ปัญหากลั่นแกล้งเด้ง “วงศ์ศักดิ์” “มาร์ค-ภูมิใจห้อย” ติดลบกลุ่มขรก.

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “ทีมข่าวการเมืองASTV ผู้จัดการ” บอกมาตั้งแต่สามสัปดาห์ก่อนว่า ไม่มีทางแน่นอนที่กระทรวงมหาดไทย จะคืนตำแหน่ง “อธิบดีกรมการปกครอง” ให้กับวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งได้แบบง่ายๆ

แล้วก็ถูกต้องทุกประการ

หมากหลายชั้นของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี และชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการ รมว.มหาดไทย ใช้ลูกเล่นยื้อไปจนถึงนาทีสุดท้าย ก่อนจะจบการเลือกตั้ง แล้วค่อยมาว่ากันอีกที

ทั้งที่ ก่อนนี้อภิสิทธิ์ ขีดเส้นตายให้กระทรวงมหาไทย ต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ด้วยการให้คืนตำแหน่งให้วงศ์ศักดิ์ ภายในวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน ซึ่งชวรัตน์ แสดงท่าทียอมทำตามโดยดี จรดปากกาเอาเก้าอี้คืนให้วงศ์ศักดิ์ เมื่อ 10 มิ.ย. 54

แต่ก็แค่หลอกให้ตายใจ

เพราะสุดท้ายก็เล่นยื้อออกไปอีก เมื่อมหาดไทย นำเรื่องชงเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา

ด้วยการให้ครม.เห็นชอบให้ วงศ์ศักดิ์ กลับไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง จากนั้นก็ชงเรื่องใหม่ ในวันเดียวกันโยกไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ที่ว่างอยู่ เพราะอดีตผวจ.คนเดิมลาออกไปหลังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา

ทำกันแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับเล่นแก้ปัญหาไปวันๆ เพียงเพื่อประคองเวลาให้นานที่สุด ไม่ให้วงศ์ศักดิ์ กลับมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองให้ได้ มองได้ชัดว่า ชวรัตน์ และพรรคพวกนักการเมืองภูมิใจไทย คิดอะไรกันอยู่ เพราะการให้วงศ์ศักดิ์ไปเป็น ผวจ.ลำพูน แม้จะซี 10 เท่ากัน แต่ศักดิ์ศรี แตกต่างกันเยอะ ระหว่างผู้ว่าฯ ลำพูน กับอธิบดีกรมการปกครอง

ทำแบบนี้ ดูแล้วก็ชี้ได้ชัดว่า ฝ่ายการเมืองในพรรคภูมิใจไทย และบรรดาลูกสมุนที่เป็นข้าราชการทั้งหลายในกระทรวงมหาดไทย เล่นการเมืองเกินกว่าเหตุ ไม่ได้คำนึงถึงหลักการบริหารราชการที่ต้องเอาหลักความถูกต้อง และคุณธรรม และการคำนึงถึงผลได้ผลเสียของการบริหารราชการเป็นสำคัญ

เราวิจารณ์แบบนี้ไม่ได้มีอคติกับพวกนักการเมืองในกระทรวงมหาดไทย หรือหนุนหลังวงศ์ศักดิ์ โดยไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ฝ่ายการเมือง แต่เราเห็นว่า การบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องใหญ่ จะใช้เรื่องการเมืองมาเป็นตัวตั้ง แล้วบริหารตามอำเภอใจกันไม่ได้

ไม่เชื่อก็ดูมติครม.ที่มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ที่แถลงกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้เริ่มจากครม.ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ คือ

ลำดับแรกให้ครม. เห็นชอบยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 27 เม.ย.53 ให้วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง ( อ.ปค.) และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และ 2 ให้มงคล สุระสัจจะ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (อ.พช.)และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อ.ปค. เป็นผลให้ มงคล พ้นจากตำแหน่ง อ.พช. และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.53

สรุปง่ายๆ ก็คือ คำสั่งแรก มหาดไทยเสนอให้ครม.เห็นชอบยกเลิกมติที่เด้ง วงศ์ศักดิ์จากอธิบดีกรมการปกครอง และตั้งมงคล จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง จากนั้นก็ตั้งเรื่องให้เห็นชอบกับการโยกมงคล ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยแทนวงศ์ศักดิ์

เท่ากับเป็นการเสนอให้ครม. ล้างมติครม.เดิมที่เด้ง วงศ์ศักดิ์ คือให้วงศ์ศักดิ์ เป็นอธิบดีกรมการปกครองไปแล้ว ก็ยกเลิกคำสั่งที่ให้มงคล มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง จากนั้นก็ให้เห็นชอบให้มงคลไปเป็นผู้ตรวจมหาดไทย

ที่แสบกว่านั้นคือ วันเดียวกัน มหาดไทย ก็เสนอให้ครม.เห็นชอบให้ข้าราชการพ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งเลย คือให้ วงศ์ศักดิ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง แล้วเด้งให้ไปเป็นผู้ว่าฯ ลำพูน โดยอ้างสาเหตุว่า เป็นเพราะกระทรวงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน วงศ์ศักดิ์เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่ง อ.ปค. กรณีถูกกล่าวกระทำผิดวินัยร้ายแรงการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนสมาร์ทการ์ดไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด ทำให้งานล่าช้า ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

กระทรวงมหาดไทย จึงเห็นว่ากรณีนี้ หากวงศ์ศักดิ์ ยังคงปฏิบัติราชการในตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ย่อมเป็นอุปสรรคในการสอบสวน จึงเสนอให้นายวงศ์ศักดิ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง และแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯ ลำพูน

และมติครม.วันเดียวกัน ชุดคำสั่งเดียวกัน ก็เห็นชอบให้โยกให้มงคล จากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ครม.เห็นชอบในวันเดียวกัน ให้กลับไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนถิ่นเก่า ซึ่งเป็นกรมที่เล็กกว่ากรมการปกครองหลายเท่า ส่วนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง ก็ให้สุรชัย ขันอาสาที่เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มาเป็นอธิบดีกรมการปกครองแบบส้มหล่น

คนคิดและทำเรื่องแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่คนมหาดไทยแต่วงการข้าราชการทั่วประเทศ เห็นแล้วต้องครางฮือ ว่าคิดและทำได้ยังไง เพราะทำกันแบบนี้ แค่คิดหลายคนบอกยังไม่กล้าคิดเลย แต่มหาดไทยยุค ชวรัตน์ เล่นทั้งคิด และทำ สุดยอดเสื่อมทรามจริงๆ คิดได้แบบนี้

ก็เพราะทำกันเช่นนี้ เลยไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไม กระแสภูมิใจไทย ทั้งในอีสาน-เหนือ-กลาง ปลุกยังไงก็ปลุกไม่ขึ้น อัดฉีดไปตั้งมากมาย มีแต่ดำดิ่ง และสูญเปล่า ก็เพราะคนเขาเห็นแล้วว่า ภูมิใจไทย มีอำนาจแล้วไปบริหารงานกระทรวงไหน มีแต่ความเหลวแหลก เรื่องอื้อฉาว มีแต่ข่าวทางลบ

ใช้อำนาจโดยมิชอบ กลั่นแกล้งข้าราชการที่ไม่ยอมสยบให้แบบรังแกกันเห็นๆ

เสียงสาปส่งให้เป็นฝ่ายค้าน ดูท่าจะเป็นจริงขึ้นทุกขณะ หากเป็นเช่นนั้น ภูมิใจไทยขาดทุนป่นปี้แน่นอน
การติดลบที่หนักสุดของภูมิใจไทย รวมถึงอาจมีเอฟเฟกต์ ไปถึงอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ก็คือ กลุ่มประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่เป็นข้าราชการทั่วประเทศ

ซึ่งเดิมก็อาจไม่ได้คิดจะเลือกอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยหรือแม้แต่กับประชาธิปัตย์ แต่พอมาเจอกรณีของวงศ์ศักดิ์ ที่ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ก็ยิ่งทำให้ไม่เอาหนักขึ้น และไม่ใช่เฉพาะแต่ข้าราชการทั่วประเทศหลายล้านคน แต่เป็นพวกเครือข่ายของข้าราชการ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย

เช่น ข้าราชการมหาดไทยหนึ่งคนอยู่ในบ้านที่มีคนมีสิทธิ์เลือกตั้ง 5 คน เมื่อข้าราชการมหาดไทยไปเล่าปัญหาเรื่องวงศ์ศักดิ์ ว่าเป็นอย่างไร พรรคไหนเกี่ยวข้องบ้าง ก็ทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอีก 5 คนในบ้าน ที่เดิมอาจคิดเลือกประชาธิปัตย์ หรือภูมิใจไทย เจอและได้ยินข้อมูลแบบนี้ มีหรือจะไม่เปลี่ยนความคิดในการเลือกปชป. และภท. และสิ่งเหล่านี้จะมีการบอกกันไปเป็นทอดๆ ก็ทำให้สองพรรคปชป.-ภท. เสียคะแนนไปแบบไม่รู้ตัว

แทนที่ปัญหาของ วงศ์ศักดิ์ อภิสิทธิ์ และชวรัตน์ จะแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปเลย แต่ก็ไม่ทำ ยังคงแก้ปัญหาแบบการเมืองกันไปเรื่อยๆ เพื่อซื้อเวลา แถมไม่พอยังเอาแต่พวกพ้องคนของตัวเองให้ไปกินตำแหน่งหลัก ทั้งที่ก็ไม่ได้มีความเหมาะสมหรือมีอาวุโสอะไรเลย แต่ได้ดิบได้ดีก็เพราะเป็นเครือข่ายสิงห์เสื้อน้ำเงิน คือ ทำงานสนองพรรคภูมิใจไทยอย่างเดียวจนได้ดี

คำถามที่คนมหาดไทยตั้งคำถามกันก็คือ สุรชัย ขันอาสา ที่พวกสิงห์เสื้อน้ำเงินหนุนให้โยกมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง หากว่าไม่ใช่อดีตหัวหน้าสำนักงานของศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย และน้องชายเนวิน ชิดชอบ ผู้มีบารมีตัวจริงของพรรคภูมิใจไทย จนได้แรงหนุนให้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ที่พรรคภูมิใจไทยเข้าไปเจาะพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยอยู่ ก่อนที่ต่อมาสุรชัย จะได้เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว แล้วก็ส้มหล่นกำลังจะมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง

ทั้งที่ว่าที่อธิบดีกรมการปกครองอย่าง สุรชัย มีอาวุโสถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับระดับ 10 หลายคนในมหาดไทย เพราะยังมีอายุราชการ ถึงปี 2560

คำถามคือ ทำไมต้องเป็น สุรชัย ขันอาสา แค่วงศ์ศักดิ์ไม่ได้กลับมาเป็นอธิบดีปกครองหลายคนยังพอเข้าใจได้ และรู้แล้วว่า ภูมิใจไทยไม่ยอมแน่นอน แต่พอเอาสุรชัยขึ้นมาแบบนี้ มันก็ยิ่งเห็นชัดถึงการแต่งตั้งโยกย้ายของมหาดไทยยุคนี้ ว่าเล่นพวกพ้องมากเกินเหตุ

เพราะคิด และทำงานกันแบบนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมผลสำรวจโพลทุกสำนักความนิยมของพรรครัฐบาลตอนนี้ ทั้งประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ที่บริหารประเทศมาสองปีกว่า แทนที่คนจะนิยม นำโด่งทิ้งเพื่อไทยขาดหลายช่วงตัว แต่ผลโพลออกมากลับสู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เลย เหตุผลก็เพราะ คนเขาเห็นความเสื่อมที่พรรครัฐบาลตอนนี้ทำไว้ในหลายหน่วยงานอย่างที่ทำกับกระทรวงมหาดไทย ในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมา

ทางภูมิใจไทยเอง ดูแล้วก็คิดว่าน่าจะเริ่มรู้ตัวกำลังจะหมดสภาพ ยอด ส.ส.ที่คุยโม้ว่าจะได้ 70 เสียงขึ้นไป ทำท่าว่าตอนนี้เอาให้ได้สัก 40 เสียง ดูแล้วก็ยังลำบาก

แกนนำ-ผู้สมัคร ส.ส. เลยขาสั่นแล้ว ถึงขั้น ชวรัตน์ ชาญวีรกูล แก้ผ้าล่อนจ้อนร้องอยากร่วมกับเพื่อไทย แต่ถูกฤทธิ์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฉีกหน้ายับ ไม่ให้เข้าร่วม หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล “ลุงจิ้น” แทบต้องปี๊บมาคลุมหัว เพราะความอับอายที่ถูกเด็กเมื่อวานซืน อย่าง ปู ยิ่งลักษณ์ ถอนหงอก

นี่แหละ....ยามมีอำนาจ ก็ไม่ใช้อำนาจเพื่อสร้างความดี สร้างบารมี ทำประโยชน์ให้ส่วนรวมเพื่อให้คนเขาเห็น กลับใช้ไปเพื่อการเมือง และผลประโยชน์ตัวเอง ความเสื่อมเลยมาเยือนเร็วแบบติดจรวดในวันนี้