ASTVผู้จัดการรายวัน- เปิดเอกสารลับการทุจริตคดีคลองด่าน อาจโยงนักการเมืองแห่งโคราช ที่เกี่ยวโยงอภิมหาโครงการสุดฉาว! สทช.หวั่นลอยนวลเหมือนผู้ต้องหาที่หนีคดีไปกัมพูชา หรือเคสสนามกอล์ฟอัลไพน์-สินเชื่อแบงก์ธอส. ตัวอย่างสุดเน่า!
คงจำกันได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้ออกมาระบุว่าถึงประเด็นที่สังคมคาใจคือ “ กรณีคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่มีนักการเมืองขี้ฉ้อโกงภาษีของประชาชนผ่านขบวนการทุจริตและคอรัปชั่นมากกว่า 23,000 ล้านบาทขาดอายุความหรือไม่ ” โดยขณะนี้ ในส่วนของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.กระทรวงมหาดไทย ได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศกัมพูชา หลังจากปปช.ได้ชี้มูลความผิดทางอาญา จนกระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุกนายวัฒนา 10 ปี
ส่วนเรื่องที่ปปช.ชี้แจงในกรณี ที่มีการกล่าวหานายวัฒนา เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่กรมที่ดินและบรรดาเอกชนทั้งหลาย ร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขณะนี้ปปช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ที่มีนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการปปช.เป็นประธานได้ไต่สวนปากคำไปแล้ว 130 ราย รวมเอกสารหลักฐานกว่า 30,000 แผ่น ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนหลายรายเกี่ยวข้องเข้าข่ายมีพฤติการณ์ทุจริต และอยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับยืนยันว่า คดีคลองด่านยังไม่ขาดอายุความ และจะสามารถสรุปสำนวนไต่สวนเสนอให้ปปช.วินิจฉัยได้ในช่วงต้นปี 2554
นายไชยนิรันทร์ พยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ(สทช.)ในฐานะที่เกาะติดคดีคลองด่านมาอย่างต่อเนื่อง ออกมาระบุว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวคลองด่าน ให้ดำเนินการเอาผิดกับนักการเมืองที่ทำทุจริตในขณะนั้น
ซึ่งโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านได้สร้างความเสียหายให้แก่เงินภาษีของประชาชนมากถึง 23,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา สทช.ได้ยื่นหนังสือถึงร้องต่อปปช. 5 ครั้ง เพื่อให้ชี้มูลนักการเมืองรายหนึ่ง ที่ยังลอยนวลในคดีคลองด่าน โดยก่อนหน้านี้ ทาเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุชัดว่าใครทำผิดไปบ้างแล้ว ก่อนส่งเรื่องให้ปปช.พิจารณาชี้มูลความผิดตั้งแต่ปี 2548 โดยขณะนี้คดีคลองด่านอยู่ในขบวนการพิจารณาไต่สวนคดีของปปช.เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี
“ผมให้สัมภาษณ์สื่อชัดเจนว่า ขณะนี้เหลือเพียงนักการเมืองเพียงรายเดียวคือ ที่มีความผิดในฐานะรัฐมนตรีผู้อนุมัติโครงการและความผิดในฐานะโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียไม่ผ่านEIA รวมทั้งความผิดที่ไม่ได้เสนอให้ครม.อนุมัติ แต่เสนอให้เป็นวาระเพื่อทราบเท่านั้น " นายไชยนิรันทร์กล่าวและว่า
" เรามีความกังวลว่า คดีคลองด่านจะหมดอายุความเหมือนคดีโคตรโกงอื่นๆ ทั้งคดีผู้บริหารธอส.ปล่อยกู้ให้ภรรยาตัวเอง ทำให้ธอส.เสียหายร่วม 1,000 ล้านบาท หรือเช่นเดียวกับ สนามกอล์ฟอัลไพน์ที่ เสนาะ เทียนทอง ตกเป็นผู้ต้องหา ก็ยังหลุดคดี เนื่องจากคดีขาดอายุความไปเพียงวันเดียว
เปิดหลักฐานลับมัดนักเมืองขาใหญ่แห่งโคราช
นายไชยนิรันทร์ กล่าวว่า สทช.ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนในคดีคลองด่านไปยังปปช.ถึง 5 ครั้ง และทางปปช.ออกมายืนยัน คดียังไม่ขาดอายุความ ในประเด็นนี้ ทาง สทช. ต้องถามว่า คดีที่ยังไม่ขาดอายุความนั้น หมายถึงใคร
ทั้งนี้ ตามเอกสารลับ ระบุว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้แก่ปปช. เพื่อให้ดำเนินคดีกับนักการเมืองรายหนึ่ง ตามหนังสือเลขที่ ยธ.0800/97 ลงวันที่ 15 มกราคม 2547 ต่อมา นักการเมืองดังกล่าว ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี มีบันทึกลงวันที่ 30 มีนาคม 2548 ส่งเรื่องไปยังเลขาปปช.เพื่อประกอบการพิจารณา ตามหนังสือที่ ยธ.0201(1)/001 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2548 และหนังสือที่ ยธ.0201(1) ซึ่งเลขาธิการปปช.ได้รับหนังสือทั้งสองฉบับไว้แล้ว โดยผู้รับคือ นางศิรินุช ศิริธนะพันธ์ และนางสาวสุวธิรา ขันติเมตตา
รวมทั้งกรณีที่นักการเมืองคนดังกล่าว ได้เคยชี้แจงเรื่องนี้ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น และนายวิษณุ ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังปปช.เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย นอกจากนั้น กรมควบคุมมลพิษ ได้มีหนังสือเลขที่ ทส 0301/023 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2547 กล่าวหาต่อบุคคคดังกล่าว ในข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย.
คงจำกันได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้ออกมาระบุว่าถึงประเด็นที่สังคมคาใจคือ “ กรณีคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่มีนักการเมืองขี้ฉ้อโกงภาษีของประชาชนผ่านขบวนการทุจริตและคอรัปชั่นมากกว่า 23,000 ล้านบาทขาดอายุความหรือไม่ ” โดยขณะนี้ ในส่วนของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.กระทรวงมหาดไทย ได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศกัมพูชา หลังจากปปช.ได้ชี้มูลความผิดทางอาญา จนกระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุกนายวัฒนา 10 ปี
ส่วนเรื่องที่ปปช.ชี้แจงในกรณี ที่มีการกล่าวหานายวัฒนา เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่กรมที่ดินและบรรดาเอกชนทั้งหลาย ร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขณะนี้ปปช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ที่มีนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการปปช.เป็นประธานได้ไต่สวนปากคำไปแล้ว 130 ราย รวมเอกสารหลักฐานกว่า 30,000 แผ่น ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนหลายรายเกี่ยวข้องเข้าข่ายมีพฤติการณ์ทุจริต และอยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับยืนยันว่า คดีคลองด่านยังไม่ขาดอายุความ และจะสามารถสรุปสำนวนไต่สวนเสนอให้ปปช.วินิจฉัยได้ในช่วงต้นปี 2554
นายไชยนิรันทร์ พยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ(สทช.)ในฐานะที่เกาะติดคดีคลองด่านมาอย่างต่อเนื่อง ออกมาระบุว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวคลองด่าน ให้ดำเนินการเอาผิดกับนักการเมืองที่ทำทุจริตในขณะนั้น
ซึ่งโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านได้สร้างความเสียหายให้แก่เงินภาษีของประชาชนมากถึง 23,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา สทช.ได้ยื่นหนังสือถึงร้องต่อปปช. 5 ครั้ง เพื่อให้ชี้มูลนักการเมืองรายหนึ่ง ที่ยังลอยนวลในคดีคลองด่าน โดยก่อนหน้านี้ ทาเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุชัดว่าใครทำผิดไปบ้างแล้ว ก่อนส่งเรื่องให้ปปช.พิจารณาชี้มูลความผิดตั้งแต่ปี 2548 โดยขณะนี้คดีคลองด่านอยู่ในขบวนการพิจารณาไต่สวนคดีของปปช.เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี
“ผมให้สัมภาษณ์สื่อชัดเจนว่า ขณะนี้เหลือเพียงนักการเมืองเพียงรายเดียวคือ ที่มีความผิดในฐานะรัฐมนตรีผู้อนุมัติโครงการและความผิดในฐานะโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียไม่ผ่านEIA รวมทั้งความผิดที่ไม่ได้เสนอให้ครม.อนุมัติ แต่เสนอให้เป็นวาระเพื่อทราบเท่านั้น " นายไชยนิรันทร์กล่าวและว่า
" เรามีความกังวลว่า คดีคลองด่านจะหมดอายุความเหมือนคดีโคตรโกงอื่นๆ ทั้งคดีผู้บริหารธอส.ปล่อยกู้ให้ภรรยาตัวเอง ทำให้ธอส.เสียหายร่วม 1,000 ล้านบาท หรือเช่นเดียวกับ สนามกอล์ฟอัลไพน์ที่ เสนาะ เทียนทอง ตกเป็นผู้ต้องหา ก็ยังหลุดคดี เนื่องจากคดีขาดอายุความไปเพียงวันเดียว
เปิดหลักฐานลับมัดนักเมืองขาใหญ่แห่งโคราช
นายไชยนิรันทร์ กล่าวว่า สทช.ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนในคดีคลองด่านไปยังปปช.ถึง 5 ครั้ง และทางปปช.ออกมายืนยัน คดียังไม่ขาดอายุความ ในประเด็นนี้ ทาง สทช. ต้องถามว่า คดีที่ยังไม่ขาดอายุความนั้น หมายถึงใคร
ทั้งนี้ ตามเอกสารลับ ระบุว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้แก่ปปช. เพื่อให้ดำเนินคดีกับนักการเมืองรายหนึ่ง ตามหนังสือเลขที่ ยธ.0800/97 ลงวันที่ 15 มกราคม 2547 ต่อมา นักการเมืองดังกล่าว ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี มีบันทึกลงวันที่ 30 มีนาคม 2548 ส่งเรื่องไปยังเลขาปปช.เพื่อประกอบการพิจารณา ตามหนังสือที่ ยธ.0201(1)/001 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2548 และหนังสือที่ ยธ.0201(1) ซึ่งเลขาธิการปปช.ได้รับหนังสือทั้งสองฉบับไว้แล้ว โดยผู้รับคือ นางศิรินุช ศิริธนะพันธ์ และนางสาวสุวธิรา ขันติเมตตา
รวมทั้งกรณีที่นักการเมืองคนดังกล่าว ได้เคยชี้แจงเรื่องนี้ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น และนายวิษณุ ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังปปช.เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย นอกจากนั้น กรมควบคุมมลพิษ ได้มีหนังสือเลขที่ ทส 0301/023 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2547 กล่าวหาต่อบุคคคดังกล่าว ในข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย.