ASTVผู้จัดการรายวัน-ส.ท.ช.พร้อมชาวบ้านคล่องด่าน เรียกร้องป.ป.ช.เอาผิดกับนักการเมืองในคดีคล่องด่าน หวังรัฐจะได้ไม่ต้องเสียค่าโง่
วานนี้ (21) เวลา 10.00 น. นายไชยนิรันดร์ พะยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) นายโรจนศักดิ์ แสงศิริวิไล เลขาธิการ นายชาญชัย ไชยนันทน์ กรรมการ พร้อมด้วยสมาชิก ส.ท.ช. และชาวบ้านคลองด่านและบริเวณใกล้เคียงกว่า 200 คน ได้มาเรียกร้องต่อป.ป.ช.ในกรณีโครงการคลองด่าน เนื่องจากคดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนและสรุปผลผู้กระทำผิดในการทุจริต มาให้ ป.ป.ช. นานกว่า 6 ปีแล้ว
"ส.ท.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านคลองด่านและบริเวณใกล้เคียงว่า อดรนทนไม่ไหวที่ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการชี้ขาดเอาผิดกับนักการเมืองที่ทุจริตในคดีคลองด่านเสียที แถมยังคงปล่อยให้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งๆ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่กลับมาเป็นผู้สั่งการหาประโยชน์อยู่เบื้องหลังของหน่วยงานทางด้านพลังงานมาโดยตลอด"
อย่างไรก็ดี การที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษออกมายืนยันว่า จะไม่ยอมรับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยอ้างว่าสัญญาโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้น แต่ฝ่ายกฎหมายของ ส.ท.ช. ได้พิจารณาถึงแนวทางการต่อสู้ข้อพิพาทดังกล่าวของกรมควบคุมมลพิษกับเอกชนในเรื่องนี้ ซึ่งมีข้อสังเกต
1.ศาลแพ่ง จะต้องพิจารณาชี้ขาดโดยเห็นชอบกับมติของอนุญาโตตุลาการ อย่างแน่นอน เว้นเสียแต่จะสามารถ พิสูจน์ได้ว่า สัญญานั้นผิดกฎหมาย หรือเป็นโมฆะ
2.มีการตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมของหน่วยงานรัฐอย่าง กรมควบคุมมลพิษ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ทำไมจึงปล่อยให้มีการตั้งอนุญาโตตุลาการมาตั้งแต่ต้น เพราะการตั้งอนุญาโตตุลาการ ต้องเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายคือ ทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายเอกชน เพราะฉะนั้น ที่อ้างว่าสัญญาโครงการเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้น จึงเป็นหลักฐานที่ฟังไม่ขึ้น หากเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลแพ่ง
3.ในฐานะที่ ส.ท.ช. เป็นองค์การสื่อ จึงอดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า กรณีข้อพิพาทในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่รัฐบาลจ่อคิวเสียค่าโง่ถึง 9,000 ล้านบาทนั้น หน่วยงานรัฐกับเอกชน อาจฮั้วกันจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาลดังกล่าวให้เอกชน
“ถ้า ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายสุวัจน์ว่ากระทำผิดจริงในคดีดังกล่าว ก็จะทำให้ถูกดำเนินคดีทางด้านอาญาทันที จะทำให้ กรมควบคุมมลพิษ นำไปเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดีเสียค่าโง่ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีแพ่งตามคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ ได้อย่างมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือที่เพียงพอ เพราะจะทำให้สัญญาโครงการบ่อบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นโมฆะทันที ในที่สุดกรมควบคุมมลพิษ ไม่จำเป็นต้องนำเงินภาษีของประชาชนไปชำระค่าโง่ให้เอกชน เหมือนหน่วยงานรัฐอื่นๆ”นายไชยนิรันดร์ กล่าว
วานนี้ (21) เวลา 10.00 น. นายไชยนิรันดร์ พะยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) นายโรจนศักดิ์ แสงศิริวิไล เลขาธิการ นายชาญชัย ไชยนันทน์ กรรมการ พร้อมด้วยสมาชิก ส.ท.ช. และชาวบ้านคลองด่านและบริเวณใกล้เคียงกว่า 200 คน ได้มาเรียกร้องต่อป.ป.ช.ในกรณีโครงการคลองด่าน เนื่องจากคดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนและสรุปผลผู้กระทำผิดในการทุจริต มาให้ ป.ป.ช. นานกว่า 6 ปีแล้ว
"ส.ท.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านคลองด่านและบริเวณใกล้เคียงว่า อดรนทนไม่ไหวที่ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการชี้ขาดเอาผิดกับนักการเมืองที่ทุจริตในคดีคลองด่านเสียที แถมยังคงปล่อยให้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งๆ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่กลับมาเป็นผู้สั่งการหาประโยชน์อยู่เบื้องหลังของหน่วยงานทางด้านพลังงานมาโดยตลอด"
อย่างไรก็ดี การที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษออกมายืนยันว่า จะไม่ยอมรับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยอ้างว่าสัญญาโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้น แต่ฝ่ายกฎหมายของ ส.ท.ช. ได้พิจารณาถึงแนวทางการต่อสู้ข้อพิพาทดังกล่าวของกรมควบคุมมลพิษกับเอกชนในเรื่องนี้ ซึ่งมีข้อสังเกต
1.ศาลแพ่ง จะต้องพิจารณาชี้ขาดโดยเห็นชอบกับมติของอนุญาโตตุลาการ อย่างแน่นอน เว้นเสียแต่จะสามารถ พิสูจน์ได้ว่า สัญญานั้นผิดกฎหมาย หรือเป็นโมฆะ
2.มีการตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมของหน่วยงานรัฐอย่าง กรมควบคุมมลพิษ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ทำไมจึงปล่อยให้มีการตั้งอนุญาโตตุลาการมาตั้งแต่ต้น เพราะการตั้งอนุญาโตตุลาการ ต้องเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายคือ ทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายเอกชน เพราะฉะนั้น ที่อ้างว่าสัญญาโครงการเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้น จึงเป็นหลักฐานที่ฟังไม่ขึ้น หากเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลแพ่ง
3.ในฐานะที่ ส.ท.ช. เป็นองค์การสื่อ จึงอดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า กรณีข้อพิพาทในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่รัฐบาลจ่อคิวเสียค่าโง่ถึง 9,000 ล้านบาทนั้น หน่วยงานรัฐกับเอกชน อาจฮั้วกันจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาลดังกล่าวให้เอกชน
“ถ้า ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายสุวัจน์ว่ากระทำผิดจริงในคดีดังกล่าว ก็จะทำให้ถูกดำเนินคดีทางด้านอาญาทันที จะทำให้ กรมควบคุมมลพิษ นำไปเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดีเสียค่าโง่ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีแพ่งตามคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ ได้อย่างมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือที่เพียงพอ เพราะจะทำให้สัญญาโครงการบ่อบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นโมฆะทันที ในที่สุดกรมควบคุมมลพิษ ไม่จำเป็นต้องนำเงินภาษีของประชาชนไปชำระค่าโง่ให้เอกชน เหมือนหน่วยงานรัฐอื่นๆ”นายไชยนิรันดร์ กล่าว