xs
xsm
sm
md
lg

ก.แรงงาน เตรียมสนองนโยบายพรรคเพื่อไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ก.แรงงานเตรียมรองรับ 10 นโยบายด้านแรงงานของพรรคเพื่อไทย เน้นเพิ่มทักษะฝีมือ รับค่าจ้าง 300 บาท เพิ่มการจ้างงาน ตั้งกองทุนดูแลผู้ถูกเลิกจ้าง ประกันการมีงานทำ ดูแลสิทธิประโยชน์แรงงานไทยและต่างด้าว นำเข้าต่างด้าวถูกกฎหมาย ลดปัญหาค้ามนุษย์

วันนี้ (27 ก.ค.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงแรงงานได้ประชุมผู้บริหารทุกหน่วยงานเพื่อเตรียมมาตรการรองรับนโยบายด้านแรงงานของพรรคเพื่อไทยซึ่งสามารถวิเคราะห์ออกมาได้ทั้งหมด 10 ประเด็น ได้แก่ 1.นโยบายการจ้างงานเพิ่ม และการจ้างงานในท้องถิ่น ซึ่งใช้แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยกระทรวงได้วางยุทธศาสตร์ 2 ด้าน คือ การเติมคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ทั้งในส่วนของเด็กจบใหม่ และผู้ว่างงาน และผู้ที่ทำงานไม่เต็มศักยภาพ ตลอดผู้พิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งหากจำเป็นก็จะนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาเสริมเป็นทางเลือกสุดท้าย อีกทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานที่มีอยู่เดิมให้ทำงานได้มากขึ้น และสนับสนุนให้สถานประกอบการนำเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ ตลอดจนเน้นการบริหารจัดการและระบบโลจิสติกที่มีประสิทธิภาพ

2.การส่งเสริมการฝึกทักษะพัฒนาอาชีพ โดยจะเร่งจัดทำมาตรฐานฝีมือและกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ทั้งนี้ จะทำให้ได้ 120 สาขาอาชีพภายในกลางปี 2555 อีกทั้งดึงผู้ประกอบการร่วมพัฒนาฝีมือแรงงานตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ซึ่งปัจจุบันมีหลักสูตรอบรมจำนวนมากไว้รองรับ และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจะได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่า และจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานระดับอาเซียน

3.การส่งเสริมแรงงานไปทำงานต่างประเทศ โดยกระทรวงแรงงานจะยังคงรักษาฐานแรงงานไร้ฝีมือไว้ เพราะคนกลุ่มนี้สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ขณะเดียวกันจะขยายตลาดแรงงานทักษะฝีมือไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องภาษาที่สอง และคลุ้มครองสิทธิประโยชน์แรงงานไทยในต่างประเทศ

4.สวัสดิการสังคม โดยกระทรวงจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันสังคมให้มากขึ้นและขยายจำนวนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 อีกทั้งจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้าง นอกจานี้ยังส่งเสริมสถานประกอบการจัดสวัสดิการโดยใช้มาตรการทางภาษีจูงใจ ตลอดจนจะให้มีระบบประกันการมีงานทำ

5.การจัดการแรงงานต่างด้าว โดยจะพัฒนาระบบการขออนุญาตทำงานให้สะดวกรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น รวมทั้งควบคุมการใช้แรงงานต่างด้าวเท่าที่จำเป็น ซึ่งการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจากนี้จะใช้ระบบเอ็มโอยูเท่านั้น

6.การจัดระเบียบขอบเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านแรงงาน โดยจะบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการใช้แรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7.การสร้างความปรองดอง ซึ่งกระทรวงแรงงานใช้ระบบไตรภาคีในพิจารณาทุกเรื่องที่ต้องมีการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

8.ยาเสพติด โดยที่ผ่านมากระทรวงได้มีโครงการโรงงานสีขาวเพื่อลดปัญหาการระบาดของยาเสพติดในสถานประกอบการ ซึ่งจากนี้ก็จะดำเนินการให้เข้มข้นมากขึ้น

9.ความสัมพันธ์ต่างประเทศ เน้นส่งเสริมการส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศโดยใช้ระบบการจัดส่งโดยรัฐ (G TO G) และรักษาสิทธิมนุษยชนทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว รวมทั้งการปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งขณะนี้ไทยยถูกจับตาจากอเมริกาในเรื่องการค้ามนูษย์ โดยถูกจัดในระดับเทียร์2 หมายถึงการถูกจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งหากแก้ไขไม่ได้ในปลายปีนี้ ก็จะถูกขยับไปอยู่ระดับเทียร์ 3 ซึ่งไทยจะถูกกีดกันทางการค้า

10.ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน กระทรวงจะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงานให้สอดรับกับค่าจ้าง 300 บาท เนื่องจากเชื่อว่าจะถูกเรียกร้องจากผู้ประกอบการหากต้องขึ้นค่าจ้าง 300 บาทจริง ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้เกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น รวมทั้งเสนอตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ และใช้มาตรการทางภาษีลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ

“เรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันนั้นได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) มาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะทำงานของกระทรวงแรงงานได้เสนอข้อมูลและมาตรการรองรับให้กับทางพรรคซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทยจะเลือกแนวทางไหน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยก็มีทีมงานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งอยู่แล้ว” ปลัดแรงงานกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น