xs
xsm
sm
md
lg

ชีวาทัยปรับแผนรุกแนวราบ หวังรับรู้รายได้เร็วรับแผนเข้าตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ทีอีอี กรุ๊ป ทุนสิงค์โปร์สั่งชีวาทัยลุยซื้อที่ดินตุน เตรียมพัฒนาที่อยู่อาศัย หลังเลือกตั้งเสร็จรัฐบาลครองเสียงข้างมาก การเมืองมีเสถียรภาพ คาดความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้น ปรับแผนลุยดครงการแนวราบหวังรับรู้รายได้เร็ว เผยเตรียมแผนแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้าเปิดแนวราบปีละ 2-3 โครงการ คอนโค 1 โครงการ ขณะที่ปี 55 ลุยพัฒนาโครงการแนวราบ ใจกลางเมือง หวังขายเร็ว รักษาระดับรายได้ คงที่หลังไม่มียอดโอนคอนโด

นายบุญ ชุน เกียรติ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ชีวาทัย จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่ม ทีอีอี กรุ๊ป ซึ่งเป็นร่วมทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นในชีวาทัย มีนโยบายให้บริษัทเร่งซื้อที่ดินสะสมเพื่อรอการพัฒนาในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากเห็นว่าหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นพรรคการเมืองที่ชนะครองเสียงข้างมากในสภา ทำให้เชื่อว่าในระยะกลางการเมืองของไทยจะมีสเถียรภาพ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น กล้าจับจ่ายใช้สอย

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมตัวเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั้นขึ้นอยู่กับความพร้อม สำหรับการเตรียมตัวนั้นเริ่มตั้งแต่การรับรู้รายได้จากการขายที่สม่ำเสมอ โดยตั้งเป้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมปีละอย่างน้อย 1 โครงการและโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ อีกปีละ 2-3 โครงการ โดยต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อโครงการอาคารสำนักงานและโรงแรมเพื่อเสริมรายได้ระยะยาวให้แก่บริษัท ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าของอาคารหลายแห่งมาเสนอขายให้ แต่ส่วนใหญ่มีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องใบอนุญาตผิดประเภท หมดอายุ

ปัจจุบันบริษัทมีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างขาย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวาทัย สุรวงศ์ ปัจจุบันเหลือขายประมาณ 10%, โครงการชีวาทัย ราชปรารภ เหลือขาย 20% มูลค่าโครงการรวม 1,600 ล้านบาท และโครงการชีวาทัย รามคำแหง มูลค่า 1,000 ล้านบาท เหลือขาย 65%

ในปีนี้จะรับรู้รายได้จากโครงการที่ราชปรารภที่สร้างแล้วเสร็จและทะยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนโครงการที่รามคำแหงจะแล้วเสร็จก่อนเดือนเมษายน 2556 โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี2555 และเพื่อให้มีรายได้ต่อเนื่อง บริษัทจึงเร่งซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบ เน้นโครงการขนาดเล็กใกล้เมือง เช่น พระราม 3, อุดมสุข, บางนา, ลาดพร้าว และเย็นอากาศ ทั้งนี้โครงการทาวน์เฮาส์ในเมืองจะมีราคาสูงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเชื่อว่ายังมีกำลังซื้อในกลุ่มนี้อีกมาก

ล่าสุดซื้อที่ดินย่านเย็นอากาศขนาด 15 ไร่ พัฒนาเป็นทาวน์โฮม จำนวน 70-100 ยูนิต ราคา 15-20 ล้านบาท, ที่ดินย่านพระราม 3 ขนาด7 ไร่ พัฒนาเป็นทาวน์โฮมจำนวน 30-40 ยูนิต ราคา 15-20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังนำที่ดินของคนในตระกูลพานิชชีวะ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในซ.แบริ่ง ถนนสุขุมวิท 107 ขนาด 50 - 60ไร่ พัฒนาในรูปแบบผสมผสานขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและขออนุญาตก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น