“ปานเทพ” บอก “มาร์ค” อย่าหยิบคดีน้ำจิ้ม “ปลากระป๋องเน่า” คร่ำครวญโชว์สปิริตหาเสียง หากแน่จริงทำไมไม่ยื่น ป.ป.ช.สอบ ชี้ 9 เดือน คนฟ้องคดีต่อ ป.ป.ช. 2,271 คดี แล้วจะบอกซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างไร เผยตัวอย่างอัปยศ “รถไฟสีม่วง” เพิ่มวงเงิน งดภาษี โยกงบในอนาคต แต่ “มาร์ค” ปล่อยผ่านฉลุย ซัดทั้งทุจริต แก้ปมเขาวิหารไม่ได้ ปล่อยให้เผาบ้านเผาเมือง ยังมีหน้ามาขอคะแนนอีก
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เขียนเฟซบุ๊กรอบสอง “จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ” ว่า คงคิดตอบโต้ตน หลังจากเคยพูดเรื่องกฎเหล็ก 9 ข้อ กลายเป็นกฎเด็ก เพื่อบอกว่าเขาเป็นคนรักษาบรรทัดฐานทางการเมือง ด้วยการยกกรณีปลากระป๋องเน่า จัดการให้นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งกรรมการสอบ จนเห็นผลในที่สุดไม่เป็นความผิด เรื่องนี้ ตนเห็นว่าผลมันก็ต้องออกมาในรูปนี้อยู่แล้วก็เล่นไปตั้งคณะกรรมการโดยรัฐบาลเอง หากแน่จริงทำไมไม่ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ส่วนกรณี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตจากคนใกล้ชิด ยังบอกให้บรรดาเลขาฯ ที่ปรึกษาของนายวิทยาลาออกทั้งชุด เมื่อมีข้อพาดพิงถึงรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีช่วย ก็ไม่ละเลยที่จะตั้ง นพ.บรรลุ ศิริพานิช เข้าตรวจสอบ พร้อมให้อิสระเต็มที่รัฐบาลไม่เข้าไปก้าวก่าย เมื่อผลออกมา รมต.สาธารณสุข ควรรับผิดแม้ไม่มีอะไรชี้วัดว่าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่นายวิทยาก็ไม่ยึดติดกับตำแหน่งลาออกทันที ตรงนี้ต้องตั้งคำถามว่าทำไมไม่ยืน ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าทุจริตหรือไม่
นายปานเทพกล่าวว่า อย่างไรก็ดี หากจะดูว่าสุจริตหรือไม่ วัดได้จากโพลหอการค้าที่เขาไปสำรวจบรรดานักธุรกิจที่ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้นักการเมือง พบเป็นรัฐบาลที่ทุจริตอย่างมาก บางโครงการกิน 40-50% ที่สำคัญตนไปตรวจสอบคดีที่คนไปยื่นต่อ ป.ป.ช.มา พบว่าภายใน 9 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 52 - ม.ย.53 มีคดีร้องเรียนเป็นคดีมาถึง 2,271 คดี ดังนั้น ที่นายอภิสิทธิ์ ยกตัวอย่างมาจึงเป็นเพียงการหยิบยกแค่บางประเด็น ที่สร้างภาพแอ็กชันไว้แล้วมาให้ดูว่าเสมือนว่าโปร่งใส แต่อีกกว่า 2,000 คดี ปัญหาใหญ่ๆ มากมายไม่พูดถึง แล้วอย่างนี้จะมาบอกได้อย่างไรว่าซื่อสัตย์สุจริต
ทั้งนี้ เดี๋ยวคนจะหาว่าตนใสความกล่าวหาลอยๆ จึงขอยกตัวอย่าง เรื่องรถไฟฟ้าสายสีม่วง เมื่อวันที่ 2 ต.ค.50 รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เห็นชอบในกรอบวงเงิน 31,000 ล้านบาท ต่อมา 17 มิ.ย. รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เพิ่มงบเป็น 36,000 ล้าน ปัญหาในการเพิ่มวงเงินครั้งนี้ควรใช้หลักการที่ถูกต้อง ด้วยการประเมินวัสดุในแต่ละรายการว่าได้รับผลกระทบเท่าไรจากน้ำมันขึ้นราคา กลับไปใช้วิธีเอาตัวแปลเดือน ก.พ.ปี 51 มาคูณ เพื่อช่วยเหลือผู้รับเหมาก่อสร้าง เมื่อราคาน้ำมันลดลงจาก 140 เหรียญต่อบาร์เรล เป็น 40 เหรียญต่อบาร์เรล ปกติราคากลางควรลดลงแต่ไม่ลด เพราะมีขบวนการต่อรองโยกงบส่วนอื่นเติมเข้าไป เช่นงดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับเงินทุนจากต่างประเทศ เติมเข้าไปทำให้ได้เงินเปล่ากำไรเพิ่มขึ้นทันที นอกจากนี้ยังโยกงบในอนาคตมาเติมอีก
ในท้ายที่สุดมีหนังสือจากกระทรวงคมนาคม ถึงนายอภิสิทธิ์เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ เรื่องนี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย หากนายอภิสิทธิ์เห็นว่าไม่โปรงใสต้องยกเลิก แต่นายอภิสิทธิ์ตอบเลี่ยงๆ เอาตัวรอดว่ารับทราบ ไม่ได้เขียนว่าเห็นด้วย แต่ในที่สุดโครงการนี้ก็เดินหน้าต่อไปอย่างน่าอัปยศที่สุด นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่อง ย้ายการบินไทย รถเมล์เอ็นจีวี 40,000 คัน และอื่นๆ อีกกว่า 2,000 คดี ดังนั้น นายอภิสิทธิ์อย่าเอามุกตื้นๆ หยิบโครงการน้ำจิ้ม มาคร่ำครวญหาเสียงกับประชาชน
นายปานเทพกล่าวว่า เมื่อเราเห็นชัดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทุจริต แล้วจะมาเอาคะแนนจากประชาชนได้อย่างไร พ่อค้านักธุรกิจจะเลือกได้อย่างไร เขาทำโครงการได้กำไรแค่ไหนต้องยกให้นักการเมืองแล้วเขาจะอยู่ได้อย่างไรใครจะไปเลือกคุณ ประชาชนที่เสียเลือดเสียเนื้อกับการต่อต้านทุจริต เมื่อคุณได้เป็นรัฐบาลแล้วหยุดไม่ได้ ยังจะมีหน้ามาเรียกร้องขอคะแนนจากประชาชนอีก อธิปไตยของชาติตอนเป็นฝ่ายค้านก็พูดได้เป็นฉากๆ บอกยอมไม่ได้หากต้องเสียพื้นที่รอบปราสาท เดียวนี้ไม่พูดถึงพูดแต่แผนบริหารจัดการ
การที่ประชาชนไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกี่ยวว่าอยู่ข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เขาเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไร้ความสามารถต่อกรกับ พ.ต.ท.ทักษิณต่างหาก เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง ก็ไปสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐไปประกันตัว วันนี้ยังมีหน้ามาบอกประเทศไทยอย่าปล่อยให้มันเผาอีก หากถามว่าตอนเผาใครเป็นรัฐบาลก็พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วทำไมปล่อยให้เผาบ้านเผาเมือง อย่างนี้การที่หมอตุลย์กับนายแก้วสรรไปร้องดีเอสไอ กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลืมไปหรือป่าวว่าต้องยื่นต่อ ป.ป.ช.ด้วยว่ารัฐบาลละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
“ทางเลือกเหลือแค่ทางเดียว หากพี่น้องประชาธิปัตย์ มีจิตใจเป็นธรรมเห็นด้วยกับความสามารถที่เราต่อสู้มา 6 ปี หย่อนบัตรครั้งนี้ช่วยกาในช่องไม่เลือกใคร เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ภาคประชาชน เลือกพรรคไหนไปก็ยิ่งสร้างความชอบธรรมให้ระบอบทักษิณ เขาถึงได้รณรงค์โหวตเยส หากไม่อยากเป็นเหยื่อในชัยชนะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องโหวตโน”
