ASTVผู้จัดการรายวัน-"ทักษิณ"อาศัยจังหวะเยือนญี่ปุ่น ขโมยซีนรัฐบาลน้องสาว ปากบอกเป็นแค่กุนซือ "ปู" ไม่ใช่บริหารเอง แต่กลับจ้อได้เป็นฉากๆ คุยโวนโยบายเศรษฐกิจเพื่อไทย เห็นผลภายใน 6 เดือน ส่วนต้องหนีคดี เหตุถูกรัฐประหารไม่เป็นธรรม ยันอีกครั้งญี่ปุ่นออกวีซ่าให้เอง "ปึ้ง"ไม่ได้ขอ
วานนี้ (23 ส.ค.) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องวอยซ์ทีวี (@voice_tv) ได้รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ได้ปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศญี่ปุ่น
โดยพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า การเดินหน้าประเทศไทย ต้องมีความปรองดองเป็นหลัก ขณะนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ (คอป.) โดยต้องมีการปฏิรูปกฎหมายประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ตนได้เสนอ 4 เสาหลักในการพัฒนาไทยสู่ประเทศสมัยใหม่ คือ ประชาธิปไตย กฎหมายดี มีเสรีภาพความคิดเห็น และเศรษฐกิจดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากเห็นการบังคับใช้กฎหมาย แต่ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ถูกต้องโทษคดีอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินจากรัฐประหารซึ่งไม่เป็นธรรม แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่า ระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องอยู่คู่กับประชาธิปไตยในประเทศไทยตลอดไป ขณะที่หลังจากตนถูกโค่นอำนาจ ตนก็ไม่คิดจะกลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีก แต่ขอให้เลิกกดดันทางการเมือง ขอความยุติธรรมแก่ตน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ส่วนสนธิสัญญาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPPA) ที่ได้ลงนามไปแล้วในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาลนั้น ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เอกชนทำงานร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามกรณีช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า จากนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการค้นหาความจริง โดยหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเดินหน้า ตนยืนยันว่าจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ทุกคนที่มีส่วนสั่งการต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปเมืองไทยจะมีการปฏิวัติหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ยืนยันว่าคงจะไม่มีการปฏิวัติแน่นอน ซึ่งถ้ากลับไปแล้วก่อให้เกิดปัญหาก็จะไม่กลับไป แต่ถ้ากลับไปแล้วทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจะรีบกลับไป
พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วยว่า เหตุที่ใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะน้องสาวคนเล็ก เพราะนางยินดี ชินวัตร มารดาได้ฝากฝัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้ก่อนเสียชีวิตจึงสนิทกันมาก โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์เริ่มงานจากตำแหน่งเล็กๆ ใน AIS จนก้าวขึ้นเป็นผู้บริหาร จึงมีการติดต่อกันในฐานะพี่น้องที่ใกล้ชิด ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจจะไม่รู้จักคนในแวดวงการเมือง ตนจึงให้คำปรึกษาบ้าง แต่การบริหารจัดการประเทศเป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนทำหน้าที่เป็นเอนไซโคปีเดีย (สารานุกรม) ให้ข้อมูลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องฟังเสียงประชาชน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบประเทศลิเบีย, ตูนิเซีย และอียิปต์
ทั้งนี้ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา คะแนนเสียงเทมาให้พรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด โดยที่ไม่มีการซื้อเสียง ขณะที่บางพรรคจ่ายเงิน แต่ก็ไม่ได้ แต่การเป็นคนมีเงินของตนทำให้ถูกมองว่าต้องใช้เงินซื้อเสียง ตนยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะประชาชนเลือก ไม่ได้แต่งตั้งโดยตน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าระบบตำรวจมีการจ่ายเงินเพื่อซื้อตำแหน่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของสังคมไทย ทำให้มีปัญหามากมาย รวมทั้งยาเสพติด ซึ่งตนน้อมเกล้าฯ พระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในการแก้ปัญหายาเสพติด และอยากมีส่วนร่วมในการป้องกันและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา แต่ 5 ปีที่ผ่านมา มีการใช้ด้วยเจตนาแฝงทางการเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย แต่มีนักการเมืองบางกลุ่มอ้างสถาบันเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ตนเองรวมถึงการปฏิวัติ ทั้งนี้ แม้จะออกมาจากประเทศไทย 5 ปีแล้ว แต่ยืนยันว่ายังจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เสื่อมคลาย
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงกรณีสถานีโทรทัศน์ไอทีวีด้วยว่า ตนรู้สึกเสียใจแทนชินคอร์ปที่ถูกขโมยสถานีโทรทัศน์ไอทีวีไปจากการรัฐประหาร สมัยที่ตนเข้าไปซื้อไอทีวี เพราะว่าได้รับการติดต่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ให้เข้าไปช่วย เพราะตอนนั้นไทยกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีวีซ่าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า การตัดสินใจให้วีซ่าเป็นเรื่องของรัฐบาลแต่ละประเทศในการตัดสินใจให้วีซ่า ขณะที่มีความพยายามจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ในการติดต่อตำรวจสากล (INTERPOL) ห้ามตนเดินทาง แต่ตำรวจสากลไม่อยากตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทั้งนี้ รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ได้พยายามห้ามตนเดินทาง โดยมีบางประเทศถึงขั้นโทรศัพท์มาบอกตนว่าอย่าเพิ่งมาเลย เพราะรัฐบาลไทยขอไว้ ขณะที่การออกวีซ่าครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่น มีเพียงถามไปทางนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่ายังห้ามตนเดินทางหรือไม่แค่นั้น
วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นด้วยว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ ซึ่งมีนโยบายเร่งด่วน ขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ เพิ่มเงินเดือนปริญญาตรี และรับจำนำข้าวในราคาแพงขึ้น จะใช้เวลาประมาณ 2 ไตรมาสก่อนที่จะเริ่มส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจ และมาตรการต่างๆ จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจได้อย่างมาก
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยจะยังเผชิญปัญหาเงินเฟ้อต่อไปอีกนานเกือบหนึ่งปี ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาล แต่จะลดลงในอนาคต
พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ระหว่างเยือนญี่ปุ่นนานหนึ่งสัปดาห์ หลังได้รับอนุมัติวีซ่าเป็นกรณีพิเศษจากทางการญี่ปุ่น โดยมีกำหนดพบกับส.ส.ผู้นำนักธุรกิจญี่ปุ่น รวมทั้งกล่าวปราศรัยก่อนจะเดินทางไปดูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า การเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นภารกิจส่วนตัว เพื่อไปให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยพิบัติในญี่ปุ่น ซึ่งเคยให้ความช่วยเหลืออย่างดียิ่งช่วงที่ไทยประสบกับสึนามิเมื่อปี 2547 ในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี และเขาจะเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยเพื่อดูว่าไทยจะให้ความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ให้ความช่วยเหลือบริษัทญี่ปุ่นที่ได้รับความเสียหายในการย้ายโรงงานมายังไทย หรือขยายเวลาวีซ่าให้กับผู้ประสบภัยสึนามิที่ต้องการพักผ่อนในไทย