xs
xsm
sm
md
lg

ศาล ปค.ไต่สวนคุ้มครอง “ทีนิวส์” ถูกถอด “เจาะข่าวร้อน” พ้นช่อง 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทีนิวส์” ร้องศาลปกครองกลาง ขอคุ้มครองชั่วคราว หลังถูกกรมประชาสัมพันธ์ ระงับการออกอากาศรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก 5 ครั้ง อ้างเนื้อหาไม่ส่งเสริมปรองดองสมานฉันท์ ยัดรายการอื่นออกอากาศแทน เผย ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินทันที


เมื่อวันที่ 19 ก.ย.54 นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ทีนิวส์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากบริษัท กรีน อินเทลลิเจ้นท์ จำกัด ซึ่งผลิตรายการ “เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก” โดยสถานีโทรทัศน์ ที-นิวส์ ออกอากาศทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ทุกวันจันทร์ เวลา 21.00-22.00 น.ยื่นฟ้องกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นคู่สัญญาการเช่าเวลาออกอากาศ ต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่กระทำการโดยไม่ชอบฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยการสั่งตรวจสอบสคริปต์ และเทปบันทึกรายการก่อนออกอากาศ รวมทั้งมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงการออกอากาศ ด้วยการแจ้งจะนำรายการอื่นมาออกอากาศแทน “เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก” ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยอ้างเหตุว่ารายการที่บริษัทผลิต มีเนื้อหาไม่ส่งเสริมการปรองดองสมานฉันท์ ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 45 บัญญัติให้บุคคล รวมทั้งสื่อ มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ขณะที่การจะห้ามแสดงความคิดเห็นกระทำไม่ได้ รวมทั้งการนำข่าวไปให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจก่อนก็ทำไม่ได้

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า การละเมิดสิทธิการออกอากาศ บริษัทถูกกระทำมาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน โดยรายการถูกระงับการออกอากาศถึง 5 ครั้ง ครั้งล่าสุด กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีหนังสือมาถึงบริษัทวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา แจ้งว่า จะนำเทปบันทึกการแข่งขันวงโยธวาทิต มาออกอากาศแทน ดังนั้น เราจึงต้องมายื่นฟ้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ให้บริษัทสามารถนำรายการที่ผลิตออกอากาศได้ ตามวัน-เวลา ที่ระบุในสัญญาที่ทำไว้กับกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้ทำร่วมกันไว้มีกำหนด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.-30 ก.ย.54 โดยขณะนี้บริษัทเหลือเวลาออกอากาศอีกเพียงครั้งเดียว คือ วันจันทร์ที่ 26 ก.ย.สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ซึ่งตุลาการศาลปกครองกลาง ได้รับคำขอไว้พิจารณา โดยมีหมายแจ้งถึงผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์แล้ว เพื่อให้มาไต่สวนฉุกเฉินภายในวันนี้ (20 ก.ย.) เวลา 18.30 น.ขณะที่ฝ่ายบริษัท ก็จะมีตนเป็นผู้เข้าให้ถ้อยคำต่อศาล

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า เราไม่รู้ว่าการมีคำสั่งขอตรวจสคริปต์รายการ และเทปบันทึกรายการ ตลอดจนคำสั่งแจ้งเปลี่ยนแปลงออกอากาศด้วยการนำรายการอื่น เช่น การประกวดนางสาวส้มโอ และ วงโยธวาทิต มาออกอากาศแทน จะเป็นไปโดยสุจริตใจ หรือกลั่นแกล้งหรือไม่ เราจึงต้องมายื่นฟ้องเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานสำหรับสื่อมวลชนที่จะไม่ถูกละเมิดสิทธิ์ ขณะที่การยื่นฟ้องคดีนี้ นอกจากคำขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวแล้ว เรายังมีคำขอท้ายฟ้องอีก 2 ข้อ คือ 1.ขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งให้กรมประชาสัมพันธ์ ผู้ถูกฟ้อง อนุญาตให้บริษัท ผู้ฟ้อง สามารถออกอากาศรายการได้ตามวัน-เวลา ในสัญญา และ 2.ขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ชดใช้ค่าเสียหายที่บริษัทได้ผลิตรายการแล้ว แต่ถูกระงับการออกอากาศไปถึง 5 ครั้ง ซึ่งบริษัทมีภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตรายการ รวมทั้งค่าขาดรายได้จากสปอนเซอร์สนับสนุนรายการที่บริษัทจะได้รับด้วย หากไม่ถูกระงับการออกอากาศ รวมทั้งสิ้น 564,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ส่วนเวลาการออกอากาศที่บริษัทต้องเสียไปถึง 5 ครั้งนั้น จะเรียกร้องเพิ่มหรือไม่ ต้องปรึกษาทนายความอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับสัญญา

ทั้่งนี้ มีรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น.ศาลปกครองได้เริ่มไต่สวนคู่ความทั้งสองฝ่าย เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริง ก่อนวินิจฉัยจะให้การคุ้มครองการออกอากาศของรายการเจาะข่าวร้อนฯต่อไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวทีนิวส์ ออกแถลงการณ์ ด้วยว่า โดยสำนักข่าวทีนิวส์ ถูก สทท.11 จำกัดการออกอากาศตามสิทธิ์ของการเช่าเวลาออกอากาศ และการดำเนินงานในฐานะสื่อมวลชน ในการนี้สำนักข่าวทีนิวส์ จึงเข้ายื่นฟ้อง สทท.11 ต่อศาลปกครอง เพื่อธำรงไว้ซึ่งสิทธิ์ และพิทักษ์เสรีภาพของสื่อมวลชนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

๑.สำนักข่าว ทีนิวส์ ผู้ผลิตรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก ออกอากาศ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ทุกวันจันทร์ เวลา ๒๑.๐๐-๒๑.๕๐ น.ที่ผ่านมา สำนักข่าวทีนิวส์ ได้นำเสนอข่าวสาร สาระ ที่มีคุณภาพ ด้วยความรับผิดต่อสังคมโดยส่วนรวม ประเทศชาติ และประชาชน มาโดยตลอด

๒.ซึ่งในการนำเสนอ ข่าวสาร ดังกล่าว ตาม ข้อ ๑ นั้น สำนักข่าวทีนิวส์ ได้มุ่งเน้นในการนำเสนอความจริงข้อมูลเชิงลึก ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคล และ/หรือกลุ่มบุคคล ที่มีความมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และต่อต้านการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งเป็นการนำเสนอบนพื้นฐานของพยานหลักฐานที่มีอยู่จริง

๓.เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ก็เริ่มปรากฏขบวนการ การจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร ของสำนักข่าวทีนิวส์ ด้วยวิธีการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ ๒๒ สิงหาคม - ๑๙ กันยายน ๒๕๕๔ ร่วมทั้งสิ้น ๕ ครั้ง ซึ่งสามารถจำแนกได้ ดังนี้ คือ ครั้งที่ ๑, ๒, ๔ และ๕ ด้วยเหตุผล ที่ต้องนำเทปบันทึกภาพกิจกรรมต่างๆ เช่น การประกวดธิดาส้มโอ, การประกวดวงโยธวาทิต มาออกอากาศในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วน หรือไม่ก็ตาม ทางสำนักข่าวทีนิวส์ ก็ให้ความร่วมมือมาด้วยดีตลอด

๔.แต่ปรากฏว่า ในการระงับการออกอากาศ ครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๔ นั้น ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย มิได้มีการแจ้งล่วงหน้า ว่า มีภารกิจต้องใช้เวลาในช่วงดังกล่าวไปเพื่อการใด แต่ให้เหตุผลถึงการระงับการออกอากาศ ในวันดังกล่าว ด้วยเหตุผล ว่า “สถานีได้ตรวจสอบและวิเคราะห์ รายการอย่างระเอียดแล้ว ให้เปลี่ยนแปลงเนื้อหา ของรายการที่พาดพิงถึง นปช. เสื้อแดงล้มเจ้า การนำเสนอพาดพิงถึงบุคคลอื่น อันอาจทำให้เกิดความแตกแยกขัดต่อนโยบายของรัฐบาลที่มีเป้าหมายมุ่งสู่ความปรองดองสมานฉันท์

๕.จากพฤติการณ์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ตามข้อ ๔ นั้น แสดงให้เห็นว่า มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน ทั้งในเรื่องของการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายด้วยวิธีอื่น ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ส่วนที่ ๗ มาตรา ๔๕ วรรค ๑ และ ในส่วนที่ แจ้งว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบ และวิเคราะห์ แล้วนั้น ก็ถือว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕ วรรค ๕ อีกเช่นกัน

๖.ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเสรีภาพในการแสดงความเห็นของบุคคล และสื่อมวลชน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ สำนักข่าวทีนิวส์ จึงได้นำเรื่อง การถูกจำกัดเสรีภาพดังกล่าวยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเมื่อศาลได้วินิจฉัยแล้วบุคคลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวจะได้ถือเป็นบรรทัดฐานและแนวทางปฏิบัติต่อไป

สำนักข่าวทีนิวส์
๑๙ กันยายน ๒๕๕๔
กำลังโหลดความคิดเห็น