วานนี้ (27 ก.ค) นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้เรียกประชุมผู้บริหารทุกหน่วยงาน เพื่อเตรียมมาตรการรองรับนโยบายด้านแรงงานของพรรคเพื่อไทย ซึ่งวิเคราะห์ได้ 10 ประเด็น อาทิ นโยบายเพิ่มการจ้างงาน และการจ้างงานในท้องถิ่น ,การส่งเสริมการฝึกทักษะพัฒนาอาชีพ ฯลฯ โดยจะเร่งจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานและกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ทั้งนี้ จะทำให้ได้ 120 สาขาอาชีพภายในกลางปีหน้า (2555) รวมถึงนโยบายส่งเสริมแรงงานไปทำงานต่างประเทศ ,นโยบายด้านสวัสดิการสังคม โดยกระทรวงจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันสังคมให้มากขึ้น , นโยบายด้านการจัดการแรงงานต่างด้าว โดยจะพัฒนาระบบการขออนุญาตทำงานให้สะดวกรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น
สำหรับในส่วนนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน กระทรวงจะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงานให้สอดรับกับค่าจ้าง 300 บาท เนื่องจากเชื่อว่าจะต้องถูกเรียกร้องจากผู้ประกอบการหากต้องปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาทจริง ซึ่งเชื่อว่าเป็นโอกาสดีที่จะให้เกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น รวมทั้งเสนอตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ และใช้มาตรการทางภาษีลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคณะทำงานของกระทรวงได้มีการเสนอข้อมูลและมาตรการรองรับให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่าจะเลือกแนวทางใดเนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีทีมงานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งอยู่แล้ว
วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง จำนวน 30 คน เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นหนังสือและแสดงจุดยืนขอสนับสนุนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยมี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนรับหนังสือ
ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง รวม 32 องค์กร มีสมาชิกประมาณ 2.5 หมื่นคน ได้รวมตัวกันเพื่อทำหนังสือแสดงจุดยืนของกลุ่มฯ คือ 1.ขอสนับสนุนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานทั่วประเทศ 2.รัฐบาลต้องควบคุมราคาสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ไม่ให้มีการขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร
“หวังว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตามนโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง เราจะเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทย ในการทำนโยบายที่เห็นความสำคัญของคนในชาติ เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา และเห็นควรเร่งดำเนินการต่อไป” กลุ่มสหภาพแรงงานฯ กล่าว
สำหรับในส่วนนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน กระทรวงจะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงานให้สอดรับกับค่าจ้าง 300 บาท เนื่องจากเชื่อว่าจะต้องถูกเรียกร้องจากผู้ประกอบการหากต้องปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาทจริง ซึ่งเชื่อว่าเป็นโอกาสดีที่จะให้เกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น รวมทั้งเสนอตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ และใช้มาตรการทางภาษีลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคณะทำงานของกระทรวงได้มีการเสนอข้อมูลและมาตรการรองรับให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่าจะเลือกแนวทางใดเนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีทีมงานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งอยู่แล้ว
วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง จำนวน 30 คน เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นหนังสือและแสดงจุดยืนขอสนับสนุนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยมี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนรับหนังสือ
ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง รวม 32 องค์กร มีสมาชิกประมาณ 2.5 หมื่นคน ได้รวมตัวกันเพื่อทำหนังสือแสดงจุดยืนของกลุ่มฯ คือ 1.ขอสนับสนุนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานทั่วประเทศ 2.รัฐบาลต้องควบคุมราคาสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ไม่ให้มีการขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร
“หวังว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตามนโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง เราจะเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทย ในการทำนโยบายที่เห็นความสำคัญของคนในชาติ เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา และเห็นควรเร่งดำเนินการต่อไป” กลุ่มสหภาพแรงงานฯ กล่าว
