xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

วาทะนักเลือกตั้ง เอาไปตัดสินใจในคูหา “3 ก.ค.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - มีคนพูดว่า การกระทำดังกว่าคำพูด ความคิดดีมักไม่แสดงออก ความคิดไม่ดีจะแสดงออกโดยไม่ต้องพูด แต่คนพูดไม่ดี สง่าราศีความเป็นคนแทบมองไม่เห็น

หากย้อนมาดูนักการเมือง ที่กำลังห้ำหั่นในสนามเลือกตั้ง ขณะนี้นักเลือกตั้ง ต่างมีวาทะที่พวกเขาวิเคราะห์หรือพูดกันต่างๆนานา จะมีสาระหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเป็นที่น่าจดจำของเราๆ เจ้าของประเทศตัวจริง

ขอนำเอาวาทะของนักการเมือง และไม่ใช่นักการเมือง ทั้งก่อนการสมัครหาเสียง หรือลงหาเสียงมาให้รับรู้กันถึงแนวความคิดของคนเหล่านี้ นำมาใช้เป็นหลักฐาน ฟ้องกันจะๆว่าคนเหล่านี้ เคยพูดเช่นนี้ เพื่อนำไปพิจารณา หรือก่อนจะตัดสินใจว่าจะเข้าคูหาเลือกคนเหล่านี้ หรือจะร่วม “โหวตโน” กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เริ่มจาก!!

“สังคมต้องตัดสินว่า วันนี้สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำหลังการเลือกตั้ง คืออะไร มันคือเรื่องนิรโทษกรรม หรือเรื่องปากท้องประชาชน” “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กล่าวในวันเปิดตัวเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 พรรคประชาธิปัตย์
 

“ต้องเรียนว่าประเทศไทยยึดหลักนิติธรรม การทำอะไรนั้นก็เชื่อว่าทางพรรคเพื่อไทยคงไม่อนุญาตให้ดิฉันทำอะไรเพื่อคนๆ เดียว การทำอะไรต่างๆ นั้นต้องคำนึงถึงความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของทุกคน ดิฉันขันอาสามาทำงานเพื่อประชาชน แน่นอนว่าก็ต้องเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง” “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กล่าวในวันเปิดตัวเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย

“คนขายก๋วยเตี๋ยว คนขับรถแท็กซี่ ต้องเสียภาษีหมดในประเทศนี้ มีคุณทักษิณคนเดียวไม่เสียภาษี” “สุเทพ เทือกสุบรรณ” พูดที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 1 วัน

“กฎหมายต้องได้รับความเคารพ ต้องศักดิ์สิทธิ์ ถ้าคนคนหนึ่งทำความผิด ต่อมาน้องสาวขึ้นมามีอำนาจ แล้วลบล้างความผิดให้ทั้งหมด ก็จะไม่สามารถทำให้กฎหมายของประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ต่อไปได้” ชวน หลีกภัย กล่าวที่พรรคประชาธิปัตย์

“พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ทำได้ แต่เมื่อกลับมาแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะพ.ต.ท.ทักษิณได้ทำความผิด และไม่มีข้อกฎหมายใดที่จะยกเว้นบุคคลที่ทำความผิด รวมไปถึงบุคคลที่เผาบ้านเผาเมือง” ชวน หลีกภัย กล่าวที่พรรคประชาธิปัตย์

“วันนี้บ้านเมืองต้องการความสงบจึงเชื่อว่า ทั้งคู่ คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายอภิสิทธิ์ จะไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะเมื่อดูผลโพลต่างๆที่ทำมาหลายครั้ง ประมาณร้อยละ 50 ที่มีประชาชนอีกจำนวนมากยังไม่ได้ตัดสินใจ วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ในประเทศต้องการแสวงหาเส้นทางที่ไปสู่การยุติความขัดแย้งของทั้ง 2 ขั้ว ผมอยู่บนหลักการของวิทยาศาสตร์ และเฝ้าสังเกตมาในอดีตที่ผ่านมาไปเช็คเลยการเลือกตั้งทุกครั้ง มันไม่เคยมีการไม่แสดงความคิดเห็นสูงขนาดนี้มาก่อน” เนวิน ชิดชอบ บอกระหว่างรับประทานอาหารกับสื่อประจำพรรคภูมิใจไทย

มาดูแนวความคิดของคนที่ไม่ใช่นักการเมืองบ้าง เช่น

“หากเปรียบเทียบกันระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขอมองในมุมตัวเอง จุดแข็งของน.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ 1.เงินหนา 2.มีฐานมวลชน มีเสื้อแดงสนับสนุน มีกลุ่มคนที่หลงไหลทักษิณไม่ว่าทำเลวทำชั่วอย่างไร ก็ยังหลงไหล 3. มีทีมเลือกตั้งที่แข็ง มีทั้งทีมบู๊ โกง อุ้ม ฆ่า 4.ควบคุมสื่อได้ มีการกระพือกระแสให้เป็นนายกฯ กระบวนการสร้างภาพของสื่อทำผีให้เป็นคนได้ ส่วนจุดแข็งนายอภิสิทธิ์ 1. คุมอำนาจรัฐ เป็นนายกฯ รักษาการคุมกลไกข้าราชการเป็นเครื่องมือ 2.มีประสบการณ์บริหารบ้านเมือง 3.หน้าตาดูดี ชายชอบ หญิงรัก การศึกษาดี 4. เงินพร้อมสู้ทักษิณได้เลย ประชาธิปัตย์ไม่จนเหมือนเดิมแล้ว 5. กุมสื่อได้ ควบคุมสื่อเช่นเดียวกับฝ่ายทักษิณ เมื่อเปรียบเทียบแล้วจุดแข็งพอๆ กัน กินกันไม่ลง” ประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย พูดบนเวทีพันธมิตรฯ

“จุดอ่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ 1. ถูกชักใยไม่เป็นตัวของตัวเอง นายทักษิณ บอกโคลนนิ่งมาเลย 2. ไม่มีประสบการณ์บริหารทางการเมือง 3. มาเป็นนายกฯ เพื่อฟอกความผิดให้ทักษิณ 4. พรรคเพื่อไทยพัวพันกับเสื้อแดง ขบวนการล้มเจ้า เผาบ้านเผาเมือง คนเลยไม่ไว้วางใจ ส่วนจุดอ่อนนายอภิสิทธิ์ 1. ผลงาน 2 ปีที่ผ่านมาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง 2. ถูกชักใยโดยนายสุเทพ นายเนวิน พล.อ.ประวิตร ส่วนตัวเอง แหลไป แหลมา 3. ไม่มีภาวะผู้นำ คับแคบ 4. ปราบคอร์รัปชั่นไม่ได้ 5. มีปัญหากับประชาชน เนรคุณประชาชนที่สนับสนุน 6. ที่สำคัญไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ ดูจุด เมื่อแข็งจุดอ่อนของทั้ง 2 คน ก็รู้แล้วว่า เลือกใคร ก็คงพอๆ กัน ไม่มีอะไรดีกว่ากัน จึงมองไม่ออกเลยว่าใครจะมาเป็นนายกฯได้ดี สรุปแล้วเวลานี้คนที่เป็นนายกฯ ที่ดีไม่ได้อยู่ในการเลือกตั้ง” ประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย พูดบนเวทีพันธมิตรฯ

คนสุดท้าย ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นโหรการเมืองชื่อดัง ที่ออกมาทัก ว่าที่ผู้นำประเทศคนที่ 28 คู่แข่งทั้ง 2 พรรค หลังจากได้หมายเลขในวันรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ น่าสนใจมิน้อยเอา ไปดูไว้ตัดสินใจหรือเอาไว้แก้เครียดได้

“พรรคเพื่อไทยเลข 1 หมายถึงดาวอาทิตย์ หมายถึง ผู้นำ หมายถึงชัยชนะ ส่วนหมายเลข 10 ที่พรรคประชาธิปปัตย์จับได้ เลข 1 ดวงอาทิตย์ ส่วนเลขศูนย์ หมายถึงดาวมฤตยู ดังนั้น เมื่อรวมกันพรรคประชาธิปัตย์จะมีตัวถ่วงอยู่ด้านหลัง เพราะหากถ้าลบเลขหนึ่งออก ก็เลยศูนย์เลย ดังนั้นเมื่อเทียบตัวเลข และดวงของ 2 ผู้นำแล้ว เพื่อไทยจะได้เสียงในสภามากกว่าประชาธิปัตย์แน่นอน พูดง่ายๆ ก็คืออิทธิพลตัวเลขของ 2 พรรคใหญ่นี้ พรรคเพื่อไทยได้เปรียบประชาธิปปัตย์ 1 ต่อ 10 เลยทีเดียว ” เก่งกาจ จงใจพระ โหรการเมือง

“ดูตัวเลขที่พรรคเพื่อไทยจับได้มันยังสะท้อนอีกว่า ประเทศไทยจะได้นายกรัฐมนตรีผู้หญิง เพราะดวงผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ยิ่งลักษณ์ปีนี้ เกิดวันที่ 21 มิ.ย. 2510 เลข 2+1= 3 เป็นคนอ่อนนอกแข็งใน ดูว่านิ่มๆ แต่ถ้าเราไปวิ่งชนก็เหมือนกับวิ่งชนกัมมะหยี่หุ้มเหล็ก ดังนั้น ผมเตือนเอาไว้ว่า พรรคประชาธิปัตย์อย่าประมาทยิ่งลักษณ์ เพราะพื้นดวงคนนี้มีดาวอาทิตย์เป็นราชาโชค มีลักษณะเป็นผู้นำ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล อีกทั้งยังมีดาวพุธรวมด้วย ทำให้เป็นคนฉลาดสมองดี เรียนรู้เร็ว พูดจาดีมีระเบียบเรียบร้อย สุภาพ ไม่หยาบคาย ไม่เผ็ดร้อน เยือกเย็นสุขุม เข้ามวลชนได้ดี มีลูกล่อลูกชนมาก ที่สำคัญอายุ 44 ปี ดาวพุธแทรกดาวพฤหัสบดี มีสิทธิ์ที่จะได้ตำแหน่ง จะได้ลาภยศสรรเสริญ ของที่หายจะได้คืน” เก่งกาจ จงใจพระ โหรการเมือง

เราก็ไม่ทราบว่า วาทะหรือคำพูดเหล่านี้ จะนำไปสู่การตัดสินใจของ “พลังเงียบ” ที่โพล หลายสำนัก ระบุตรงกันว่า มีกว่า 49 %ได้หรือไม่ เลือกเอาตามสบาย แต่ 3 ก.ค.วันเลือกตั้งใหญ่ หรือ 26 มิ.ย. ที่ กกต.ประกาศเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า ก็น่าจะนำไปประกอบการตัดสินใจหรือพิจารณาได้
กำลังโหลดความคิดเห็น