ASTVผู้จัดการรายวัน - วินเซอร์” เผยแผนระยะยาว5ปี ทุ่มงบกว่า500ล้าน ลงทุนพัฒนาสินค้า ขยายกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านไวนิล -ขยายโรงานผลิตวัสดุกลุ่มAdvance Material ตั้งเป้า5รายได้รวมบริษัท4,000-5,000ล้านบาท พร้อมปีดันแชร์สินค้าตกแต่งกลุ่มไวนิลในตลาดรวมโดย30-40% จากมูลค่ารวมตลาดสินค้าวัสดุตกแต่งบ้านทุกชนิดรวมกว่า25,000ล้านบาท เดินหน้าสร้างการรับรู้ลูกค้าเจาะกลุ่มสถาปนิก-โครงการจัดสรร
นายปรเมศวร์ นิสากรเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในเครือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยหรือ SCG ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งไวนิล ภายใต้แบรนด์วินเซอร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้ขออนุมัติงบประมาณเพื่อลงทุนพัฒนาสินค้าและขยายกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มไวนิล และลงทุนโรงานผลิตวัสดุกลุ่มAdvance Material จากกรรมการบริหารบริษัทจำนวน500ล้านบาท โดยแบ่งงบประมาณออกเป็น2ส่วนประกอบด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไวนิลและพัฒนาโปรดักส์ใหม่250ล้านบาท ส่วนที่เหลือ250ล้านบาทจะนำไปลงทุนเพิ่มกำลังผลิตและพัฒนาสินค้ากลุ่ม Advance Material
สำหรับสินค้าในกลุ่มAdvance Material นั้นจะเป็นสินค้าใหม่ที่มีการผสมผสานระหว่างไวนิลและวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อเข้ามาเจาะตลาดวัสดุตกแต่งภายนอก อาทิ ระแนง บังใบ พื้นไม้ทดแทน ฯลฯ ซึ่งทนทานต่อสภาพแวดล้อม โดยตั้งเป้าว่าในระยะ5 ปีจากนี้จะมีกำลังการผลิตในกลุ่มAdvance Material รวม10,000ตันต่อปี หลังจากช่วงก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการทดสอบตลาดแล้วระยะหนึ่งซึ่งพบว่ามีการขยายตัวในทิศทางที่ดี โดยบริษัทตั้งเป้าว่าวัสดุตกแต่งในกลุ่มนี้จะมียอดขายเติบโตได้ปีละ 15% และมีแชร์ในตลาดที่30-40%
อย่างไรก็ตามการใช้งบลงทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายกำลังการผลิตสินค้าทั้ง2กลุ่มดังกล่าวกว่า500 ล้านบาทในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเห็นถึงทิศทางการขยายตัวของกลุ่มตลาดสินค้าดังกล่าว โดยเฉพาะในกลุ่มของสินค้าตกแต่งไวนิล ซึ่งมีอัตราการขยายตัวต่อปีสูงมาก โดยในปีนี้บริษัทประมาณการว่าตลาดรวมสินค้าตกแต่งไวนิลจะมีอัตราการขยายตัวสูงถึง40% โดยในปีนี้บิษัทตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าไวนิล 20% หรือมียอดขายรวม1,400ล้านบาท
“บริษัทได้วางแผนการขยายตลาดระยะยาว5ปี โดยการเพิ่มกำลังการผลิตและเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการสร้างการรับรู้และการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมารองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าว่าในระยะ5ปีจากนี้บริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 4,000-5,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันการทำตลาดและเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการจัดกิจกรรมสร้างการให้ความรู้ และสร้างการรับรู้ของตัวผลิตภัณฑ์สินค้าตกแต่งบ้านไวนิล ในกลุ่มผู้บริโภคของบริษัทจะเป็นตัวผลักดันให้สินค้ากลุ่มไวนิลสามารถเติบโตและเข้าไปแชร์ตลาดรวมวัสดุตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในช่วง5ปีกลุ่มสินค้าไวนิลจะมีแชร์กลุ่มวัสดุตกแต่งจากตลาดรวม ซึ่งมีมูลค่ากว่า25,000ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น30-40% จากเดิมที่แชร์อยู่10%”
ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทเป็นผู้บุกเบิกตลาดวัสดุตกแต่งบ้านไวนิล โดยการสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าและขยายตลาดมาอย่างต่อเนื่องกว่า 11ปี จนประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดผลิตภัณฑ์ไวนิล เพื่องานตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่าง จนส่งผลให้ในปัจจุบัน สินค้าแบรนด์ “วินเซอร์และพันธมิตร” มียอดขายรวม1,200ล้านบาทหรือมีแชร์ในตลาดผลิตภัณฑ์ไวนิลประเภทประตูและหน้าต่างจากตลาด ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า2,000ล้านบาทกว่า80%
โดยรายได้ของบริษัทมาจากการขายสินค้าเข้าโครงการจัดสรร 40% ส่วนที่เหลือ60% เป็นการขายปลีกให้แก่ลูกค้ากลุ่มบริษัทก่อสร้างและโครงการภาครัฐ รวมถึงการขายตรงในกลุ่มผู้บริโภค โดยลูกค้าทั้ง2 กลุ่มจะซื้อสินค้าได้ซอปของบริษัทมในร้านค้าไทยซิเมนต์โฮมาร์ท และสั่งซื้อสินค้าพร้อมประกอบติดตั้งผ่านสมาชิกแฟรนไชส์ซีของบริษัทซึ่งเปิดสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 40ราย
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ไวนิลเพื่อตกแต่งบ้านในปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าในกลุ่มประตูและหน้าต่าง2,000 ล้านบาท สินค้ากลุ่มตกแต่งภายใน500ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก2,500ล้านบาทเป็นกลุ่มสินค้าที่ตกแต่งอื่นๆ อาทิรางน้ำฝน โต๊ะ เก้าอี้ ศาลาพักร้อน ฯลฯ อย่างไรก็ตามกลุ่มสินค้าไวนิล เพื่องานตกแต่งบ้านนั้นถือว่ามีแชร์อยู่กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านชนิดอื่นๆ เช่น ไม้ อลูมิเนียม พลาสติก ฯในปัจจุบันจำนวนน้อยมาก โดยมีแชร์อยู่เพียง10% จากมูลค่ารวมตลาดวัสดุตกแต่งบ้านโดยประมาณ 25,000 ล้านบาท
“ ตัวเลขตลาดรวมดังกล่าว เราประมาณการจากยอดงานก่อสร้างบ้านทั่วประเทศในแต่ละปี ซึ่งในแต่ละจะมียอดบ้านสร้างใหม่ ทั้งในโครงการจัดสรรและบ้านสร้างเองจากทั่วประเทศรวมกว่า500,000หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรรและโครงการคอนโดมิเนียมในกทม.และต่างจังหวัดประมาณ 50,000 หน่วยต่อปี ส่วนที่เหลือเป็นบ้านส้รางเองในกทม.และต่างจังหวัด ซึ่งประมาณการตัวเลขจากการใช้วัสดุตกแต่งบ้านโดยรวมได้กว่า25,000ล้านบาท”
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายตลาด สร้างการรับรู้ในตัวสินค้า รวมถึงการสร้างการรับรู้ในคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตกแต่งกลุ่มไวนิล บริษัทจะเน้นจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่กลุ่มสถาปนิค และกลุ่มผู้ประกอบการโครงการจัดสรร ซึ่งเป็นการให้ความรู้ในกลุ่มผู้ประกอบการที่จะนำสินค้าไปใช้ในการพัฒนาดครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเพิ่ม”
นายปรเมศวร์ นิสากรเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในเครือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยหรือ SCG ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งไวนิล ภายใต้แบรนด์วินเซอร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้ขออนุมัติงบประมาณเพื่อลงทุนพัฒนาสินค้าและขยายกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มไวนิล และลงทุนโรงานผลิตวัสดุกลุ่มAdvance Material จากกรรมการบริหารบริษัทจำนวน500ล้านบาท โดยแบ่งงบประมาณออกเป็น2ส่วนประกอบด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไวนิลและพัฒนาโปรดักส์ใหม่250ล้านบาท ส่วนที่เหลือ250ล้านบาทจะนำไปลงทุนเพิ่มกำลังผลิตและพัฒนาสินค้ากลุ่ม Advance Material
สำหรับสินค้าในกลุ่มAdvance Material นั้นจะเป็นสินค้าใหม่ที่มีการผสมผสานระหว่างไวนิลและวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อเข้ามาเจาะตลาดวัสดุตกแต่งภายนอก อาทิ ระแนง บังใบ พื้นไม้ทดแทน ฯลฯ ซึ่งทนทานต่อสภาพแวดล้อม โดยตั้งเป้าว่าในระยะ5 ปีจากนี้จะมีกำลังการผลิตในกลุ่มAdvance Material รวม10,000ตันต่อปี หลังจากช่วงก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการทดสอบตลาดแล้วระยะหนึ่งซึ่งพบว่ามีการขยายตัวในทิศทางที่ดี โดยบริษัทตั้งเป้าว่าวัสดุตกแต่งในกลุ่มนี้จะมียอดขายเติบโตได้ปีละ 15% และมีแชร์ในตลาดที่30-40%
อย่างไรก็ตามการใช้งบลงทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายกำลังการผลิตสินค้าทั้ง2กลุ่มดังกล่าวกว่า500 ล้านบาทในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเห็นถึงทิศทางการขยายตัวของกลุ่มตลาดสินค้าดังกล่าว โดยเฉพาะในกลุ่มของสินค้าตกแต่งไวนิล ซึ่งมีอัตราการขยายตัวต่อปีสูงมาก โดยในปีนี้บริษัทประมาณการว่าตลาดรวมสินค้าตกแต่งไวนิลจะมีอัตราการขยายตัวสูงถึง40% โดยในปีนี้บิษัทตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าไวนิล 20% หรือมียอดขายรวม1,400ล้านบาท
“บริษัทได้วางแผนการขยายตลาดระยะยาว5ปี โดยการเพิ่มกำลังการผลิตและเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการสร้างการรับรู้และการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมารองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าว่าในระยะ5ปีจากนี้บริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 4,000-5,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันการทำตลาดและเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการจัดกิจกรรมสร้างการให้ความรู้ และสร้างการรับรู้ของตัวผลิตภัณฑ์สินค้าตกแต่งบ้านไวนิล ในกลุ่มผู้บริโภคของบริษัทจะเป็นตัวผลักดันให้สินค้ากลุ่มไวนิลสามารถเติบโตและเข้าไปแชร์ตลาดรวมวัสดุตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในช่วง5ปีกลุ่มสินค้าไวนิลจะมีแชร์กลุ่มวัสดุตกแต่งจากตลาดรวม ซึ่งมีมูลค่ากว่า25,000ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น30-40% จากเดิมที่แชร์อยู่10%”
ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทเป็นผู้บุกเบิกตลาดวัสดุตกแต่งบ้านไวนิล โดยการสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าและขยายตลาดมาอย่างต่อเนื่องกว่า 11ปี จนประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดผลิตภัณฑ์ไวนิล เพื่องานตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่าง จนส่งผลให้ในปัจจุบัน สินค้าแบรนด์ “วินเซอร์และพันธมิตร” มียอดขายรวม1,200ล้านบาทหรือมีแชร์ในตลาดผลิตภัณฑ์ไวนิลประเภทประตูและหน้าต่างจากตลาด ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า2,000ล้านบาทกว่า80%
โดยรายได้ของบริษัทมาจากการขายสินค้าเข้าโครงการจัดสรร 40% ส่วนที่เหลือ60% เป็นการขายปลีกให้แก่ลูกค้ากลุ่มบริษัทก่อสร้างและโครงการภาครัฐ รวมถึงการขายตรงในกลุ่มผู้บริโภค โดยลูกค้าทั้ง2 กลุ่มจะซื้อสินค้าได้ซอปของบริษัทมในร้านค้าไทยซิเมนต์โฮมาร์ท และสั่งซื้อสินค้าพร้อมประกอบติดตั้งผ่านสมาชิกแฟรนไชส์ซีของบริษัทซึ่งเปิดสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 40ราย
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ไวนิลเพื่อตกแต่งบ้านในปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าในกลุ่มประตูและหน้าต่าง2,000 ล้านบาท สินค้ากลุ่มตกแต่งภายใน500ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก2,500ล้านบาทเป็นกลุ่มสินค้าที่ตกแต่งอื่นๆ อาทิรางน้ำฝน โต๊ะ เก้าอี้ ศาลาพักร้อน ฯลฯ อย่างไรก็ตามกลุ่มสินค้าไวนิล เพื่องานตกแต่งบ้านนั้นถือว่ามีแชร์อยู่กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านชนิดอื่นๆ เช่น ไม้ อลูมิเนียม พลาสติก ฯในปัจจุบันจำนวนน้อยมาก โดยมีแชร์อยู่เพียง10% จากมูลค่ารวมตลาดวัสดุตกแต่งบ้านโดยประมาณ 25,000 ล้านบาท
“ ตัวเลขตลาดรวมดังกล่าว เราประมาณการจากยอดงานก่อสร้างบ้านทั่วประเทศในแต่ละปี ซึ่งในแต่ละจะมียอดบ้านสร้างใหม่ ทั้งในโครงการจัดสรรและบ้านสร้างเองจากทั่วประเทศรวมกว่า500,000หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรรและโครงการคอนโดมิเนียมในกทม.และต่างจังหวัดประมาณ 50,000 หน่วยต่อปี ส่วนที่เหลือเป็นบ้านส้รางเองในกทม.และต่างจังหวัด ซึ่งประมาณการตัวเลขจากการใช้วัสดุตกแต่งบ้านโดยรวมได้กว่า25,000ล้านบาท”
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายตลาด สร้างการรับรู้ในตัวสินค้า รวมถึงการสร้างการรับรู้ในคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตกแต่งกลุ่มไวนิล บริษัทจะเน้นจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่กลุ่มสถาปนิค และกลุ่มผู้ประกอบการโครงการจัดสรร ซึ่งเป็นการให้ความรู้ในกลุ่มผู้ประกอบการที่จะนำสินค้าไปใช้ในการพัฒนาดครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเพิ่ม”