xs
xsm
sm
md
lg

รุกกกต.คุมเวทีเสื้อแดง ปชป.ชี้เป็นการหาเสียงให้"เพื่อแม้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (22 พ.ค.) ที่รร.มิราเคิล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่การใช้สื่อออนไลน์ โซเชียล เน็ตเวิร์ก ในการหาเสียงที่ทางคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่า สามารถใช้ได้ แต่ผู้สมัครต้องชี้แจงต่อกกต.เองนั้น ว่าเรื่องนี้ ภายในพรรคมีการพูดคุยกันแล้ว เรื่องสื่อออนไลน์ โซเชียล เน็ตเวิร์ก เป็นช่องทางที่สำคัญในการหาเสียง และในหลายประเทศมีการใช้กันอยู่และที่เราหารือกันนั้นเรายินดีที่จะปฏิบัติตามระเบียบที่กกต.กำหนดทุกประการ เพราะทางพรรคใช้ทั้งเฟซบุ๊ก และไลฟ์สตรีม และมีการถ่ายทอดสดจากพื้นที่ที่ไปทำกิจกรรมมา รวมทั้งมีทวิตเตอร์ และเว็ปไซต์ ที่เราเองก็จะต้องคิดคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งของพรรค และตอนนี้เราก็มีการเตรียมที่จะทำค่าใช้จ่าย และชี้แจงทางกกต. อยู่แล้ว
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า เวลา 20.30 น. ( 22 พ.ค. ) ทางพรรคจะจัดกิจกรรมใหญ่ มีการคุยสดกับนายกรัฐมนตรี ทางแชนแนลเท็น ไลฟ์สตรีม บาย เฟซบุ๊ค โดยจะมีทางช่องเนชั่น มาเชื่อมทางทวิตเตอร์ ที่จะถามนายกฯ และนายกฯ จะตอบ ตรงนี้ก็เป็นการดี อยากให้ กกต. กำหนดให้ชัดเจนว่า การคิดค่าใช้จ่ายในออนไลน์ โซเชียล เน็กเวิร์ก จะคิดค่าอะไรบ้าง จะคิดเป็นค่าอินเตอร์เน็ต ที่เป็นรายเดือนหรืออย่างไร เพราะปกติการใช้ เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือแม้แต่ที่เป็น เว็บไซต์ ก็ไม่มีค่าใช้จ่าย
กรณีนี้นอกจากค่าอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ทางพรรคก็จะมีไลฟ์สตรีม เช่น การยิงสัญญาณจากพื้นที่ ที่มีคิดค่าใช่จ่าย ทางพรรคพร้อมชี้แจงต่อกกต.และทางพรรคก็จะใช้ ทางโซเชียล เน็ตเวิร์ก อย่างต่อเนื่องอย่างเข้มข้น และจะไปหยุดตามที่ กกต.กำหนดให้หยุด คือก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า กระแส การตอบรับในเรื่องการใช้ สื่อออนไลน์ โซเชียล เน็ตเวิร์ก ดีมาก กลุ่มของคนที่สนใจการเมืองเป็นคนรุ่นใหม่ ที่อายุระหว่าง15-16 ปี ไปจนถึงวัยกลางคนประมาณ 30 ปี และที่ผ่านมาทวิตเตอร์ ที่คุยกับนายกฯ มีหลายแสนคน เราจึงจะใช้ผ่านทางช่องทางนี้และเราถือว่าเราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ใช้เฟซบุ๊ก และไลฟ์สตรีม กับประชาชน ส่วนในพื้นที่รากหญ้านั้น ไม่น่ามีปัญหา ก็จะมีการใช้ที่ควบคู่กันไป ที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่เล่นระบบสื่อออนไลน์ โซเชียล เน็ตเวิร์ก ได้ทั่วถึงมากกว่า
เมื่อถามว่า จะแปรเป็นคะแนนที่จะกลับมาได้แค่ไหน กับการที่พรรคมุ่งเจาะกลุ่มคนทำงาน ได้มากน้อยแค่ไหน นายสาทิตย์ กล่าวว่า การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นสิทธิของประชาชนที่เขาต้องการจะรู้ว่าพรรคการเมืองที่ประกาศตัวเป็นนายกฯ และเป็นรัฐบาลได้ผลดี ในต่างประเทศทุกประเทศทั่วโลกก็ได้ผลดี
เมื่อถามว่าทางกกต.มองว่า หากจะใช้สื่อออนไลน์ โซเชียล เน็ตเวิร์ก จะต้องไม่มีการใส่ร้ายป้ายสีกันทางการเมืองโดยเฉพาะคู่แข่ง แต่ที่ผ่านมามีบ้างหรือไม่ที่ ส.ส.ในพรรคใช้เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ใช้พาดพิงฝ่ายตรงข้ามนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคกับนายกฯไม่มี ทางพรรคใช้เฉพาะการเผยแพร่นโยบาย และกล่าวถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรคในแต่ละเรื่อง และกิจกรรม ในส่วนของบุคคลก็จะเป็นการรับผิดชอบส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วงเวลานี้ คือเรื่องการขัดขวางการเลือกตั้ง เพราะถ้า โซเชียล เน็ตเวิร์ก ของเราได้รับการตอบรับมาก ก็กลัวการเข้ามาแทรกแซง หรือทำให้การถ่ายทอดโซเชียล เน็ตเวิร์ก มีปัญหา คือเคยมีการทำให้เว็บไซต์ ของพรรคล่มมาแล้ว แต่ที่ผ่านมาจะเจอเฉพาะที่ นายกฯลงพื้นที่ แล้วมีกลุ่มคนเสื่อแดงลงไปก่อกวน

** จี้กกต. ตรวจสอบค่าใช้จ่าพท.เข้มข้น
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบรายการแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายของพรรคเพื่อไทย อย่างเข้มข้นนับตั้งแต่ที่กฤษฎีกายุบสภามีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา
เนื่องจากขณะนี้มีความเชื่อได้ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากนั้นแล้วกกต. ต้องใช้กฎหมายเพื่อดูแลการจัดกิจกรรมของคนเสื้อแดง ที่เป็นไปในแนวทางช่วยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบกับพรรคการเมืองอื่น อีกทั้งต้องทำเป็นแบบอย่าง เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองใช้รูปแบบของการปลุกการชุมนุม เพื่อจัดกิจกรรมและเอื้อให้กับการเลือกตั้งของบางพรรคการเมืองได้

** แฉชลบุรี เล่นตุกติกซื้อเสียงแฝง

ด้านนายประมวล เอมเปีย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแฉ กระบวนการทำผิดกฏหมายเลือกตั้งของพรรคคู่แข่ง เริ่มตั้งแต่การสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ วันแรก โดยการว่าจ้าง ขนคนมาร่วมเป็นกองเชียร์กว่า 20 คันรถบัส โดยจ่ายหัวละ 500 บาท ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น ดินแดง
นอกจากนี้ ในพื้นที่มีการแจกเงินให้ผู้นำชุมชน บางคนรายละ 5 หมื่น ถึง 1 แสนบาท เพื่อขอให้ทำพื้นที่สร้างฐานเสียง รวบรวมคน โดยมีข้าราชการในพื้นที่บางคนรู้เห็นเป็นใจช่วยเหลือสนับสนุน ทั้งกำนัน นายกอบต. สจ. บางคนร่วมในแผนงานดังกล่าว โดยให้นายกฯอบจ.ชลบุรี ( นายวิทยา คุณปลื้ม ) เป็นประธานในงานแจกเงิน
ล่าสุดมีการทำเรื่องขอเงินสนับสนุน เป็นเงินสงเคราะห์คนยากจน จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ ซึ่งได้ของบในเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีกฤษฎีกาการเลือกตั้ง และทราบว่าเงินดังกล่าวมาถึงก่อนหน้านี้ แต่กลับมาแจกจ่ายหลังประกาศกฤษฎีกาเลือกตั้ง ทุกอย่างทำเป็นขั้นตอน มีการเตรียมการเป็นอย่างดี
" ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการเรียกคน จาก ต.หนองรี และ ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี มารวมกันที่ศาลาการเปรียญหลายร้อยคน เพื่อร่วมในงานแจกเงินสงเคราะห์คนยากจน รายละ 1 พันบาท จึงขอถาม กกต.ว่า เรื่องอย่างนี้ผิดกฏหมายหรือไม่ ถือเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าที่มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ เพราะผู้สมัครส.ส.พรรคคู่แข่งบางคน ก็ยังเดินตามหลังนายกฯ อบจ.ชลบุรี ที่ไปแจกจ่ายเงินช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ ของจ.ชลบุรี ชาวบ้านในพื้นที่ก็รู้ดี ชาวบ้านเขาไม่โง่ ก็แจ้งเรามา เพราะตัวนายกฯ อบจ. เป็นน้องชายของเจ้าของพรรคคู่แข่ง เขาทำอะไร ก็ใช้ฐานเสียงตรงนี้ทำแทนทั้งนั้น กกต.กลางรู้แล้วว่า จ.ชลบุรี เป็นจังหวัดที่แข่งขันรุนแรง ต้องจับตาเป็นพิเศษ มีแต่ข่าวออกมา ก็ขอให้ส่งคนจาก กกต.กลางลงมาในพื้นที่ได้แล้ว อย่าเอาแต่เรื่องหยุมหยิม เรื่องทุจริตซื้อเสียงแอบแฝงที่ส่อเจตนาหวังในคะแนนนิยมเช่นนี้ ต้องลงมาดูเองได้แล้ว" นายประมวล กล่าว

** ปัด"แม้ว"จัดโผปาร์ตี้ลิสต์-รมต.
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช. คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ได้มีการลงบทสัมภาษณ์ตน โดยพาดพิงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าได้โทรและส่งอีเมล มาบอกว่าตนจะได้เป็นรัฐมนตรีนั้น เป็นเพียงการให้กำลังใจ และเป็นความเห็นส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เห็นว่าตนทำงานหนัก ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นกำลังใจให้ทำงานให้หนัก เพื่อให้ประชาชนได้เลือก ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเข้ามามากๆ จะได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล และที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย โทรมา ก็เป็นเพียงการเอ็นดู และให้กำลังใจเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติ และต้องกราบขอบพระคุณสำหรับกำลังใจ และจะทำงานด้วยความอุตสาหะ เพื่อขอโอกาสจากประชาชน
ส่วนขั้นตอนการแต่งตั้งรัฐมนตรีนั้น ต้องขึ้นกับคณะกรรมการบริหารของพรรค ที่จะตัดสินตามความเหมาะสม หลังจากที่พรรคชนะการเลือกตั้งแล้ว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนพิจารณารายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และได้จัดโผรัฐมนตรีไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ไม่เป็นความจริง กระบวนการต่างๆ คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ก็ยังสามารถให้คำแนะนำได้ แต่ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวแน่นอน แต่มีบางคนพยายามโยงเรื่องให้พรรคเพื่อไทย ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงขอเรียกร้องให้หยุดกระบวนการดังกล่าว และให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมสมานฉันท์ ให้พรรคเสียงลำดับ 1 ตั้งรัฐบาล ลำดับ 2 เป็นฝ่ายค้าน หลังการเลือกตั้งความขัดแย้งรุนแรงจะหมดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น