้สร้างผลงานด้วยการเป็นหัวหอกฝ่ายค้านยุคที่ผ่านมาได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการขุดคุ้ยข้อมูลคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินบริจาค 258 ล้านบาท จากบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด(มหาชน) ผ่านบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่นจำกัด โดยทำสัญญาว่าจ้างทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นนิติกรรมอำพราง และคดีการใช้เงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งดาวเด่นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็คือร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย

ที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ก็คือ สิ่งที่สังคมได้เห็นกันจนเจนตาก็คือ ไม่ว่าใครจะออกหน้ากล่าวหานายใหญ่หรือนายหญิง ไปในทางลบไม่พ้นจะต้องเจอกลับวาทะอันร้อนแรงของ เหลิม บางบอน ตอกกลับไปเสียหน้าหงายแทบทุกครั้ง เรียกว่าอย่าได้แปลกใจ กับบทบาทที่ทำให้เขาใหญ่คับฟ้าอยู่ ณ ขณะนี้ว่าได้ดิบได้ดีขนาดนี้เป็นเพราะเหตุใด

เอาแค่ไม่ต้องอื่นไกล ขนาดที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โชว์ภาวะผู้นำบกพร่องอย่างรุนแรงในสภาฯ ฯพณฯ เหลิมก็ยังออกมาปกป้องว่า “ขอบอกให้สื่อมวลชนเด็ก ๆ ที่อาจจะไม่ทราบเอาไว้ว่าเคยมีนายกฯที่ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์แล้วอยู่ได้ 8 ปีครึ่ง”

แน่นอนว่าหลังจากนี้ประชาชนคงจะได้เห็น ฯพณฯ เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอหน้าออกสื่อคอยตอบคำถามทุกประเด็นไม่ว่าจะเป็นการแก้รัฐธรรมนูญ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ความเป็นไปของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือกระทั่งความเคลื่อนไหวของ นช.ทักษิณแทนนายกรัฐมนตรี อย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์กันจนเบื่อเลยทีเดียว