วานนี้ (31 ส.ค) นายสุริยะใส กตะศิลาผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว กล่าวว่า ตนคิดว่าการแต่งตั้งข้าราชการเมืองด้วยการแต่งตั้งบรรดาแกนนำ นปช.ที่ต้องคดีสารพัดและเป็นกลุ่มบุคคลที่เป็นเงื่อนปมของความแตกแยกในสังคมมารับตำแหน่งหลายตำแหน่ง จะเป็นสายล่อฟ้อกำหนดชะตากรรมของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าคิดว่าการเอาแกนนำ นปช.เข้ามาอยู่ในอำนาจรัฐจะทำให้รัฐบาลแข็งแกร่งและอยู่ได้นาน ถือว่าเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามถ้าขั้วอำนาจหนึ่งถืออำนาจก็เป็นไปได้ที่จะใช้อำนาจนั้นฟูมฟักพวกเดียวกันเองและเล่นงานฝ่ายตรงกันข้าม หรือเข้าสู่การเมืองยุค ทีใครทีมัน ความแตกแยกในสังคมยิ่งจะทวีความรุนแรงขึ้น
ถ้าดูวิวัฒนาการของรัฐบาลนอมินี 3 ชุด ตั้งแต่สมัยนายสมัคร สุนทรเวช ตามด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนอมินียุคปัจจุบัน นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเห็นเงาของความก้าวร้าวมากขึ้นตามลำดับ แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สรุปบทเรียน ในยุคที่ถืออำนาจเบ็ดเสร็จโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีเสียงข้างมากพรรคเดียว 376 เสียง ถือทุกองคาพยพในอำนาจไว้กับมือก็ยังถูกโค่นล้มได้เพราะใช้อำนาจไม่เป็นธรรม
จริงๆ แล้วบรรดาแกนนำ นปช.ควรนึกถึงบทสัมภาษณ์ของนายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ อดีตประธาน นปช. ที่เคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่า “เสื้อแดงแม้จะมีจำนวนมาก ในระยะหนึ่งมีอำนาจสูงก็จริง แต่ถ้าไม่เข้าใจสถานภาพของตัวเองก็พังได้ เพราะการเมืองภาคประชาชนมันต้องรู้จุดยืนว่ายืนอยู่ที่ไหน เมื่อเสร็จเลือกตั้งเราต้องหวนกลับไปทำการเมืองภาคประชาชน ถ้าคลุกอยู่แต่ระบบรัฐสภา เรื่องนั้นก็จะยุ่ง”
ตนคิดว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่งมวลชนเสื้อแดงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ผลงาน ความชอบธรรมในการใช้อำนาจ และความสำเร็จในการบังคับใช้นโยบายต่างหาก แต่ตอนนี้รัฐบาลกำลังคิดว่าอำนาจคือความชอบธรรม ทำอะไรก็ได้ไม่สนใจความถูกต้อง และยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภา แต่ยังไม่ทันไรก็ฉีกหลักธรรมาภิบาลทิ้งด้วยตัวรัฐบาลเอง
สังคมการเมืองไทยตกอยู่ในวังวงของอาณาจักรแห่งความหวาดกลัวจากระบอบทักษิณมาร่วม 6 ปีแล้ว เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณและเครือข่ายได้โอกาสกลับสู่อำนาจอีกครั้งก็น่าจะคิดได้ แก้ไขในสิ่งที่เคยผิดพลาด เพราะไม่มีใครถืออำนาจไว้ตลอดชีวิตได้ ที่สำคัญชะตากรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ก็เป็นผลพวงจากการมัวเมาอำนาจจนใช้อำนาจผิดพลาดนั่นเอง
**ท่านอารี-ท่านเจ๋งยันไร้2มาตราฐาน
เวลา 8.30 น. นายอารี ไกรนรา เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย ต่อกระแสสังคมมองการแต่งตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามารับตำแหน่งข้าราชการการเมืองเป็นเรื่องต่างตอบแทนว่า ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเราอยู่กับสังคมหมู่มาก ซึ่งมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เราตั้งใจทำงานตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายเอาไว้ และก็ได้รับความไว้วางใจให้มาทำงานตรงนี้ จึงตั้งใจที่จะทำภารกิจนี้ให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือสิ่งใด นายอารี กล่าวว่า การแก้ปัญหาความยากจน การแก้ปัญหายาเสพติด โดยตนต้องทำงานภายใต้คำสั่งของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย แล้วจะบัญชาสั่งให้ทำงานในส่วนไหน ก็พร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง
ส่วนความเป็นคนเสื้อแดงจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะจะต้องไปดูแลประชาชนทุกกลุ่มทุกสี นายอารี กล่าวว่า คงไม่มี ถ้าเราคิดว่า เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วน ไม่ว่าสีใด ไม่เลือกสองมาตรฐาน เราก็จะอยู่ร่วมกันได้ในสังคมไทย
ส่วนที่หลายฝ่ายมองจะมีการนำเอาตำแหน่งจะนำไปช่วยในเรื่องคดีความที่กำลังคาราคาซังอยู่ในขณะนี้ นายอารี กล่าวว่า คงไม่มี กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องรับผิด คนเสื้อแดงจะไม่ไปใช้อภิสิทธิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องของคดีความ
ต่อข้อถามที่ว่า พรรคภูมิใจไทย ระบุการตั้งแกนนำคนเสื้อแดงมาเป็นเลขา-ที่ปรึกษา เป็นการลดต้นทุนของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องจ่ายเงินให้บรรดาแกนนำทั้งหมด นายอารี กล่าวว่า ไม่มี จะเห็นในการที่เราต่อสู้ร่วมกันมาไม่เคยได้ใช้งบประมาณ ทุกคนที่เข้ามาร่วมชุมนุม มาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมประชาธิปไตย ในเมื่อเราได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว เมื่อเราได้รัฐบาลใหม่ที่มาจาการเลือกตั้งที่มาจากประชาชนจริง ๆ ต้องปล่อยโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่มีฐานมวลชนแล้วจะนำมาสนับสนุนงานกระทรวงมหาดไทยได้มากน้อยแค่ไหน นายอารี กล่าวว่า วันนี้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกอย่าง ในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ประสบปัญหาแทบทุกด้าน คิดว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องทำงานหนักเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้กินดีอยู่ดี
เมื่อถามว่า มีการจับตามองมากเป็นพิเศษในการทำงาน กดดันมากน้อยแค่ไหน นายอารี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปกติความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป แต่อยู่ที่ตัวเราจะปฏิบัติตัวอย่างไร ส่วนตัวคิดว่ายึดเอาความถูกต้องเป็นหลักจะไม่มีสองมาตรฐาน กระทรวงมหาดไทยจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมจะไม่ให้มีการวิ่งเต้นให้มีเส้นมีสายเหมือนอย่างในอดีต ในยุคสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาที่เคยได้รับรู้รับทราบข่าวรับฟังมา
ต่อข้อถามที่ว่า จะมีการปรับเปลี่ยนข้าราชการตามนโยบายของรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายอารี กล่าวว่า ถ้ามองที่ผ่านมาทุกอย่างดีอยู่แล้ว เราต้องดูแลระบบนั้นให้เป็นไปตามครรลองครองธรรม ให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดคุณธรรม และความถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองนายยศวริศ ชูกล่อม จะทำงานได้หรือไม่หลายฝ่ายมองกระทรวงมหาดไทยโจ๊ก นายอารี กล่าวว่า ตนเชื่อในความสามารถของนาย เจ๋ง จะสามารถทำงานได้ดีมาก เท่าที่เคยร่วมงานกันมาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ดังนั้นเราอยากฝากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ตน และนายเจ๋งด้วย ขณะเดียวกันตนและพวกจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด
**ท่านตู่แนะสร้างปชต.ขยันพบมวลชน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเข้ามาแสดงความยินดีกับ นายอารี และนายยศวริศ ในการเข้ารับตำแหน่งวันแรก โดยนายจตุพร กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้บอกกับนายอารี และนายยศวริศ ว่าภารกิจที่สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย การเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งการเมือง ไม่ว่าเป็นที่ปรึกษา หรือเลขานุการ จะเป็นตำแหน่งอะไรก็ตาม จะเป็นตัวจักรที่สำคัญในการช่วยเรื่องความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดง ตำแหน่งเหล่านี้ ย่อมมีเวลาจำกัดต้องใช้เวลาที่มีให้ดีที่สุด ในส่วนภารกิจที่สำคัญได้บอกกับทุกคนว่า แม้จะมีตำแหน่งแล้ว ก็ควรต้องจัดเวลาไปพบกับประชาชน หากคนเสื้อแดงไม่มีความแข็งแรงรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน
“สองคนมีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี นายอารี เป็นอดีตข้าราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหงมายาวนาน เคยเป็นอาจารย์แนะแนว ที่ปรึกษาของรามคำแหงอย่างยาวนานที่สุด ดังนั้นเรื่องเกี่ยวข้องกับราชการไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ขณะที่นายยศวริศเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส. เคยได้ทำหน้าที่มากมาย ซึ่งสองคนคงรู้ในบทบาทของตัวเอง แม้จะดำรงตำแหน่งอะไร เราทุกคนถือเป็นคนเสื้อแดงคนหนึ่ง” นายจตุพร กล่าว
ส่วนกระแสข่าวรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะย้ายล้างบางข้าราชการขั้วอำนาจเก่าที่ถูกแต่งตั้งโดยพรรคภูมิใจไทยนั้นนายกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องที่ผิดใจกับข้าราชการ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะมองว่า การแข่งขันการเมืองเป็นเรื่องปกติ คนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เมื่อเจอกันก็พูดคุยกันได้
“เรื่องนี้ นายงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รวมถึงรมช.มหาดไทยเองต่างก็รู้ดีต้องทำอย่างไร นายยงยุทธเอง ก็เคยเป็นอดีตข้าราชการ เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงฯมาก่อน อย่างไรก็ตามทราบว่า มีข้าราชการที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ที่ไม่ได้ซื้อขายตำแหน่งมากมายในทุกกระทรวง ไม่ใช่แค่เฉพาะหน่วยงานใด ซึ่งควรจะเยียวยาให้กับคนที่ถูกละเลยเหล่านี้”
**"เสี่ยเต้น" เชื่อสังคมจะยอมรับเสื้อแดง
ช่วงบ่ายนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับนาย อารี และนายยศวริศ ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า การมอบตำแหน่งทางการเมืองให้คนเสื้อแดงเป็นการต่างตอบแทน ว่า หากจะมองเป็นเรื่องของการตอบแทน ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกตำแหน่งของพรรคการเมืองที่มีการขับเคลื่อนส่วนต่างๆ การเลือกบุคคลเหล่านี้เข้ามาทำงาน ถือว่ามีความเหมาะสมเพราะคนเสื้อแดงเป็นคนที่มีหัวจิตหัวใจยืนหยัดต่อสู้กับพรรคทั้งในช่วงที่มีอำนาจสูงสุดไปจนถึงช่วงที่ตกต่ำที่สุด
“หลายฝ่ายวิจารณ์ผู้ที่ได้รับตำแหน่งต้องรับฟัง การปฏิบัติหน้าที่ก็จะอยู่ในสายตาของสังคม ดังนั้นจะต้องใช้ความรู้พิสูจน์ให้สังคมเห็น และยอมรับให้ได้ ปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นเรื่องปกติ ผู้ที่มีตำแหน่งต้องใช้ศิลปะในการทำหน้าที่และรับผิดชอบ ผมเชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงมีจิตวิญญาณรับใช้ประชาชนรวมทั้งปกป้องระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่า สังคมจะให้การยอมรับ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
**“ธิดา”หนุนนปช. เดินยุทธศาสตร์ 2 ขา
นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. กล่าวถึงการรับตำแหน่งข้าราชการการเมืองของแกนนำ นปช. ว่า ถือเป็นสิทธิ เพราะคนเสื้อแดงก็มีคุณสมบัติ บางคนก็เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ 2 ขาของนปช. เรายินดีสนับสนุนทุกส่วนทั้งการทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นการทำเพื่อประชาชนและเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาโจมตีนั้น ก็เป็นมุมมองของคนที่คิดจะหาแต่ผลประโยชน์จึงคิดเช่นนั้น อย่างไรก็ตามภาระหน้าที่ของนปช. ในเรื่องการประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังและต้องคดีก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
** เย้ยโรงเรียนการเมืองปชป.เป็น “ลงรู”
ส่วนกรณีการเปิดโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขอเรียกว่าเป็น “ลงรู” เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เคยบอกว่าหากแพ้เลือกตั้งจะลงไปอยู่ในรู และขอให้นายสุเทพขุดไว้หลายๆรู เพราะต้องแพ้เลือกตั้งอีกหลายครั้ง อย่ามาเทียบกับโรงเรียนของ นปช. เพราะโรงเรียนนปช.จัดตั้งโดยประชาชน แต่โรงเรียนของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งขึ้นโดยอำมาตย์
ด้านนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. กล่าวว่า กรณีที่คนเสื้อแดงได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองนั้น ตำแหน่งที่ได้มาไม่ใช่ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ เท่ากับตำแหน่งของคนเสื้อแดง การรับตำแหน่งเป็นการเข้าไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่ทำงานให้เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น ขอยืนยันว่าตำแหน่งทางการเมืองไม่จีรังยั่งยืน แต่เป็นหัวโขนเท่านั้น แต่เราจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนไม่ใช่เข้าไปกอบโกยเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าเมื่อโจรปล้นสดมภ์ได้มาก็เอาสมบัติมาแบ่งกัน นั่นเป็นความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ของคนเสื้อแดง และพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยปล้นมาแล้วในค่ายทหาร ทั้งนี้หากประชาชนต้องการเข้าพบรัฐมนตรีแล้วเข้าไม่ถึงก็ให้มาพบตนได้ ตนพร้อมจะรับฟังทุกๆ คน ในส่วนของคนเสื้อแดงที่ไม่ได้ตำแหน่งอะไร ก็อย่าน้อยใจและให้มาขอกับตนได้ ตนไม่ยึดติด
**“ปู”ชี้รัฐบาลให้โอกาสกับทุกคน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่า รองโฆษกฯก็ได้แถลงแล้วไม่ใช่หรอคะว่าในแง่ของคุณสมบัติบางท่านก็มีคุณสมบัติที่มีประสบการณ์ ก็ขอให้มองในส่วนของภาพรวมเองเราก็ไม่ได้มีการแบ่งแยก เราเองก็อยากให้โอกาสทุกคน เมื่อถามว่าเป็นการตอบแทนหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่หรอกค่ะ เมื่อถามว่ามีแรงกระเพื่อมในพรรคแรงหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามและเดินเข้าห้องอาคารรัฐสภาทันที
**เผยส.ส.บ่นเซ็งเป็ด แดงกวาดเก้าอี้
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.ถึงกับเอ่ยคำพูดสั้นๆ ว่า “เซ็งเป็ด ไม่อยากพูดอะไร” ขณะบางคนมีท่าทีน้อยใจ และผิดหวัง โดยเฉพาะผู้สมัครส.ส.จากอีสานที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้บริหารพรรค
รายงานระบุว่า กระทรวงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะ จะมีการเสนอรายชื่อเข้าสู่ ครม.ในสัปดาห์หน้า โดยจะเสนอแต่งตั้ง นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษา รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกมล บันไดเพชร เป็นเลขานุการ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
**"ไพจิต"ปัดกกลุ่มอีสานน้อยใจตั้
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปฯรัฐบาล) กล่าวยอมรับว่าเป็นธรรมดาที่อดีตผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งสอบตกนั้นน้อยใจ แต่คงไม่เกิดคลื่นใต้น้ำหรือปัญหาภายในพรรค เพราะการแต่งบุคคลในตำแหน่งข้าราชการการเมืองเป็นเรื่องที่แกนนำพรรคอาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ ฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณา
“ที่ผ่านมาแกนนำพรรคไม่ได้นำเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเข้ามาหารือกับแกนนำภาคอีสานของพรรค ซึ่งตนเชื่อว่าคงพิจารณาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่คิดนะว่าคนเสื้อแดงจะมาแย่งตำแหน่งของนักการเมืองภาคอีสาน เพราะในพื้นที่ภาคอีสาน ก็เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งเป็นในเครือส.ส. เป็นลูกน้อง เป็นน้อง เป็นพี่ และที่สำคัญไม่คิดว่าเป็นปัญหา เพราะเชื่อว่าจะมีการประสานการทำงาน และเกิดเป็นพลังได้” นายไพจิต กล่าว
** "นาวิน"อ้อนขอโอกาสพิสูจน์ผลงาน
นายนาวิน บุญเศรษฐ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำ นปช.ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า คนเสื้อแดงที่ได้รับการแต่งตั้งส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางการเมืองหลายคน ลงสมัคร ส.ส.แล้วหลายคน เคยทำงานในกระทรวงที่ได้รับการแต่งตั้ง ไม่อยากให้วัดกันที่เสื้อสีไหน ควรมองการแบ่งแยกสีเสื้อให้น้อยลง เพราะรัฐบาลมีนโยบายปรองดองสมานฉันท์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าคนเสื้อแดงเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในอำนาจแล้ว คงระมัดระวังตัว ไม่นำอำนาจไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากถูกจับจ้องจากสังคมและสื่อมวลชน หากทำอะไรไม่ดีก็จะมีผลเสียต่อรัฐบาล ซึ่งคนเสื้อแดงต้องระวังเรื่องนี้ให้มาก
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับตำแหน่ง จะยึดแนวทางรัฐบาลที่จะแก้ไขไม่แก้แค้น และไม่ทำผิดทำนองคลองธรรม โดยขอโอกาสให้พิสูจน์ผลงานก่อน ถ้าหากทำได้ไม่ดี ทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว
**ปชป.สับ“แดง-เพื่อไทย”เป็นเนื้อเดียวกัน
นายชวนนท์ อินทรโกมาล์สุต ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เห็นว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้แต่อยากฝากถึงพรรคเพื่อไทยว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเนื้อเดียวกัน จึงขอให้ชัดเจนในแนวทางปฏิบัติเพราะแกนนำคนเสื้อแดงที่ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้งจนพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ และในคณะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีแกนนำคนเสื้อแดงอยู่ด้วย จึงกลายเป็นกลุ่มคนพลัดหลงอำนาจแต่แรก มาวันนี้จึงต้องเอาเข้าสู่อำนาจ โดยมาเป้นข้าราชการการเมือง โดยทำงานร่วมกับข้าราชการประจำ เพียงแต่กังวลกรณีมวลชนคนเสื้อแดงที่ได้กดดันสถาบันต่างๆ หรือการใช้กำลังทำร้าย 2 นักศึกษาที่หน้าอาคารรัฐสภา แต่กับพฤติกรรมของคนเสื้อแดงเองที่ไปวางพวงหรีดกดดันสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อให้เอาผู้สื่อข่าวออกสามารถทำได้ โดยการอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิ จึงขอให้คนเสื้อแดงรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างในสังคมประชาธิปไตย โดยไม่ใช่กำลังเข้าแ ก้ไขปัญหา
**ผบ.ทบ.ปัดให้ความเห็น ไม่เกี่ยวทหาร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่เรื่องของทหารเป็นเรื่องของการเมืองที่แต่งตั้ง เขามีอำนาจแต่งตั้งก็แต่งตั้งไป ส่วนข้อกังวลที่จะทำงานประสานงานกันได้หรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบว่าจะต้องทำงานร่วมกันตรงจุดใด เพราะท่านเป็นที่ปรึกษาของแต่ละกระทรวง เราเป็นกระทรวงกลาโหมตนจึงทำงานในกรอบของกองทัพไทย และของกระทรวงกลาโหม
**อภิวันท์ยันตจากความสามารถล้วนๆ
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นการแต่งตั้งโดยพิจารณาจากความรู้ความสามารถ โดยอยากให้โอกาสบุคคลเหล่านี้ได้พิสูจน์การทำงานก่อน และมองกลับว่าการตั้งบุคคลเหล่านี้น่าจะมีส่วนช่วยให้กระบวนการสร้างความปรองดองเกิดได้ง่ายขึ้น เพราะดูจากตนเองที่ยอมเสียสละไม่รับตำแหน่งตั้งแต่แรก
"เท่าที่ทราบ ก็จัดตามความสามารรถและพิจารณาตามความรู้ ซึ่งการจัดตั้งน่าจะมีส่วนช่วยทำให้การปรองดองง่ายขึ้น โดยดูจากการที่ผมได้เสียสละไปแล้ว ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดองและอยากให้โอกาสทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
การจัดตำแหน่งครั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นการมอบตำแหน่งให้ผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
**ภท.ไม่ติดใจ ย้ำต้องไม่กระทบคดี
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลต้องตอบแทนคนที่ร่วมต่อสู้จนชนะการเลือกตั้ง ส่วนตัวไม่ติดใจ แต่ต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถ รวมทั้งความเหมาะสมด้วย ดูคนให้ตรงกับงาน ไม่อยากให้การแต่งตั้งเป็นการแก้ปัญหาภายในพรรคเพื่อไทย เพื่อลดความตึงเครียดภายในพรรค นอกจากนี้ แกนนำ นปช.หลายคนที่มาดำรงตำแหน่งยังมีคดีร้ายแรงติดตัว จึงเป็นห่วงว่าอาจกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นห่วงว่าจะมีการใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือในทางคดี จึงอยากฝากรัฐบาลให้ใช้อำนาจไปตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนการตั้งแกนนำ นปช.มาดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายนายกรัฐมนตรี ว่ามีความเป็นอิสระในการบริหารบ้านเมืองหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูตำแหน่งทางการเมืองที่มีการตั้งขึ้นมาหลายคน ไม่รู้นายกรัฐมนตรีรู้จักหรือไม่ และเป็นการแต่งตั้งสรรหามาจากส่วนไหน.
ถ้าดูวิวัฒนาการของรัฐบาลนอมินี 3 ชุด ตั้งแต่สมัยนายสมัคร สุนทรเวช ตามด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนอมินียุคปัจจุบัน นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเห็นเงาของความก้าวร้าวมากขึ้นตามลำดับ แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สรุปบทเรียน ในยุคที่ถืออำนาจเบ็ดเสร็จโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีเสียงข้างมากพรรคเดียว 376 เสียง ถือทุกองคาพยพในอำนาจไว้กับมือก็ยังถูกโค่นล้มได้เพราะใช้อำนาจไม่เป็นธรรม
จริงๆ แล้วบรรดาแกนนำ นปช.ควรนึกถึงบทสัมภาษณ์ของนายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ อดีตประธาน นปช. ที่เคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่า “เสื้อแดงแม้จะมีจำนวนมาก ในระยะหนึ่งมีอำนาจสูงก็จริง แต่ถ้าไม่เข้าใจสถานภาพของตัวเองก็พังได้ เพราะการเมืองภาคประชาชนมันต้องรู้จุดยืนว่ายืนอยู่ที่ไหน เมื่อเสร็จเลือกตั้งเราต้องหวนกลับไปทำการเมืองภาคประชาชน ถ้าคลุกอยู่แต่ระบบรัฐสภา เรื่องนั้นก็จะยุ่ง”
ตนคิดว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่งมวลชนเสื้อแดงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ผลงาน ความชอบธรรมในการใช้อำนาจ และความสำเร็จในการบังคับใช้นโยบายต่างหาก แต่ตอนนี้รัฐบาลกำลังคิดว่าอำนาจคือความชอบธรรม ทำอะไรก็ได้ไม่สนใจความถูกต้อง และยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภา แต่ยังไม่ทันไรก็ฉีกหลักธรรมาภิบาลทิ้งด้วยตัวรัฐบาลเอง
สังคมการเมืองไทยตกอยู่ในวังวงของอาณาจักรแห่งความหวาดกลัวจากระบอบทักษิณมาร่วม 6 ปีแล้ว เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณและเครือข่ายได้โอกาสกลับสู่อำนาจอีกครั้งก็น่าจะคิดได้ แก้ไขในสิ่งที่เคยผิดพลาด เพราะไม่มีใครถืออำนาจไว้ตลอดชีวิตได้ ที่สำคัญชะตากรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ก็เป็นผลพวงจากการมัวเมาอำนาจจนใช้อำนาจผิดพลาดนั่นเอง
**ท่านอารี-ท่านเจ๋งยันไร้2มาตราฐาน
เวลา 8.30 น. นายอารี ไกรนรา เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย ต่อกระแสสังคมมองการแต่งตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามารับตำแหน่งข้าราชการการเมืองเป็นเรื่องต่างตอบแทนว่า ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเราอยู่กับสังคมหมู่มาก ซึ่งมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เราตั้งใจทำงานตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายเอาไว้ และก็ได้รับความไว้วางใจให้มาทำงานตรงนี้ จึงตั้งใจที่จะทำภารกิจนี้ให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือสิ่งใด นายอารี กล่าวว่า การแก้ปัญหาความยากจน การแก้ปัญหายาเสพติด โดยตนต้องทำงานภายใต้คำสั่งของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย แล้วจะบัญชาสั่งให้ทำงานในส่วนไหน ก็พร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง
ส่วนความเป็นคนเสื้อแดงจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะจะต้องไปดูแลประชาชนทุกกลุ่มทุกสี นายอารี กล่าวว่า คงไม่มี ถ้าเราคิดว่า เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วน ไม่ว่าสีใด ไม่เลือกสองมาตรฐาน เราก็จะอยู่ร่วมกันได้ในสังคมไทย
ส่วนที่หลายฝ่ายมองจะมีการนำเอาตำแหน่งจะนำไปช่วยในเรื่องคดีความที่กำลังคาราคาซังอยู่ในขณะนี้ นายอารี กล่าวว่า คงไม่มี กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องรับผิด คนเสื้อแดงจะไม่ไปใช้อภิสิทธิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องของคดีความ
ต่อข้อถามที่ว่า พรรคภูมิใจไทย ระบุการตั้งแกนนำคนเสื้อแดงมาเป็นเลขา-ที่ปรึกษา เป็นการลดต้นทุนของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องจ่ายเงินให้บรรดาแกนนำทั้งหมด นายอารี กล่าวว่า ไม่มี จะเห็นในการที่เราต่อสู้ร่วมกันมาไม่เคยได้ใช้งบประมาณ ทุกคนที่เข้ามาร่วมชุมนุม มาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมประชาธิปไตย ในเมื่อเราได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว เมื่อเราได้รัฐบาลใหม่ที่มาจาการเลือกตั้งที่มาจากประชาชนจริง ๆ ต้องปล่อยโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่มีฐานมวลชนแล้วจะนำมาสนับสนุนงานกระทรวงมหาดไทยได้มากน้อยแค่ไหน นายอารี กล่าวว่า วันนี้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกอย่าง ในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ประสบปัญหาแทบทุกด้าน คิดว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องทำงานหนักเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้กินดีอยู่ดี
เมื่อถามว่า มีการจับตามองมากเป็นพิเศษในการทำงาน กดดันมากน้อยแค่ไหน นายอารี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปกติความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป แต่อยู่ที่ตัวเราจะปฏิบัติตัวอย่างไร ส่วนตัวคิดว่ายึดเอาความถูกต้องเป็นหลักจะไม่มีสองมาตรฐาน กระทรวงมหาดไทยจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมจะไม่ให้มีการวิ่งเต้นให้มีเส้นมีสายเหมือนอย่างในอดีต ในยุคสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาที่เคยได้รับรู้รับทราบข่าวรับฟังมา
ต่อข้อถามที่ว่า จะมีการปรับเปลี่ยนข้าราชการตามนโยบายของรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายอารี กล่าวว่า ถ้ามองที่ผ่านมาทุกอย่างดีอยู่แล้ว เราต้องดูแลระบบนั้นให้เป็นไปตามครรลองครองธรรม ให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดคุณธรรม และความถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองนายยศวริศ ชูกล่อม จะทำงานได้หรือไม่หลายฝ่ายมองกระทรวงมหาดไทยโจ๊ก นายอารี กล่าวว่า ตนเชื่อในความสามารถของนาย เจ๋ง จะสามารถทำงานได้ดีมาก เท่าที่เคยร่วมงานกันมาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ดังนั้นเราอยากฝากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ตน และนายเจ๋งด้วย ขณะเดียวกันตนและพวกจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด
**ท่านตู่แนะสร้างปชต.ขยันพบมวลชน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเข้ามาแสดงความยินดีกับ นายอารี และนายยศวริศ ในการเข้ารับตำแหน่งวันแรก โดยนายจตุพร กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้บอกกับนายอารี และนายยศวริศ ว่าภารกิจที่สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย การเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งการเมือง ไม่ว่าเป็นที่ปรึกษา หรือเลขานุการ จะเป็นตำแหน่งอะไรก็ตาม จะเป็นตัวจักรที่สำคัญในการช่วยเรื่องความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดง ตำแหน่งเหล่านี้ ย่อมมีเวลาจำกัดต้องใช้เวลาที่มีให้ดีที่สุด ในส่วนภารกิจที่สำคัญได้บอกกับทุกคนว่า แม้จะมีตำแหน่งแล้ว ก็ควรต้องจัดเวลาไปพบกับประชาชน หากคนเสื้อแดงไม่มีความแข็งแรงรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน
“สองคนมีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี นายอารี เป็นอดีตข้าราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหงมายาวนาน เคยเป็นอาจารย์แนะแนว ที่ปรึกษาของรามคำแหงอย่างยาวนานที่สุด ดังนั้นเรื่องเกี่ยวข้องกับราชการไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ขณะที่นายยศวริศเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส. เคยได้ทำหน้าที่มากมาย ซึ่งสองคนคงรู้ในบทบาทของตัวเอง แม้จะดำรงตำแหน่งอะไร เราทุกคนถือเป็นคนเสื้อแดงคนหนึ่ง” นายจตุพร กล่าว
ส่วนกระแสข่าวรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะย้ายล้างบางข้าราชการขั้วอำนาจเก่าที่ถูกแต่งตั้งโดยพรรคภูมิใจไทยนั้นนายกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องที่ผิดใจกับข้าราชการ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะมองว่า การแข่งขันการเมืองเป็นเรื่องปกติ คนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เมื่อเจอกันก็พูดคุยกันได้
“เรื่องนี้ นายงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รวมถึงรมช.มหาดไทยเองต่างก็รู้ดีต้องทำอย่างไร นายยงยุทธเอง ก็เคยเป็นอดีตข้าราชการ เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงฯมาก่อน อย่างไรก็ตามทราบว่า มีข้าราชการที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ที่ไม่ได้ซื้อขายตำแหน่งมากมายในทุกกระทรวง ไม่ใช่แค่เฉพาะหน่วยงานใด ซึ่งควรจะเยียวยาให้กับคนที่ถูกละเลยเหล่านี้”
**"เสี่ยเต้น" เชื่อสังคมจะยอมรับเสื้อแดง
ช่วงบ่ายนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับนาย อารี และนายยศวริศ ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า การมอบตำแหน่งทางการเมืองให้คนเสื้อแดงเป็นการต่างตอบแทน ว่า หากจะมองเป็นเรื่องของการตอบแทน ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกตำแหน่งของพรรคการเมืองที่มีการขับเคลื่อนส่วนต่างๆ การเลือกบุคคลเหล่านี้เข้ามาทำงาน ถือว่ามีความเหมาะสมเพราะคนเสื้อแดงเป็นคนที่มีหัวจิตหัวใจยืนหยัดต่อสู้กับพรรคทั้งในช่วงที่มีอำนาจสูงสุดไปจนถึงช่วงที่ตกต่ำที่สุด
“หลายฝ่ายวิจารณ์ผู้ที่ได้รับตำแหน่งต้องรับฟัง การปฏิบัติหน้าที่ก็จะอยู่ในสายตาของสังคม ดังนั้นจะต้องใช้ความรู้พิสูจน์ให้สังคมเห็น และยอมรับให้ได้ ปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นเรื่องปกติ ผู้ที่มีตำแหน่งต้องใช้ศิลปะในการทำหน้าที่และรับผิดชอบ ผมเชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงมีจิตวิญญาณรับใช้ประชาชนรวมทั้งปกป้องระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่า สังคมจะให้การยอมรับ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
**“ธิดา”หนุนนปช. เดินยุทธศาสตร์ 2 ขา
นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. กล่าวถึงการรับตำแหน่งข้าราชการการเมืองของแกนนำ นปช. ว่า ถือเป็นสิทธิ เพราะคนเสื้อแดงก็มีคุณสมบัติ บางคนก็เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ 2 ขาของนปช. เรายินดีสนับสนุนทุกส่วนทั้งการทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นการทำเพื่อประชาชนและเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาโจมตีนั้น ก็เป็นมุมมองของคนที่คิดจะหาแต่ผลประโยชน์จึงคิดเช่นนั้น อย่างไรก็ตามภาระหน้าที่ของนปช. ในเรื่องการประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังและต้องคดีก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
** เย้ยโรงเรียนการเมืองปชป.เป็น “ลงรู”
ส่วนกรณีการเปิดโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขอเรียกว่าเป็น “ลงรู” เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เคยบอกว่าหากแพ้เลือกตั้งจะลงไปอยู่ในรู และขอให้นายสุเทพขุดไว้หลายๆรู เพราะต้องแพ้เลือกตั้งอีกหลายครั้ง อย่ามาเทียบกับโรงเรียนของ นปช. เพราะโรงเรียนนปช.จัดตั้งโดยประชาชน แต่โรงเรียนของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งขึ้นโดยอำมาตย์
ด้านนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. กล่าวว่า กรณีที่คนเสื้อแดงได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองนั้น ตำแหน่งที่ได้มาไม่ใช่ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ เท่ากับตำแหน่งของคนเสื้อแดง การรับตำแหน่งเป็นการเข้าไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่ทำงานให้เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น ขอยืนยันว่าตำแหน่งทางการเมืองไม่จีรังยั่งยืน แต่เป็นหัวโขนเท่านั้น แต่เราจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนไม่ใช่เข้าไปกอบโกยเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าเมื่อโจรปล้นสดมภ์ได้มาก็เอาสมบัติมาแบ่งกัน นั่นเป็นความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ของคนเสื้อแดง และพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยปล้นมาแล้วในค่ายทหาร ทั้งนี้หากประชาชนต้องการเข้าพบรัฐมนตรีแล้วเข้าไม่ถึงก็ให้มาพบตนได้ ตนพร้อมจะรับฟังทุกๆ คน ในส่วนของคนเสื้อแดงที่ไม่ได้ตำแหน่งอะไร ก็อย่าน้อยใจและให้มาขอกับตนได้ ตนไม่ยึดติด
**“ปู”ชี้รัฐบาลให้โอกาสกับทุกคน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่า รองโฆษกฯก็ได้แถลงแล้วไม่ใช่หรอคะว่าในแง่ของคุณสมบัติบางท่านก็มีคุณสมบัติที่มีประสบการณ์ ก็ขอให้มองในส่วนของภาพรวมเองเราก็ไม่ได้มีการแบ่งแยก เราเองก็อยากให้โอกาสทุกคน เมื่อถามว่าเป็นการตอบแทนหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่หรอกค่ะ เมื่อถามว่ามีแรงกระเพื่อมในพรรคแรงหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามและเดินเข้าห้องอาคารรัฐสภาทันที
**เผยส.ส.บ่นเซ็งเป็ด แดงกวาดเก้าอี้
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.ถึงกับเอ่ยคำพูดสั้นๆ ว่า “เซ็งเป็ด ไม่อยากพูดอะไร” ขณะบางคนมีท่าทีน้อยใจ และผิดหวัง โดยเฉพาะผู้สมัครส.ส.จากอีสานที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้บริหารพรรค
รายงานระบุว่า กระทรวงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะ จะมีการเสนอรายชื่อเข้าสู่ ครม.ในสัปดาห์หน้า โดยจะเสนอแต่งตั้ง นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษา รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกมล บันไดเพชร เป็นเลขานุการ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
**"ไพจิต"ปัดกกลุ่มอีสานน้อยใจตั้
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปฯรัฐบาล) กล่าวยอมรับว่าเป็นธรรมดาที่อดีตผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งสอบตกนั้นน้อยใจ แต่คงไม่เกิดคลื่นใต้น้ำหรือปัญหาภายในพรรค เพราะการแต่งบุคคลในตำแหน่งข้าราชการการเมืองเป็นเรื่องที่แกนนำพรรคอาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ ฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณา
“ที่ผ่านมาแกนนำพรรคไม่ได้นำเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเข้ามาหารือกับแกนนำภาคอีสานของพรรค ซึ่งตนเชื่อว่าคงพิจารณาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่คิดนะว่าคนเสื้อแดงจะมาแย่งตำแหน่งของนักการเมืองภาคอีสาน เพราะในพื้นที่ภาคอีสาน ก็เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งเป็นในเครือส.ส. เป็นลูกน้อง เป็นน้อง เป็นพี่ และที่สำคัญไม่คิดว่าเป็นปัญหา เพราะเชื่อว่าจะมีการประสานการทำงาน และเกิดเป็นพลังได้” นายไพจิต กล่าว
** "นาวิน"อ้อนขอโอกาสพิสูจน์ผลงาน
นายนาวิน บุญเศรษฐ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำ นปช.ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า คนเสื้อแดงที่ได้รับการแต่งตั้งส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางการเมืองหลายคน ลงสมัคร ส.ส.แล้วหลายคน เคยทำงานในกระทรวงที่ได้รับการแต่งตั้ง ไม่อยากให้วัดกันที่เสื้อสีไหน ควรมองการแบ่งแยกสีเสื้อให้น้อยลง เพราะรัฐบาลมีนโยบายปรองดองสมานฉันท์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าคนเสื้อแดงเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในอำนาจแล้ว คงระมัดระวังตัว ไม่นำอำนาจไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากถูกจับจ้องจากสังคมและสื่อมวลชน หากทำอะไรไม่ดีก็จะมีผลเสียต่อรัฐบาล ซึ่งคนเสื้อแดงต้องระวังเรื่องนี้ให้มาก
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับตำแหน่ง จะยึดแนวทางรัฐบาลที่จะแก้ไขไม่แก้แค้น และไม่ทำผิดทำนองคลองธรรม โดยขอโอกาสให้พิสูจน์ผลงานก่อน ถ้าหากทำได้ไม่ดี ทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว
**ปชป.สับ“แดง-เพื่อไทย”เป็นเนื้อเดียวกัน
นายชวนนท์ อินทรโกมาล์สุต ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เห็นว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้แต่อยากฝากถึงพรรคเพื่อไทยว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเนื้อเดียวกัน จึงขอให้ชัดเจนในแนวทางปฏิบัติเพราะแกนนำคนเสื้อแดงที่ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้งจนพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ และในคณะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีแกนนำคนเสื้อแดงอยู่ด้วย จึงกลายเป็นกลุ่มคนพลัดหลงอำนาจแต่แรก มาวันนี้จึงต้องเอาเข้าสู่อำนาจ โดยมาเป้นข้าราชการการเมือง โดยทำงานร่วมกับข้าราชการประจำ เพียงแต่กังวลกรณีมวลชนคนเสื้อแดงที่ได้กดดันสถาบันต่างๆ หรือการใช้กำลังทำร้าย 2 นักศึกษาที่หน้าอาคารรัฐสภา แต่กับพฤติกรรมของคนเสื้อแดงเองที่ไปวางพวงหรีดกดดันสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อให้เอาผู้สื่อข่าวออกสามารถทำได้ โดยการอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิ จึงขอให้คนเสื้อแดงรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างในสังคมประชาธิปไตย โดยไม่ใช่กำลังเข้าแ ก้ไขปัญหา
**ผบ.ทบ.ปัดให้ความเห็น ไม่เกี่ยวทหาร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่เรื่องของทหารเป็นเรื่องของการเมืองที่แต่งตั้ง เขามีอำนาจแต่งตั้งก็แต่งตั้งไป ส่วนข้อกังวลที่จะทำงานประสานงานกันได้หรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบว่าจะต้องทำงานร่วมกันตรงจุดใด เพราะท่านเป็นที่ปรึกษาของแต่ละกระทรวง เราเป็นกระทรวงกลาโหมตนจึงทำงานในกรอบของกองทัพไทย และของกระทรวงกลาโหม
**อภิวันท์ยันตจากความสามารถล้วนๆ
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นการแต่งตั้งโดยพิจารณาจากความรู้ความสามารถ โดยอยากให้โอกาสบุคคลเหล่านี้ได้พิสูจน์การทำงานก่อน และมองกลับว่าการตั้งบุคคลเหล่านี้น่าจะมีส่วนช่วยให้กระบวนการสร้างความปรองดองเกิดได้ง่ายขึ้น เพราะดูจากตนเองที่ยอมเสียสละไม่รับตำแหน่งตั้งแต่แรก
"เท่าที่ทราบ ก็จัดตามความสามารรถและพิจารณาตามความรู้ ซึ่งการจัดตั้งน่าจะมีส่วนช่วยทำให้การปรองดองง่ายขึ้น โดยดูจากการที่ผมได้เสียสละไปแล้ว ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดองและอยากให้โอกาสทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
การจัดตำแหน่งครั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นการมอบตำแหน่งให้ผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
**ภท.ไม่ติดใจ ย้ำต้องไม่กระทบคดี
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลต้องตอบแทนคนที่ร่วมต่อสู้จนชนะการเลือกตั้ง ส่วนตัวไม่ติดใจ แต่ต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถ รวมทั้งความเหมาะสมด้วย ดูคนให้ตรงกับงาน ไม่อยากให้การแต่งตั้งเป็นการแก้ปัญหาภายในพรรคเพื่อไทย เพื่อลดความตึงเครียดภายในพรรค นอกจากนี้ แกนนำ นปช.หลายคนที่มาดำรงตำแหน่งยังมีคดีร้ายแรงติดตัว จึงเป็นห่วงว่าอาจกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นห่วงว่าจะมีการใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือในทางคดี จึงอยากฝากรัฐบาลให้ใช้อำนาจไปตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนการตั้งแกนนำ นปช.มาดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายนายกรัฐมนตรี ว่ามีความเป็นอิสระในการบริหารบ้านเมืองหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูตำแหน่งทางการเมืองที่มีการตั้งขึ้นมาหลายคน ไม่รู้นายกรัฐมนตรีรู้จักหรือไม่ และเป็นการแต่งตั้งสรรหามาจากส่วนไหน.