ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กระแสพรรคเพื่อไทย ที่บรรดาโพลสำนักต่างๆ เปิดเผยออกมาในตอนแรกก็ล้วนไปในทางเดียวว่า พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำทัพของหุ่นเชิด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะนอนมาคว้าอันดับหนึ่งในการขนส.ส.เข้าสภามากที่สุด แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงขณะนี้มันก็ชักไม่แน่ไม่นอน
คะแนนนิยมทั้งปูแดงและพรรคเพื่อไทยที่ว่ากันว่า จะ “แลนด์สไลด์” ก็กลับกลายเป็นเริ่มทิ้งห่างกันไม่มากนักเสียแล้ว โดยเฉพาะหลังโดนระเบิดลูกใหญ่ของทางพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงกลางกล่องดวงใจ ด้วยข้อหาที่ว่า นช.ทักษิณ พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดงคือยี่ห้อเดียวกัน ก็คือกลุ่มคนที่เผาบ้านเผาเมือง คิดแค่จะนิรโทษกรรมคนคนเดียว หรือแม้กระทั่งเป็นกลุ่มคนที่คิดล้มล้างสถาบัน
ทุกข้อกล่าวหาเป็นชนักติดตัวจนยากที่จะปฏิเสธได้ หรือเรียกว่าดิ้นพล่านเป็นหมูโดดนำร้อนลวกเลยทีเดียวสำหรับพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะไม่ร้อนรนแก้เกมรีบออกแถลงการณ์ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยมีแนวคิดที่จะนิรโทษกรรมให้ทักษิณ ชินวัตร พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่มีหน้าที่ต้องทำงานให้กับประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง พรรคมุ่งมั่นจะรณรงค์หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ และหาทางออกให้กับประเทศไทย
แต่ไม่ว่าจะอมพระ อมโบสถ์มาพูดก็คงไม่มีใครเชื่อ ในเมื่อความเป็นจริง การปราศรัยหาเสียงช่วงแรกๆ ในภาคอีสานและภาคเหนือ หัวหอกพรรค อย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็นำแคมเปญ “นำทักษิณกลับบ้าน ปลดล็อกนิรโทษกรรม” ไปหาเสียงตามพื้นที่ต่างๆ ที่เจาะจงเฉพาะคนเสื้อแดงอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อดึงกระแสให้กับพรรคเพื่อไทยในช่วงแรกๆ มาแล้ว
ส่วนที่ต้องสร้างภาพว่าไม่เคยพูดถึงการนิรโทษและคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน เป็นการแก้เกมเพียงเพราะเห็นว่า ขืนยังปล่อยให้พรรคเพื่อไทยมีภาพลักษณ์และจุดยืนที่อิงแอบแต่จะช่วย นช.ทักษิณ ก็มีแต่จะได้กระแสกลับคนเสื้อแดงด้วยกันเองเท่านั้น ส่วนกลุ่มคนที่ยังเป็นพลังเงียบมีหวังจะไม่ได้คะแนนเลยก็เป็นได้
ทั้งนี้ หลังจากเลือกที่จะไม่เล่นตามเกมของพรรคประชาธิปัตย์แบบเนียนๆ แล้ว สังคมอุดมปัญญาก็ยังได้รู้เช่นเห็นชาติ “ปูแดง” ชัดเจนขึ้นมาอีกโขทีเดียวในความเข้าใจที่ว่าเธอช่างเป็นเสมือนโคลนนิ่ง ของนช.ทักษิณ แทบทุกกระเบียดนิ้วเสียนี่กระไร ในเรื่องการขายฝันให้กับประชาชนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางและตามเกมการเมืองทัน เพราะเธอเลือกที่จะปล่อยของขายฝันลมๆ แล้งๆ ด้วยนโยบายต่างๆ หากได้เป็นรัฐบาลที่หลายคนฟังแล้วต้องร้องว่า โอ้ จอร์จ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด
อาทิ เงินเดือนขั้นต่ำผู้จบปริญญาตรีสตาร์ท 30,000 บาท หรือจะเป็น เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้แรงงานเป็นคนละถึง 1,000 บาท
ทั้งนี้ ปูแดงที่เคยเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทใหญ่โต เคยผ่านงานมาอย่างโชกโชน ก็ไม่เคยบอกซักคำว่าจะไปเอาเงินส่วนไหนมาทำได้แบบนั้น แล้วถ้าทำแบบนั้นปัญหาเงินเฟ้อจะจัดการอย่างไร แล้วมีหลักรับประกันอะไรว่า บริษัทห้างร้านจะทำตามนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไหนเลยจะข้าวของเครื่องใช้ที่จะถีบตัวขึ้นตามมาอีกเป็นขบวน
เรียกว่า เป็นโครงการโคตะระอภิมหาประชานิยมที่หาเสียงไปอย่างเรื่อยเจื้อย จนน่าจะนำพาประเทศไปสู่ความล่มจมเสียมากกว่า
ขณะเดียวประเด็นที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษอย่างมีนัยสำคัญ ก็คงหนีไม่พ้นการเคลื่อนไหวด้วยยุทธศาสตร์ “โลกล้อมประเทศ” เพื่อเป็นอีกหนึ่งหลักประกันสำหรับการก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ด้วยการเดินทางไปพบเอกอัครราชทูตของประเทศสำคัญที่อยู่ในประเทศไทย
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพบนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยตามคำเชิญของสถานทูตสหรัฐ ที่บ้านพักถนนวิทยุ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าเป็นการเข้าพบโดยส่วนตัว ได้มีการนัดกันไว้นานแล้ว ส่วนรายละเอียดในการพูดคุยไม่สามารถเปิดเผยได้ เพียงแค่คุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
นอกจากนี้ เมื่อไล่ดูคิวเข้าพบทูตจากประเทศต่างๆ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยาวเหยียดเป็นหางว่าว เพราะมีทั้งจากประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา จีน สวิตเซอร์แลนด์ นอรเวย์ รวมไปถึงทูตในทวีปยุโรปหลายๆ ประเทศ ซึ่งหากพิเคราะห์ดูแล้ว คงไม่ใช่อื่นใดนอกเสียจากแผนการเดิมๆ ที่ นช.ทักษิณ ชอบใช้เป็นประจำก็คือแผนโลกล้อมประเทศ
ขณะเดียวกันก็ถือโอกาสดังกล่าวเพื่อหวังผลในการเปิดตัวแบบเน้นย้ำความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้เห็นการยอมรับในตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์จากนานาอารยประเทศ
นอกจากนี้ ทั้งสองศรีพี่น้องยังเปิดหน้าให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศบ่อยครั้งขึ้น เสมือนหนึ่งต้องการสกัด “มือที่มองไม่เห็น” ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับก้อนเค้กแห่งอำนาจของพวกเขา โดยอ้างในเรื่องประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งอันเป็นแผนการที่ใช้เป็นไม้ตายอยู่บ่อยหลายครั้ง ดังเช่นที่ นช.ทักษิณให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีรา อย่างชัดถ้อยชัดคำว่า " ถ้าคุณใช้งบประมาณมหาศาลจัดการเลือกตั้ง เพื่อที่คุณจะไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ถ้าเช่นนั้นอย่ามีการเลือกตั้งเลยจะดีกว่า ซึ่งถ้าต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็ไม่ต้องจัดการเลือกตั้งขึ้นมา แค่เปลี่ยนกฎหมายก็หมดปัญหาแล้ว"
ซ้ำร้ายยังมีการปล่อยของจากลิ่วล้ออย่างนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อที่ขยันสร้างกระแสข่าวปฏิวัติขึ้นมาดักคออีกด้วยซ้ำว่า "อาจจะมีบางกลุ่มไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและออกมาเคลื่อนไหวเหยียบย่ำความต้องการของประชาชน แล้วพยายามพัฒนาสถานการณ์ไปสู่ความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งตรงนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตาม"
อีกทั้ง นช.ทักษิณ ก็ยังไม่วายยืมมือคนเสื้อแดงมาสร้างอำนาจต่อรองทางการเมืองอีกเช่นเคย ล่าสุดก็ตัดสินใจเลือกที่จะให้ความสำคัญกับกองกำลังเสื้อแดง โดยโฟนอินเข้ามาที่หมู่บ้านเสื้อแดง จังหวัดอุดรธานี ที่วัดศรีปทุมวนาราม ซึ่งสังคมรู้ดีว่า เป็นหมู่บ้านที่จงรักภักดีกับตัวเขาเป็นที่สุดและพร้อมที่จะปฏิบัติการพิเศษหากได้รับการร้องขอ
นี่คือสงครามใหญ่ช่วงโค้งสุดท้ายที่ดูจะใกล้เคียงความหวังมากที่สุดของการกลับมาเหยียบประเทศไทยอีกครั้งหลังต้องระหกระเหินเร่ร่อนเป็นสัมภเวสีจากคำพิพากษาของศาลซึ่ง นช.ทักษิณทุ่มสุดหน้าตักในทุกยุทธวิธี เพราะ นช.ทักษิณทราบแก่ใจดีว่าโอกาสงามๆ เช่นนี้อาจจะไม่มีวันหวนกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้