ครม.อนุมัติคืนเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง ให้ “วงศ์ศักดิ์” ก่อนเด้งไปเป็นผู้ว่าฯลำพูน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ อ้างอยู่ระหว่างถูกสอบสวนวินัยร้างแรง เรื่องบัตรสมาร์ทการ์ด ส่วน “มงคล” ถูกโยกกลับถิ่นเดิมกรมพัฒนาชุมชน “สุรชัย ขันอาสา” บุญหล่นทับได้นั่งอธิบดีกรมการปกครอง แต่ทั้งหมดต้องรอให้ กกต.เห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ ม.181 (1) และทรงโปรดเกล้าฯ ตามขั้นตอนก่อน
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติอนุมัติการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามการวินิจฉัยของก.พ.ค.ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ คือ ยกเลิกมติ ครม.27 เม.ย.2553 อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงเฉพาะราย คือ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ พ้นจากอธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายมงคล สุระสัจจะ พ้นจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง
จากนั้นเรื่องต่อมา คือ ขอให้ นายมงคล พ้นจากอธิบดีกรมการปกครองไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยมีผลย้อนหลังตั้งเเต่วันที่ 1 มิ.ย.2553 จากนั้นคือ การขอให้ข้าราชการพ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง 3 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ คือ นายวงศ์ศักดิ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง และไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ลำพูน นายสุรชัย ขันอาสา พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง และนายมงคล พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
นายศุภชัย กล่าวว่า สารสำคัญของเรื่องในวันนี้คือกระทรวงมหาดไทย ขออนุมัติยกเลิกมติ ครม.แบบเฉพาะราย คือ นายวงศ์ศักดิ์ และ นายมงคล เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.และเสนอเหตุผลประกอบการแต่ง ตั้งนายวงศ์ศักดิ์ในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯลำพูน เพราะกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งที่ 355/2553 ลงวันที่ 10 ก.ย.2553 และ คำสั่งที่443/2553 ลงวันที่ 12 ต.ค.2553 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายวงศ์ศักดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง กรณีโดนกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรงในการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้การผลิตบัตรประชาชนที่ผลิตด้วยคอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ (สมาร์ทการ์ด) เพื่อให้ประชาชนนำไปใช้บริการเกิดความล่าช้า และกระทบภารกิจของกระทรวง รวมทั้งส่งผลเสียหายร้ายแรง โดยการสอบสวนเกี่ยวข้องกับงานในหน้าที่และความรับผิดชอบของอธิบดีกรมการปกครอง รวมทั้งมีข้าราชการของกรมนี้เกี่ยวข้องที่เป็นพยานสำคัญในการสอบสวนจำนวนมาก หาก ครม.อนุมัติยกเลิกมติ ครม.เฉพาะราย คือ นายวงศ์ศักดิ์ ตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.และให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองต่อไปจะเป็นอุปสรรคในการสอบสวน
“ฉะนั้น เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปโดยเรียบร้อย และรับทราบข้อเท็จจริง กระทรวงมหาดไทยขอให้ ครม.พิจารณาตามที่กระทรวงเสนอในข้างต้น เพราะเป็นตำแหน่งบริหารระดับสูงตามกฎ ก.พ.เช่นเดียวกับตำแหน่งที่เสนอเข้ามา 3 ราย ครม.ได้พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยแล้วและอนุมัติมติ ครม.ข้างต้น คือ ครม.อนุมัติให้นายวงศ์ศักดิ์ กลับไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2553 และ นายมงคล พ้นจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ในวันที่ 1 มิ.ย.2553 และ ครม.มีมติให้สำนักเลขาธิการ ครม.แจ้งไปยัง กกต.พิจารณาให้ความเห็นชอบตาม มาตรา 181(1) ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เมื่อ กกต.ให้ความเห็นชอบแล้ว สำนักเลขาธิการ ครม.จะนำเรื่องเสนอ ครม.เพื่อโปรดทราบก่อนส่งให้สำนักราชเลขาธิการนำความกราบบังคมทูลฯทราบ และโปรดเกล้าฯว่า ขอให้ นายวงศ์ศักดิ์ กลับเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส่วนนายมงคลนั้นเมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทและโปรดเกล้าฯตามที่เสนอแล้ว ขอให้สำนักเลขาธิการ ครม.ยกเลิกประกาศสำนักนายกฯ วันที่ 4 มิ.ย.2553 เฉพาะรายคือนายวงศ์ศักดิ์และนายมงคลตามคำวินิจฉัยร้องทุกข์ของ ก.พ.ค.”
นายศุภชัย กล่าวว่า ครม.ยังมีความเห็นว่าส่วนการเสนอขอแต่งตั้งข้าราชการตามที่กระทรวงมหาดไทย อ้างเหตุผลตามความจำเป็นข้างต้น นั้นคือ อุปสรรคการสอบสวนข้อเท็จจริงการแต่งตั้ง นายวงศ์ศักดิ์ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการให้ข้าราชการอีกสองรายนั้น ขอให้กระทรวงมหาดไทย ส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการ ครม.ดำเนินการส่งเรื่องให้ ครม.อนุมัติอีกครั้งเมื่อได้ดำเนินการในการอนุมัติโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง คือ แต่งตั้ง นายวงศ์ศักดิ์ ไปเป็นผู้ว่าฯลำพูน นายมงคล ไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสุรชัยไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ครม.มีความเห็นให้เสนอเรื่องไป กกต.ก่อนที่จะเสนอทูลเกล้าฯ และโปรดเกล้าฯก่อน เสนอกลับให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้ กฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่าจะเป็นการล่วงพระราชอำนาจหากยังไม่มีการโปรดเกล้าฯให้กลับมายังตำแหน่งเดิม จึงต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯก่อน
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า กระทรวงมหาดไทยได้เสนอเรื่องการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ซึ่งเป็นการเสนอโดยเป็นวาระลับ ซึ่งได้เสนอมา 3 แนวทาง แต่ ครม.ได้อนุมัติเพียง 2 แนวทางเท่านั้น คือ ยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2553 ที่อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เฉพาะราย และให้ นายมงคล สุระสัจจะ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.53
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้ให้เหตุผลว่า ที่ไม่ให้ นายวงศ์ศักดิ์ ดำรงอธิบดีกรมการปกครองนั้น เนื่องจากถูกสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งปลัดกระทรวงที่เป็นผู้บังคับบัญชา มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน มาตรา 101 ที่กำหนดไว้ว่า กรณีที่มีการถูกสอบวินัยร้ายแรง ผู้บังคับบัญชามีสิทธิที่จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือปลดออกก่อนก็ได้ ดังนั้น การที่นายวงศ์ศักดิ์ ไปอยู่ตรงที่อื่นแล้ว ก็ไม่น่าที่จะมีปัญหาในเรื่องการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งการให้ไปเป็นผู้ว่าฯลำพูน ตรงนั้นมีแค่นั้นประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา อย่างกรณีคุณหญิงแพทย์หญิง พรทิพย์ ถูกสอบวินัยร้ายแรงก็ยังไม่มีการแต่งตั้ง ต้องเข้าใจว่า เรื่องนี้ปลัดกระทรวงใช้อำนาจ
ทั้งนี้ ระหว่างการหารือ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้ถามเลขาฯ ก.พ.ว่า การที่นายวงศ์ศักดิ์ โดนสอบวินัยร้ายแรงจะสามารถแต่งตั้งได้หรือไม่ ซึงเลขาฯ ก.พ.ตอบว่า แล้วแต่กรณี และเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย จากนั้น นายชวรัตน์ ได้เสนอขอเลื่อนการดำเนินการตาม ก.พ.ค.แต่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ เพราะตามกฎหมายไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ ทำให้ นายอำพล กิตติอำพล เลขาธิการ ครม.รีบเสนอให้ถอนเรื่องดังกล่าวออกไปทันที ซึ่งทำให้ นายบุญจง รีบแย้งขึ้นทันทีว่าเรื่องมาถึงครึ่งทางแล้วคงไม่ถอนออกจากการพิจารณา อย่างไรก็ตาม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวขึ้นว่า ก.พ.ค.ไม่ควรมีอำนาจมาตัดสิน ครม.ที่เป็นฝ่ายบริหารได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การหารือเรื่องดังกล่าวใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ หลังจากการหารือเรื่องนี้เสร็จสิ้น รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ได้ทยอยออกจากห้องประชุมทันที