ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการให้สินบนสื่อมวลชน โดยมีการแถลงข่าว ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน วันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่าน ปรากฏว่า การระบุแน่ชัดว่า พรรคเพื่อไทยบริหารสื่อทั้งด้านบุคคลและองค์กรอย่างเป็นระบบ
โดยเฉพาะข่าวสด และมติชน
"การนำเสนอของข่าวสาร และบทความในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของหนังสือพิมพ์ที่ถูกพาดพิงบางฉบับ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ข่าวสด และรองลงมาคือมติชน น่าจะมีความเอนเอียงในการก่อให้เกิดประโยชน์แก่พรรคเพื่อไทยอย่างเป็นระบบ มีการพาดหัวข่าว การเลือกภาพที่จะนำมาลง การนำเสนอข่าว คอลัมน์การเมือง และบทสัมภาษณ์ต่างๆ ที่มีเนื้อหาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย " นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจกรณีดังกล่าวอธิบายนักข่าว
ทั้งนี้ในการแถลงข่าวได้มี นายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และ นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ของนักการเมืองระบุการให้เงิน และผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เป็นผู้แถลงด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ การตรวจสอบดังกล่าวเกิดจากมีอีเมล์อื้อฉาว 2 ฉบับ ที่ใช้หัวข้อว่า “จดหมายถึงท่านพงษ์ศักดิ์” ส่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 54 และ “ข้อเสนอของวิม” ส่งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.54 เผยแพร่ โดยเนื้อหาข่าวพาดพิงถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ข่าวอื้อฉาวดังกล่าวส่งผลกระทบกระเทือนต่อจริยธรรมของสื่อ สภาการหนังสือพิมพ์ฯ จึงมีมติให้จัดตั้งอนุกรรมการขึ้นสอบข้อเท็จจริง
นพ.วิชัย อธิบายวิธีการสอบสวนว่า ประการแรก หนึ่ง ได้เชิญผู้ที่มีชื่อถูกพาดพิงทั้งหมดมาให้ถ้อยคำ ซึ่งมีมา 4 คน อีก 3 คนไม่มา
ประการที่สอง การตรวจสอบการนำเสนอทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ โดยกำหนดช่วงตั้งแต่ต้นมิถุนายน ถึงวันที่ 3 ก.ค. ของทุกฉบับ โดยนำมาศึกษาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ
ประการที่สาม ขอความร่วมมือจากสื่อที่ถูกพาดพิง ซึ่งทราบว่าแต่ละส่วนมีการสอบของตัวเองแล้ว และก็ได้ขอข้อมูลมาประกอบ
คณะอนุกรรมการฯ ได้เชิญผู้ถูกพาดพิงตามข่าวจำนวน 7 คน และผู้แทนของเว็บไซต์เมเนเจอร์ออนไลน์ มาให้ข้อมูล จำนวน 5 คน คือ 1. นางฐานิตะญาน์ ธนพิศุทธิ์กุล ( คุณโจ้) บรรณาธิการข่าวการเมือง สำนักข่าวเนชั่น 2.นายปรีชา สะอาดสอน (ปรีชา) บรรณาธิการข่าวอาชญากรรม สำนักข่าวเนชั่น 3. นายสมหมาย ยาน้อย ( พี่ป๊อบ สมหมาย ) หัวหน้าข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 4. นายปราโมทย์ ฝ่ายอุประ ( พี่โมทย์ ) หัวหน้าข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 5. นายนิรันดร์ เยาวภา ผู้ดูแลเว็บไซต์เมเนเจอร์ออนไลน์
แต่ผู้ถูกพาดพิงจำนวน 3 คน ในเครือบริษัทมติชน คือ นายจรัญ พงษ์จีน ( พี่จรัญ ), นายทวีศักดิ์ บุตรตัน ( พี่เปี๊ยก ) และ นายชลิต กิติญาณทรัพย์ ( พี่ชลิต ) ไม่ได้มาให้ข้อมูล
โดยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ได้ทำหนังสือแจ้งมาว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการกระทำตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และเห็นว่าเป็นหน้าที่โดยตรงของสื่อแต่ละฉบับที่ถูกพาดพิงที่จะบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นเอง
ผู้มาให้ข้อมูลเหล่านี้ล้วนมีชื่ออยู่ในอีเมล์
ก่อนหน้านี้มี “จดหมายถึงท่านพงษ์ศักดิ์” และ “ข้อเสนอ วิม” ไปยังสื่อมวลชนฉบับต่างๆ โดยผู้ส่งใช้ชื่อว่า “วิม” (wim Rungwattanajinda) อีเมล์ wim108@live.com ส่วนผู้รับ ชื่อพงษ์ศักดิ์ ใช้อีเมล์ rukta_ladawan@yahoo.com และ rukta.pong@yahoo.com
อีเมล์หัวข้อ “จดหมายถึงท่านพงษ์ศักดิ์” นั้น ส่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 54 มีข้อความระบุว่า " สถานการณ์ทางด้านกระแสสื่อที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สถานการณ์ "คุณปู" ยังอยู่ในภาวะที่ดีมาก ซึ่งจะต้องประคองกระแสนี้ให้อยู่ในระดับที่ไม่ตกไปกว่านี้ "
อีเมล์ระบุอีกว่า "หน้าที่ผมและน้องสุธิศา รับผิดชอบช่วยคุณปู อยู่ในขณะนี้ 1. แจ้งประเด็นให้คุณปูทราบทุกวันว่า วันนี้มีประเด็นอะไร ประเด็นไหนที่แรง ให้โยนไปให้ทีมคุณนิวัติธำรงค์ช่วยแนะนำ 2. เช็กประเด็นจากสื่อมวลชนว่าจะถามอะไรคุณปู เพื่อให้คุณปูเตรียมตัวให้พร้อมที่จะพูด 3. สร้างประเด็นหรือภาพกิจกรรมในพื้นที่หาเสียง เพื่อให้ได้ภาพหน้า 1 ทุกวัน 4.ประสานหัวหน้าข่าว และโต๊ะข่าวการเมืองว่าต้องการภาพแบบไหน เพื่อส่งให้ทุกวัน 5.ประสานสำนักข่าวต่างประเทศ เพื่อให้ตามคุณปูลงพื้นที่ เพื่อให้ข่าวคุณปูออกไปทั่วโลก 6.ประสานสำนักข่าวในประเทศ เพื่อให้พรรค (คุณนิวัตธำรงค์) จัดบุคคลไปตอบคำถามในทีวี"
เนื้อหาในอีเมลล์ที่น่าสนใจคือ ได้มีการพาดพิงบุคคลในแวดวงสื่อมวลชนหลายคนพร้อมระบุสังกัดอย่างชัดเจนว่า
"ส่วนเรื่องดูแลสื่อในขณะนี้ ผมพยายามประคองกระแสให้ข่าว และรูปของคุณปูอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ให้ได้ทุกวัน โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์...( พี่ ม.)...( พี่ ป. กับพี่ จ. )...( พี่ ช. )...(พี่ ป.) ... (คุณ จ. และ ป. ที่มาสัมภาษณ์ที่บ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน) ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วผมช่วยดูแลไปแล้วที่ละ 2 หมื่น"
"ส่วนผู้สื่อข่าวทีวี ก็ใช้วิธีเลี้ยงข้าวบ้าง เลี้ยงเหล้าบ้าง ยังไม่ได้มีใครเรียกร้องอะไร ยกเว้น ช่อง... ที่ขอไวน์และเหล้า ส่วนเวลาไปต่างจังหวัด พี่สุณีย์ ก็ให้บ้าง ส่วนที่พรรคไม่เคยให้เลย เคยบอกพี่สาโรจน์ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีคำตอบ"
วิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ( ชื่อผู้ส่งในอีเมล์ ) ยอมรับว่า อีเมล์ wim108@live.com เป็นเมล์ส่วนกลาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ หรือกองงานโฆษกพรรคเปิดเข้ามาใช้ในการรับ-ส่งข้อมูลต่างๆ
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ ยังได้เชิญ นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย มาให้ข้อมูลด้วย แต่ยกเลิกการมาให้ข้อมูล โดยอ้างว่าฝ่ายกฎหมายของพรรค แนะนำไม่ให้มา เนื่องจากเกรงว่าผลการตรวจสอบอาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อพรรค และจะให้รอ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งก่อน แต่เมื่อ กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ทางคณะอนุกรรมการฯ ก็ได้ติดต่อนายวิมไปอีกครั้งหนึ่ง แต่นายวิม ก็ปฏิเสธ
นพ.วิชัย สรุปผลของการตรวจสอบว่า
1. อีเมล์ ดังกล่าว เชื่อได้ว่าเป็นของนายวิมจริง และนายวิม เป็นผู้เขียนอีเมล์นั้น ทั้งนี้ด้วยเหตุผลต่างๆ หลายประการ
2. ในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยน่าจะมี “การบริหารจัดการสื่อมวลชน” ทั้งในระดับองค์กร และระดับบุคคลอย่างเป็นระบบ เช่น มีการเลือกลงโฆษณาเฉพาะในหนังสือพิมพ์บางฉบับ มีการประสานประเด็นข่าวกับผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ในระดับต่างๆ ตลอดจนน่าจะมีการจัดส่งภาพของตนไปลงตีพิมพ์เป็นภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ที่มีความสัมพันธ์ด้วย อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ ไม่มีอำนาจตรวจสอบว่า ในการดำเนินการดังกล่าวได้มีการให้อามิสสินจ้างอันมีค่า หรือผลประโยชน์อื่นนอกเหนือจากการลงโฆษณา หรือไม่
3. หนังสือพิมพ์บางฉบับที่ถูกพาดพิงได้นำเสนอข่าวในช่วงเลือกตั้งโดยมีความเอนเอียงในทางที่เป็นประโยชน์แก่พรรคเพื่อไทยอย่างค่อนข้างเป็นระบบ ทั้งการพาดหัวข่าว การเลือกภาพที่นำมาลง การบรรยายประกอบภาพ การนำเสนอข่าว และบทความต่างๆ ที่มีเนื้อหาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
4. ด้วยข้อจำกัดของอำนาจในการเข้าถึงพยานหลักฐาน คณะอนุกรรมการฯ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า มีการให้สินบนผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ตามเนื้อหาของอีเมล์ดังกล่าวจริงหรือไม่
แต่เมื่อได้ตรวจสอบบทความที่ผู้ถูกพาดพิงแต่ละคนนำเสนอผ่านหนังสือพิมพ์ต้นสังกัดแล้ว
" เชื่อว่าผู้ที่ถูกพาดพิงส่วนใหญ่น่าจะไม่ได้มีพฤติการรับสินบนตามที่เป็นข่าว แม้ยังมีข้อสงสัยต่อท่าทีของผู้ที่ถูกพาดพิงบางรายว่า เหตุใดจึงมีพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งน่าจะขัดต่อวิสัยปกติของบุคคลทั่วไปในสถานการณ์ดังกล่าว ทางนายวิม บอกว่ามีการจ่าย เท็จจริงก็อยู่ที่นายวิม แต่ที่อ้างอิงว่า ให้คนโน้นนี้ ที่เป็นคนรับ ไม่มีหลักฐานว่าเป็นคนรับ" นพ.วิชัยกล่าว
ประเด็นสำคัญที่ นพ.วิชัย สรุปไว้ก็คือ "การนำเสนอของข่าวสาร และบทความในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของหนังสือพิมพ์ที่ถูกพาดพิงบางฉบับ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ข่าวสด และรองลงมาคือ มติชน น่าจะมีความเอนเอียงในการก่อให้เกิดประโยชน์แก่พรรคเพื่อไทย อย่างเป็นระบบ มีการพาดหัวข่าว การเลือกภาพที่จะนำมาลง การนำเสนอข่าว คอลัมน์การเมือง และบทสัมภาษณ์ต่างๆ ที่มีเนื้อหาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย" นพ.วิชัย กล่าว
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้มีข้อเสนอแนะต่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติว่า ควรตักเตือนให้หนังสือพิมพ์ ที่เป็นองค์สมาชิกยึดถือ และปฏิบัติตามข้อบังคับด้านจริยธรรมของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติโดยเคร่งครัด และควรตักเตือนให้หนังสือพิมพ์ที่เป็นองค์กรสมาชิกตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข่าว และแหล่งข่าวที่ได้รับมาอย่างรอบคอบรัดกุม ก่อนนำเสนอข่าวที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง
ข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯยังไม่เท่ากับการระบุชื่อสื่อที่เลือกข้างพรรคการเมืองโดยตรงเท่ากับเป็น การฆ่าโดยทางอ้อม แม้ไม่ตายก็ตาม !!