โฆษก ปชป.เหน็บรัฐบาลปูยกตำแหน่ง ขรก.การเมืองให้แก๊งแดง เพราะเป็นกลุ่มพลัดหลงอำนาจจากเก้าอี้ รมต. ชี้พิสูจน์จัดเป็นเนื้อเดียวกัน อัดนโยบายแก้ปัญหาราคาน้ำมันไม่แน่นอนเหมือนลิงแก้แหทำประชาชนเดือดร้อนเพียบ แนะจับตาเริ่มพลิ้วนโยบายภาษีรถคันแรก
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีการตั้งแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นข้าราชการการเมืองจำนวนมากว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เห็นว่า เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้แต่อยากฝากถึงพรรคเพื่อไทย ว่าวันนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเนื้อเดียวกัน จึงขอให้ชัดเจนในแนวทางปฏิบัติ เพราะแกนนำคนเสื้อแดงที่ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้งจนพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ และในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีแกนนำคนเสื้อแดงอยู่ด้วย จึงกลายเป็นกลุ่มคนพลัดหลงอำนาจแต่แรก มาวันนี้จึงต้องเอาเข้าสู่อำนาจ โดยมาเป็นข้าราชการการเมือง ทำงานร่วมกับข้าราชการประจำ เพียงแต่กังวลกรณีมวลชนคนเสื้อแดงที่ได้กดดันสถาบันต่างๆ หรือการใช้กำลังทำร้าย 2 นักศึกษาที่หน้าอาคารรัฐสภา แต่กับพฤติกรรมของคนเสื้อแดงเองที่ไปวางพวงหรีดกดดันสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อให้เอาผู้สื่อข่าวออกสามารถทำได้ โดยการอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิ์ จึงขอให้คนเสื้อแดงรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างในสังคมประชาธิปไตย โดยไม่ใช่กำลังเข้าแก้ไขปัญหา
นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีนโยบายการลดราคาน้ำมัน โดยระงับจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันว่า ในช่วง 2-3 วัน หลังจากใช้นโยบายดังกล่าว แต่กลับมีความไม่แน่นอน โดยมีการปรับราคาเบนซินขึ้น และแสดงออกถึงความไม่รอบคอบ จากมาตรการของพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยฝากข้อคิดและแสดงความกังวลถึงผลกระทบ ต่อรัฐบาลไว้แล้วอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ 1.กรณีผลกระทบต่อเกษตรกร ชาวไร่อ้อยและมันสำปะหลัง ที่รับผลกระทบฌโดยตรง จากมาตรการลดภาษีน้ำมัน จนทำให้น้ำมันเบนซิน 91 และ 95 มีราคาใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์91 ทำให้หันไปเติมเบนซินกันหมด ผลกระทบนี้ส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตร ทั้งอ้อยและมันสำปะหลัง และโรงกลั่นแก๊สโซฮอล์ที่ได้รับผลกระทบ จากนโยบายพลังงานทางเลือกในระยะยาวหากไม่มีความชัดเจน
2.หลังลดราคาน้ำมัน แต่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ลดลงตาม แสดงว่าผุ้ที่รับผลประโยชน์มีเพียงผู้ประกอบการขนส่ง และผู้ประกอบการเดินรถเท่านั้น แต่ประชาชนหาเช้า กินค่ำ ไมได้รับอนิสงค์ เท่าที่ควร
3.มีความเป็นห่วงว่าจะมีการก่อหนี้ ในส่วนของกองทุนน้ำมันที่ไม่ได้มีการจัดเก็บรายได้เข้า หนำซ้ำ ยังยังต้องชดเชยในส่วนของราคาน้ำมันที่ตกเดือนละ 6 พันล้าน และยังไม่รวมส่วนต่างอีก 750 ล้าน จึงเกรงว่าที่สุดแล้ว เงินในกองทุนที่มีอยู่ 5 หมื่นล้าน นั้น เมื่อชดเชยในส่วนนี้เหมด ที่สุดกองทุนน้ำมันจะกลายเป็นแหล่งเพาะหนี้ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาล ก็แก้ปัญหารายวัน เข้าภาษิตลิงแก้แห ก็ว่าได้ โดยยังไม่มีมาตรการรองรับที่รัดกุม รอบคอบทุกด้าน
นายชวนนท์กล่าวว่า สำหรับนโยบายลดภาษีรถคันแรก ว่า นโยบายดังกล่าวมีการตั้งเงื่อนไขว่าต้องเป็นผุ้ที่อยู่ฐานระบบของผุ้เสียภาษีและกำหนดให้ต้องเป็นรถอีโคคาร์ หรือรถกระบะ ซึ่งโดยข้อเท็จจริง ก้ไม่เป็นไปตามนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ เพราะตอนหาเสียงไม่ได้ระบุเงื่อนไขต่างๆ เช่นนี้ไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่าคนที่เข้าข่ายในกลุ่มที่จะใช้สิทธิซื้อได้ก็เป้นคนที่มีเงินเดือนสูงหรือชนชั้นสูง และส่วนใหญ่ก็จะซื้อรถคันแรกไปแล้ว นโยบายนี้จึงเป็นเพียงนโยบายที่เอาไว้ใช้ในการหาเสียงมากกว่าที่จะหวังผลในภาคปฏิบัติ เนื่องจากมีการตั้งเงื่อนไข ข้อจำกัดต่างๆ ไว้มาก และเข้าไม่ถึงพี่น้องประชาชนโดยแท้จริง
