“โฆษกแดง” กางปีกป้องแก๊งไพร่ได้ขึ้นชั้นอำมาตย์ รบ.ปูจ๋า เล่นลิ้นอย่าถามเสื้อแดงจะกลายเป็นพวกตกยุค ชูหางถือเป็นบำเหน็จนำพาพรรคชนะขาดคู่แข่ง ร่ายยาวคุณสมบัติครบถ้วนทุกคน ยก “อารี” ลูกหม้อคลองหลอด ส่วน “ชินวัฒน์” มาดูงานทุกข์สุขแท็กซี่ อวด “เจ๋ง ดอกจิก” เคยเป็นนายกฯ ตลกมาก่อน ส่วนคดีสถาบันยังไม่ตัดสินถือเป็นผู้บริสุทธิ์
วันนี้ (30 ส.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังแถลงข่าวถึงการแต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่งว่า ตนเชื่อว่าข้อถามที่ว่าใครเป็นคนเสื้อสีอะไร แดงหรือเหลืองนั้นอีกไม่นานจะเป็นคำถามที่ล้าสมัย เหมือนอย่างในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศกัมพูชา จะถามว่าคุณเป็นฝ่ายเขมรแดงหรือไม่ หรือไปถามคนเวียดนาม ว่าเป็นฝ่ายเวียดนามเหนือ หรือเวียดนามใต้นั้น ก็กลายเป็นคำถามที่ตกยุคไปแล้ว ที่สำคัญการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนไม่น้อย และได้มาเป็นรัฐบาล การจะไปเชิญกลุ่มการเมืองอื่น หรือคนของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นข้าราชการการเมืองในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามานี้ถือเป็นคนที่มีแต้ม และเป็นคนทำแต้มให้กับพรรคเพื่อไทย
นายอนุสรณ์ยังได้กล่าวถึงคุณสมบัติของบุคคลระดับแกนนำคนเสื้อแดงที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นข้าราชการการเมืองด้วยว่า ยกตัวอย่างนายอารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ดแกนนำคนเสื้อแดงที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย ก็เป็นผู้ที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ถึง 4 ครั้ง เคยรับราชการที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมไปถึงเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย จึงถือเป็นลูกหม้อของกระทรวงมหาดไทย ส่วนนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ถูกตั้งเป็นที่ปรึกษา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ผ่านการต่อสู้มาอย่างยาวนาน และก็เป็นธรรมดาของนักรบที่ต้องมีบาดแผล และที่ผ่านมานายเพชรวรรตก็เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงาน ภาค 5 รวมทั้งมีบทบาทการเคลื่อนไหวร่วมกับภาคประชาชนมาอย่างยาวนาน
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำ นปช.ที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ก็ถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เพราะก่อนหน้านั้นเป็นประธานสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาฯ รมช.มหาดไทย (นายฐานิสร์ เทียนทอง) ก็มีการศึกษาระดับจบปริญญาโท เคยลงสมัคร ส.ส. และเมื่อครั้งเป็นตลกก็ยังได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ มาอีกด้วย สำหรับประเด็นที่นายยศวริศเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันนั้น ตนมองว่าคดียังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และต้องให้กระบวนการเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อยังไม่มีคำพิพากษาออกมาต้องถือว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
“การแต่งตั้งบุคคลที่สังคมตั้งข้อสังเกตนั้นถือว่าเป็นจุดแข็งของรัฐบาล และที่สำคัญบุคคลดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการยึดโยงกับประชาชน เพื่อให้บุคคลต่างๆนั้นช่วยดูแล ยกตัวอย่างหากในอนาคต นายชินวัฒน์ไม่ได้ช่วยดูความเดือดร้อนของผู้ขับแท็กซี่ พวกเขาจะโดนสังคมปลุกมวลชนขึ้นมาเรียกร้อง อีกทั้งผมมองว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกตั้งเป็นข้าราชการการเมืองนั้นถือว่าเป็นคนมีแต้มและเติมเต็มคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยได้” นายอนุสรณ์กล่าว
วันนี้ (30 ส.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังแถลงข่าวถึงการแต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่งว่า ตนเชื่อว่าข้อถามที่ว่าใครเป็นคนเสื้อสีอะไร แดงหรือเหลืองนั้นอีกไม่นานจะเป็นคำถามที่ล้าสมัย เหมือนอย่างในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศกัมพูชา จะถามว่าคุณเป็นฝ่ายเขมรแดงหรือไม่ หรือไปถามคนเวียดนาม ว่าเป็นฝ่ายเวียดนามเหนือ หรือเวียดนามใต้นั้น ก็กลายเป็นคำถามที่ตกยุคไปแล้ว ที่สำคัญการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนไม่น้อย และได้มาเป็นรัฐบาล การจะไปเชิญกลุ่มการเมืองอื่น หรือคนของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นข้าราชการการเมืองในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามานี้ถือเป็นคนที่มีแต้ม และเป็นคนทำแต้มให้กับพรรคเพื่อไทย
นายอนุสรณ์ยังได้กล่าวถึงคุณสมบัติของบุคคลระดับแกนนำคนเสื้อแดงที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นข้าราชการการเมืองด้วยว่า ยกตัวอย่างนายอารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ดแกนนำคนเสื้อแดงที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย ก็เป็นผู้ที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ถึง 4 ครั้ง เคยรับราชการที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมไปถึงเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย จึงถือเป็นลูกหม้อของกระทรวงมหาดไทย ส่วนนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ถูกตั้งเป็นที่ปรึกษา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ผ่านการต่อสู้มาอย่างยาวนาน และก็เป็นธรรมดาของนักรบที่ต้องมีบาดแผล และที่ผ่านมานายเพชรวรรตก็เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงาน ภาค 5 รวมทั้งมีบทบาทการเคลื่อนไหวร่วมกับภาคประชาชนมาอย่างยาวนาน
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำ นปช.ที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ก็ถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เพราะก่อนหน้านั้นเป็นประธานสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาฯ รมช.มหาดไทย (นายฐานิสร์ เทียนทอง) ก็มีการศึกษาระดับจบปริญญาโท เคยลงสมัคร ส.ส. และเมื่อครั้งเป็นตลกก็ยังได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ มาอีกด้วย สำหรับประเด็นที่นายยศวริศเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันนั้น ตนมองว่าคดียังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และต้องให้กระบวนการเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อยังไม่มีคำพิพากษาออกมาต้องถือว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
“การแต่งตั้งบุคคลที่สังคมตั้งข้อสังเกตนั้นถือว่าเป็นจุดแข็งของรัฐบาล และที่สำคัญบุคคลดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการยึดโยงกับประชาชน เพื่อให้บุคคลต่างๆนั้นช่วยดูแล ยกตัวอย่างหากในอนาคต นายชินวัฒน์ไม่ได้ช่วยดูความเดือดร้อนของผู้ขับแท็กซี่ พวกเขาจะโดนสังคมปลุกมวลชนขึ้นมาเรียกร้อง อีกทั้งผมมองว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกตั้งเป็นข้าราชการการเมืองนั้นถือว่าเป็นคนมีแต้มและเติมเต็มคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยได้” นายอนุสรณ์กล่าว