xs
xsm
sm
md
lg

“นช.แม้ว” ไม่สำนึก!! ซัดตัดสินไม่เป็นธรรมทำหนีคุก อ้างเป็นแค่กุนซือ “ปู” ขู่ฟันพวกปราบแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ภาพที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น จากทวิตเตอร์วอย์ทีวี
“ทักษิณ” พล่ามสื่อนอกในญี่ปุ่น โยน คอป.ปรองดอง หวังปฏิรูปกฎหมายไทยให้เป็นสากล ชู 4 เสาพัฒนาชาติ อ้างหนีคุกเหตุตัดสินคดีจากการรัฐประหารไม่เป็นธรรม ย้ำไม่คิดนั่งนายกฯ วอนเลิกกดดันทางการเมือง ชี้ขึ้นค่าแรงหวังคนจนมีชีวิตที่ดีขึ้น ซัดพวกสั่งปราบแดงเผาเมืองต้องรับผิด เชื่อไม่มีปฏิวัติ โอ่กลับแล้วไทยดีขึ้นจะรีบไป โยน “ปู” บริหารชาติ อ้างเป็นแค่กุนซือ เตือนรัฐไม่ฟังเสียงชาวบ้านจะซ้ำรอยลิเบีย ยัน พท.ไม่เคยซื้อเสียง ลั่นยังจงรักภักดีสถาบัน อ้าง ม.112 มีปัญหา เหตุบางกลุ่มอ้างอาศัยประโยชน์ปฏิวัติ ซัดรัฐ “มาร์ค” ห้ามตนเร่ร่อน โวรัฐยุ่นออกวีซ่าให้ แค่ถาม “ปึ้ง” ยังห้ามบินหรือไม่



วันนี้ (23 ส.ค.) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องวอยซ์ทีวี (@voice_tv) ได้รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ได้ปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศญี่ปุ่น โดยกล่าวว่า การเดินหน้าประเทศไทย ต้องมีความปรองดองเป็นหลัก ขณะนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ (คอป.) โดยต้องมีการปฏิรูปกฎหมายประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ตนเสนอ 4 เสาหลักในการพัฒนาไทยสู่ประเทศสมัยใหม่คือ ประชาธิปไตย กฎหมายดี มีเสรีภาพความคิดเห็น และเศรษฐกิจดี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากเห็นการบังคับใช้กฎหมาย แต่ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ถูกต้องโทษคดีอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินจากรัฐประหารซึ่งไม่เป็นธรรม แต่ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องอยู่คู่กับประชาธิปไตยในประเทศไทยตลอดไป ขณะที่หลังจากตนถูกโค่นอำนาจ ตนก็ไม่คิดจะกลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีก แต่ขอให้เลิกกดดันทางการเมือง ขอความยุติธรรมแก่ตน

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ส่วนสนธิสัญญา JTEPPA ได้ลงนามไปแล้วในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาลนั้น ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เอกชนทำงานร่วมกัน แต่ทั้งนี้ก็รอภาครัฐลงนามร่วมกันต่อไป ขณะที่การผลักดันให้ขึ้นค่าแรง เพราะต้องการให้คนไทยที่ยากจนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม้ว่าอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า จากนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการค้นหาความจริง โดยหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเดินหน้า ตนยืนยันว่าจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ทุกคนที่มีส่วนสั่งการต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปเมืองไทยจะมีการปฏิวัติหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ยืนยันว่าคงจะไม่มีการปฏิวัติแน่นอน ซึ่งถ้ากลับไปแล้วก่อให้เกิดปัญหาก็จะไม่กลับไป แต่ถ้ากลับไปแล้วทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจะรีบกลับไป

พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วยว่า เหตุที่ใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะน้องสาวคนเล็ก เพราะนางยินดี ชินวัตร มารดาได้ฝากฝัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้ก่อนเสียชีวิตจึงสนิทกันมาก โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์เริ่มงานจากตำแหน่งเล็กๆ ใน AIS จนก้าวขึ้นเป็นผู้บริหาร จึงมีการติดต่อกันในฐานะพี่น้องที่ใกล้ชิด ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจจะไม่รู้จักคนในแวดวงการเมือง ตนจึงให้คำปรึกษาบ้าง แต่การบริหารจัดการประเทศเป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนทำหน้าที่เป็นเอนไซโคปีเดีย (สารานุกรม) ให้ข้อมูลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องฟังเสียงประชาชน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบประเทศลิเบีย, ตูนิเซีย และอียิปต์ ทั้งนี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคะแนนเสียงเทมาให้พรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด โดยที่ไม่มีการซื้อเสียง ขณะที่บางพรรคจ่ายเงิน แต่ก็ไม่ได้ แต่การเป็นคนมีเงินของตนทำให้ถูกมองว่าต้องใช้เงินซื้อเสียง ตนยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะประชาชนเลือก ไม่ได้แต่งตั้งโดยตน

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าระบบตำรวจมีการจ่ายเงินเพื่อซื้อตำแหน่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของสังคมไทย ทำให้มีปัญหามากมาย รวมทั้งยาเสพติด ซึ่งตนน้อมเกล้าฯ พระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในการแก้ปัญหายาเสพติด และอยากมีส่วนร่วมในการป้องกันและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา แต่ 5 ปีที่ผ่านมา มีการใช้ด้วยเจตนาแฝงทางการเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย แต่มีนักการเมืองบางกลุ่มอ้างสถาบันเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ตนเองรวมถึงการปฏิวัติ ทั้งนี้แม้จะออกมาจากประเทศไทย 5 ปีแล้ว แต่ยืนยันว่ายังจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เสื่อมคลาย

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงกรณีสถานีโทรทัศน์ไอทีวีด้วยว่า ตนรู้สึกเสียใจแทนชินคอร์ปที่ถูกขโมยสถานีโทรทัศน์ไอทีวีไปจากการรัฐประหาร สมัยที่ตนเข้าไปซื้อไอทีวีเพราะว่าได้รับการติดต่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ให้เข้าไปช่วย เพราะตอนนั้นไทยกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีวีซ่าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า การตัดสินใจให้วีซ่าเป็นเรื่องของรัฐบาลแต่ละประเทศในการตัดสินใจให้วีซ่า ขณะที่มีความพยายามจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ในการติดต่อตำรวจสากล (INTERPOL) ห้ามตนเดินทาง แต่ตำรวจสากลไม่อยากตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทั้งนี้ รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ได้พยายามห้ามตนเดินทาง โดยมีบางประเทศถึงขั้นโทรศัพท์มาบอกตนว่าอย่าเพิ่งมาเลย เพราะรัฐบาลไทยขอไว้ ขณะที่การออกวีซ่าครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่น มีเพียงถามไปทางนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่ายังห้ามตนเดินทางหรือไม่แค่นั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น