xs
xsm
sm
md
lg

อนาคตรัฐบาลและนายกฯ ปู

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

วันพรุ่งนี้ (5 ส.ค. 2554) สภาก็คงโหวตให้คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 ของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของประเทศไทย แบบสบายบรื๋อสะดือบุ๋ม..

บรรทัดนี้จึงขอแสดงความยินดีมาอย่างเป็นทางการกับ “นายกฯ ปู” ส่วนอนาคตจะเป็นปูแดง ปูดำ ปูดอง หรือปูอะไรก็ค่อยมาว่ากันอีกที...เอาเป็นว่าการย่างสามขุมขึ้นสู่เก้าอี้นายกฯ ของคุณยิ่งลักษณ์ที่ใช้เวลาแค่ 49 วันในการหาเสียงเลือกตั้งหนนี้ ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในความทรงจำแล้วว่า...เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับวงการการเมืองไทยจริงๆ

บรรดาโหราจารย์หลายต่อหลายคน รวมทั้ง อ.สามารถ มังสัง ของผมพยากรณ์กว้างๆ เอาไว้ว่า รัฐบาลปูน่าจะมีอายุแค่ 1 ปีบวกลบ ดังนั้นหากคุณยิ่งลักษณ์อยู่ได้เกินครึ่งเทอมหรืออยู่จนครบเทอม 4 ปีเหมือนรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2544-2548 มันจะยิ่งมหัศจรรย์…

มองทางกว้าง เหตุปัจจัยที่จะชี้เป็นชี้ตายหรือกำหนดชะตากรรมอายุรัฐบาลปู น่าจะมีอยู่ 4 ประการดังนี้

ประการแรก ฝีมือและภาวะผู้นำของคุณยิ่งลักษณ์

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนักหนากว่าสมัคร สุนทรเวชหรือสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ของระบอบทักษิณที่เป็น “นอมินี” หรือ “หุ่นเชิด” ของคนชื่อทักษิณ ชินวัตร เพราะทักษิณบอกว่านายกฯ ปูคือโคลนนิ่งของเขา กรณีนี้สังคมทั่วไปมองว่า ไม่ว่านายกฯ ปูจะแก้ตัวแก้ต่างว่าทักษิณไม่เกี่ยว ทักษิณไม่ได้สั่งไม่ได้บัญชาการก็ฟังไม่ขึ้น....มีแต่ภาคปฏิบัติหรือดูกันไปอีกระยะหนึ่งเท่านั้นว่าเธอจะเป็นตัวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน

“ภาวะผู้นำ” ในการปฏิบัติงานบริหารราชการแผ่นดินจะเป็นคำตอบดีกว่าคำแก้ตัวหรือไม่แก้ตัว ถ้ายิ่งบริหารยิ่งเก่งกาจ ยิ่งบริหารยิ่งเข้าตาประชาชนเธอก็จะสอบผ่านไปเอง ตรงข้ามหากยิ่งบริหารก็ยิ่งเห็นความโง่งมหรือขี้เท่อ เธอก็จะไปไม่รอด จอดไม่ต้องแจว...

ประการที่สอง ภาพรวมและผลงานของ ครม.

หน้าตา ครม.ที่จะออกมาในอีกไม่กี่วันก็คงไม่มีอะไรที่พิสดารพันลึกหรือเซอร์ไพรส์กว่าที่เป็นข่าวอยู่บนหน้า นสพ.ในขณะนี้ ก็พอจะกล่าวล่วงหน้าได้ว่าคงไม่ถึงกับขี้เหร่แต่ก็ไม่เท่ไม่โดนใจอะไรนักหนา ไม่ว่าจะเป็นคนนอก (พรรค) หรือคนใน (พรรค) เพราะกระทรวงหลักๆ คนหลักๆ คุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้ส่งเข้าประกวดเอง หากแต่เป็นคุณชายผู้อยู่แดนไกล และคุณหญิงบ้านจันทร์ส่องหล้า บางคนก็เป็นการตอบแทน บางคนก็เป็น “มือวาง” ที่มาพร้อมกับพันธกิจพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้โอกาสกับบรรดารัฐมนตรีต่างๆ ในการพิสูจน์ฝีมือพิสูจน์ผลงานซึ่งคาดว่า 3-4 เดือนก็พอจะมองกันออกว่าใครเป็นใคร ไผเป็นไผ และหลังจากนั้นอีก 2-3 เดือนก็คงจะได้เห็นว่าการทุจริตโกงกินจะเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผมพอจะคาดหมายได้ว่าการทุจริตโกงกินถ้าจะเกิดขึ้นก็คงแยบยลหรือเนียนนุ่มมากกว่าเดิม..

ใครบางคนกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า 2 ปีเศษที่ผ่านมา รัฐมนตรี-นักการเมืองหากินด้วย “คอมมิชชัน” เงินทอนเต็มกระเป๋า (อาจจะมีเหรียญมากหน่อย) แต่ต่อไปจะหากินด้วย “สัมปทาน” ไม่มีเงินทอนแต่มีเช็คมูลค่ามหาศาล แต่อาจจะใจกว้างกว่าตรงที่ไม่มีการกินรวบ ขี้เหนียวเหมือนนักการเมืองในรัฐบาลมาร์ค

ไม่ว่าจะอย่างไร...แบบไหน...ท้ายที่สุดแล้วการทุจริตคอร์รัปชันจะเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลปู ดังนั้นถ้ารักยาวก็ให้ “บั่น” ถ้ารักจะอยู่สั้นก็ให้รีบ “โกง”

ประการที่สาม ปัญหาคนเสื้อแดง

“ทักษิณ” ได้ตอบแทน นปช.หรือคนเสื้อแดงอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้แกนนำเสื้อแดงสิบกว่าคนได้รับเลือกเป็น ส.ส.จาก “ไพร่” กำลังจะกลายพันธุ์เป็น “อำมาตย์” กันแบบเห็นๆ แต่ที่มองกันไปมากกว่านั้นก็คือ “ทักษิณ” จะตอบแทนหรือจัดหนักให้คนเสื้อแดงถึงขั้นเป็น “เสนาบดี” หรือไม่?

แม้ “ตู่”-จตุพร พรหมพันธุ์ จะพูดในเชิงตัดพ้อต่อว่าทันทีที่ออกจากคุกทำนองว่า...ใครที่มองว่าคนเสื้อแดงมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเป็นพวกที่เห็นแก่ตัวไม่เข้าใจชีวิตจริงว่านักรบนักต่อสู้ต้องมีบาดแผลก็ตาม...แต่ถ้าถามคนในพรรคเพื่อไทยหรือแม้แต่รัฐมนตรีรับเชิญส่วนใหญ่ พวกเขาจะบอกว่าคนเสื้อแดงได้แค่นี้ก็พอแล้ว อดใจรอก๊อกสองจะดีกว่า รอบนี้สามช่ารอบหน้ารำวง..ค่อยออกมา ถ้าจะยกเว้นในรอบแรกนี้ก็อาจจะให้ พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย ได้คนเดียวประมาณนั้น

ลำพังเพียงคนเสื้อแดงที่แต่งสูทเข้าสภา ตลอดจนแดงนักเลือกตั้งยังไม่น่าจะเป็นปัญหากับรัฐบาลปูหรือระบอบทักษิณ แต่กับแดงอุดมการณ์ที่จะสร้าง “รัฐไทยใหม่”หรือพวกแดง “ล้มเจ้า” ต่างหากที่อาจทำให้รัฐบาลปูหรือทักษิณปวดหัวใจในระยะต่อๆ ไป เพราะไม่แน่นัก วันหนึ่งพวกเขาเหล่านั้นจะทวงถามว่า ในเมื่อมีอำนาจรัฐแล้วทำไมไม่ทำอย่างนั้นไม่ทำอย่างนี้ ทำไมไม่สร้างรัฐไทยใหม่ ทำไมไม่แก้รัฐธรรมนูญ ทำไมไม่แก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นต้น

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยสนับสนุน ส่งแรงเชียร์รัฐบาลประชาธิปัตย์ในระยะปีแรก แต่ต่อมาได้พุ่งหอกดาบใส่รัฐบาลประชาธิปัตย์เพราะความผิดหวังที่แยกมิตรแยกศัตรูไม่ออก และปล่อยให้เกิดความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดินหลายกรณี บางที นปช.กลุ่มหนึ่งอาจจะเดินตามรอยพันธมิตรฯ ก็ได้ หากเกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน แม้หลายคนจะแย้งว่าคงไม่เกิด เพราะทักษิณมี “เงินทุน” ที่จะบริหาร นปช.มากพอก็ตาม

ประการที่สี่ สัมพันธภาพกับกองทัพ

ความสัมพันธ์กับกองทัพโดยเฉพาะกองทัพบกเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้าม เริ่มตั้งแต่การวางตัว รมว.กลาโหม ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลปูก็คงต้องรับฟังเสียงของกองทัพว่า..ควรไม่ควรเอาใคร...ขณะเดียวกันในระยะต่อไปหากทักษิณหรือรัฐบาลปูกระชับอำนาจด้วยการปลดย้ายถ่ายเลือดในกองทัพอย่างเมามันในอำนาจ ก็อาจเป็นเงื่อนเหตุให้พบกับจุดจบได้เร็วขึ้นเช่นกัน แม้ว่าแม่ทัพนายกองในปัจจุบันจำนวนไม่น้อยชอบที่จะ “เลือกข้างชนะ” ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่ากองทัพไทยจะไร้ซึ่งแม่ทัพนายกอง นายทหารคุมกำลังที่รักบ้านรักเมือง รักความถูกต้องชอบธรรมเสียทีเดียว...

นั่นคือ 4 เหตุปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตากรรมรัฐบาลปู ผมยังไม่นับรวมถึง 2 เหตุปัจจัยที่กลุ่มพันธมิตรฯ เขาชักธงรบไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเคลื่อนไหวมวลชนทันทีถ้ามีการ 1) ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณโดยไม่มารับโทษ 2) ปล่อยให้ขบวนการล้มเจ้าเติบใหญ่อหังการ...

ก็ขอต้อนรับนายกฯ คนที่ 28 และคณะรัฐมนตรีคณะที่ 60 ของประเทศไทย ด้วยความหวังว่า...ทุกอย่างอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายวิตก และนายกฯ ปูแดงของผมจะไม่กลายเป็นนายกฯ ปูดองเร็วกว่ากำหนด!!??

          samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น