“ไอ้ตู่” โร่พบ “อารี-เจ๋ง ดอกจิก” สั่งใช้ตำแหน่งช่วยแก๊งแดง และทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้มแข็งเพื่อเป็นฐานหนุนรัฐบาลให้อยู่ได้ อ้างมีขบวนการจ้องล้ม เมินข้อเสนอให้ “นช.แม้ว” กลับมารับโทษแล้วนิรโทษฯ บอกกระบวนการยุติธรรมยังไม่เสมอภาค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (31 ส.ค.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เดินทางมาแสดงความยินดีแก่นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดกลุ่มเสื้อแดง ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อดีตตลกคาเฟ่ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย ที่เดินทางเข้าทำงานในกระทรวงมหาดไทยเป็นวันแรก
นายจตุพรให้สัมภาษณ์ว่า ได้บอกกับนายอารี และนายยศวริศว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น การเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งการเมืองไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา เลขานุการ หรือตำแหน่งอะไรก็ตาม จะเป็นตัวจักรที่สำคัญในการช่วยเรื่องความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดง
“เมื่ออยู่ในตำแหน่งเหล่านี้ย่อมมีเวลาจำกัด เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาที่มีให้ดีที่สุด ส่วนภารกิจที่สำคัญผมได้บอกกับทุกคนว่า แม้จะมีตำแหน่งแต่ก็ต้องจัดเวลาไปพบประชาชน เพราะหากคนเสื้อแดงไม่มีความแข็งแรง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน”
ส่วนความเหมาะสมของบทบาทเลขานุการ หรือที่ปรึกษาของนายอารี และนายยศวริศนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ทั้งสองคนมีคุณสมบัติ และมีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี อย่างนายอารีนั้น ก็เป็นอดีตข้าราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหงมายาวนาน โดยเคยเป็นทั้งอาจารย์แนะแนว และอาจารย์ที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะฉะนั้นเรื่องเกี่ยวข้องกับราชการนั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ส่วนนายยศวริศเองก็เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส. และเคยได้ทำหน้าที่มากมาย ซึ่งทั้งสองคนก็คงรู้ในบทบาทของตัวเอง และแม้จะดำรงตำแหน่งอะไรก็แล้วแต่ แต่เราทุกคนก็ถือเป็นคนเสื้อแดงคนนึง
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะย้ายล้างบางข้าราชการขั้วอำนาจเก่าที่ถูกแต่งตั้งโดยพรรคภูมิใจไทยนั้น นายจตุพรกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องที่ผิดใจกับข้าราชการ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะมองว่าการแข่งขันการเมืองก็เป็นเรื่องปกติ คนที่เป็นปฏิปักษ์กันนั้นเมื่อเจอกันก็พูดคุยกันได้ ซึ่งในเรื่องนี้นายงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รวมถึง รมช.มหาดไทยเองก็รู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เพราะนายยงยุทธเองก็เคยเป็นอดีตข้าราชการ และเคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ทราบว่ามีข้าราชการที่ไม่ได้รับความยุติธรรมที่ไม่ได้ซื้อขายตำแหน่งมากมายในทุกกระทรวง ไม่ใช่เฉพาะที่หน่วยงานใด ซึ่งก็ควรจะเยียวยาให้คนที่ถูกละเลยเหล่านี้
นายจตุพรยังอ้าวว่า ขณะนี้เริ่มมีขบวนการที่จ้องจะล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยแล้ว โดยมีการปรามาสจากคนบางกลุ่มว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้จะเริ่มขยับ เพราะฉะนั้น การได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในบทบาทของข้าราชการการเมืองก็จะมีโอกาสที่จะช่วยเป็นตัวจักรในการเชื่อมประสานระหว่างประชาชนกับ รมว.และรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่ได้ต่อไป
ส่วนอนาคตของคนเสื้อแดง หลังจากแกนนำไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น นายจตุพร กล่าวว่ากิจกรรมของคนเสื้อแดงในเชิงสร้างสรรค์ และเป็นประชาธิปไตยไม่ถือเป็นอุปสรรคกับรัฐบาล เพราะตอนนี้แม้พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นมากมาย และทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องดำรงอยู่ต่อไป
ส่วนที่นายชัย ชิดชอบ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ออกมาเสนอแนะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศเพื่อรับโทษ และให้คนเสื้อแดงขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการทุกอย่างยังไม่เสมอภาคพอที่จะเดินหน้าต่อ สังเกตได้จากคดีของประชาชนที่ถูกปราบปรามนั้น ดีเอสไอทำคดีแล้วเสร็จเพียง 13 คดี จาก 91 คดี และยังคงอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ ยังไม่ได้ส่งต่อไปยังศาลอาญา ตรงกันข้ามคดีของกลุ่มแกนนำที่ขณะนี้มีการพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งทำให้พวกตนถูกดำเนินคดีกันหมดแล้ว ซึ่งทำให้เห็นว่าพื้นฐานของสังคมไทยยังไม่เท่าเทียมกันพอ
“นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เสนอให้มีการพิจารณาลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงตามข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้ฝ่ายปราบปรามประชาชนยังคงไม่ได้รับชะตากรรมเท่ากับฝ่ายที่ถูกปราบปราม เพราะฉะนั้น อารมณ์และความรู้สึกที่จะปรองดองก็จะเกิดขึ้นยาก หากจะปรองดองกันจริง ทุกฝ่ายต้องมีอารมณ์ร่วมกัน ผู้ฆ่า และผู้ถูกฆ่าต้องถูกดำเนินคดีภายใต้พื้นฐานเดียวกันเสียก่อน”
