ปลัดแรงงานกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 11 สาขาแรก เริ่มบังคับใช้มีผล 28 ก.ค.นี้ พร้อมเพิ่มอีก 11 สาขา ช่วง ต.ค.นี้ ตั้งเป้าประกาศให้ครบ 120 สาขา ภายในกลางปีหน้า เล็งขยับเพดานอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือรับนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ชี้ หลายสาขายังต่ำกว่า 300 บาท
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมในการบังคับใช้ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานใน 11 สาขาแรก ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ ว่า ได้ชี้แจงแนวปฏิบัติให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ รง.เพื่อเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในการจ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ รวมถึงเชิญชวนแรงงานให้เข้าร่วมทดสอบมาตรฐานฝีมือ อย่างไรก็ตามในระยะแรกช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี จะให้โอกาสนายจ้างได้ปรับตัว ด้วยการใช้วิธีตักเตือนก่อน หลังจากนั้น หากนายจ้างยังไม่จ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือก็จะมีความผิดตามมาตรา 144 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังขอให้หน่วยงานของ รง.ประสานหน่วยงานรัฐ และผู้ประกอบการจ้างงานคนพิการตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจ้างงานคนพิการและการส่งเงินเข้ากองทุนคนพิการที่ให้ปรับอัตราส่วนรับคนพิการเข้าทำงานจากรับคนปกติ 200 คนและรับคนพิการเข้าทำงาน 1 คนเป็นรับคนปกติ 100 คน และรับคนพิการ 1 คนซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
นพ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า กระทรวงตั้งเป้าจะดำเนินการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือให้ได้ 120 สาขา ภายในกลางปีหน้า โดยประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ฉบับที่ 2 อีก 11 สาขา จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ขณะเดียวกัน ได้ให้คณะอนุกรรมการค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ศึกษาวิเคราะห์ตัวเลขที่เหมาะสมของอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือชุดใหม่ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายในการปรับขึ้นค่าจ้างเป็น 300 บาทต่อวันของรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากขณะนี้อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในหลายสาขายังต่ำกว่า 300 บาท
ทั้งนี้ สำหรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 11 สาขา แรกที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เช่น ช่างซ่อมไมโครคอมพิวเตอร์ระดับ 1 ได้ค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน ระดับ 2 ได้ 400 บาท ระดับ 3 ได้ 500 บาท ช่างซ่อมรถยนต์ระดับ 1 ได้ 275 บาท ระดับ 2 ได้ 360 บาท ระดับ 3 ได้ 445 บาท และผู้ประกอบการอาหารไทย ระดับ 1 ได้ 280 บาทต่อวัน ระดับ 2 ได้ 360 บาทต่อวัน
“ขณะนี้กระทรวงแรงงาน กำลังเตรียมจัดทำนโยบายด้านแรงงานเพื่อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกระทรวง เช่น การจัดระบบแรงงานต่างด้าว การพัฒนาฝีมือแรงงาน การเพิ่มค่าครองชีพ การส่งเสริมให้คนไทยมีอาชีพ” ปลัด รง.กล่าว
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมในการบังคับใช้ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานใน 11 สาขาแรก ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ ว่า ได้ชี้แจงแนวปฏิบัติให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ รง.เพื่อเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในการจ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ รวมถึงเชิญชวนแรงงานให้เข้าร่วมทดสอบมาตรฐานฝีมือ อย่างไรก็ตามในระยะแรกช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี จะให้โอกาสนายจ้างได้ปรับตัว ด้วยการใช้วิธีตักเตือนก่อน หลังจากนั้น หากนายจ้างยังไม่จ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือก็จะมีความผิดตามมาตรา 144 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังขอให้หน่วยงานของ รง.ประสานหน่วยงานรัฐ และผู้ประกอบการจ้างงานคนพิการตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจ้างงานคนพิการและการส่งเงินเข้ากองทุนคนพิการที่ให้ปรับอัตราส่วนรับคนพิการเข้าทำงานจากรับคนปกติ 200 คนและรับคนพิการเข้าทำงาน 1 คนเป็นรับคนปกติ 100 คน และรับคนพิการ 1 คนซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
นพ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า กระทรวงตั้งเป้าจะดำเนินการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือให้ได้ 120 สาขา ภายในกลางปีหน้า โดยประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ฉบับที่ 2 อีก 11 สาขา จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ขณะเดียวกัน ได้ให้คณะอนุกรรมการค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ศึกษาวิเคราะห์ตัวเลขที่เหมาะสมของอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือชุดใหม่ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายในการปรับขึ้นค่าจ้างเป็น 300 บาทต่อวันของรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากขณะนี้อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในหลายสาขายังต่ำกว่า 300 บาท
ทั้งนี้ สำหรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 11 สาขา แรกที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เช่น ช่างซ่อมไมโครคอมพิวเตอร์ระดับ 1 ได้ค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน ระดับ 2 ได้ 400 บาท ระดับ 3 ได้ 500 บาท ช่างซ่อมรถยนต์ระดับ 1 ได้ 275 บาท ระดับ 2 ได้ 360 บาท ระดับ 3 ได้ 445 บาท และผู้ประกอบการอาหารไทย ระดับ 1 ได้ 280 บาทต่อวัน ระดับ 2 ได้ 360 บาทต่อวัน
“ขณะนี้กระทรวงแรงงาน กำลังเตรียมจัดทำนโยบายด้านแรงงานเพื่อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกระทรวง เช่น การจัดระบบแรงงานต่างด้าว การพัฒนาฝีมือแรงงาน การเพิ่มค่าครองชีพ การส่งเสริมให้คนไทยมีอาชีพ” ปลัด รง.กล่าว
