ถือว่าเป็นการนับหนึ่งอย่างเป็นทางการ ของศึกเลือกตั้ง 2554 นับแต่นี้อีก 46 วัน จนถึงวันที่ 3 ก.ค. ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป ด้วยงบประมาณที่ กกต.ขอจัดสรรจากงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท
ทีมข่าวการเมือง “ASTVผู้จัดการรายวัน”ได้เปิดคอลัมน์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “วิเคราะห์ศึกเลือกตั้ง 3 ก.ค.54” เริ่มด้วยการวิเคราะห์ “ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1” ผู้ที่ขอเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของประเทศไทยว่าที่ผ่านมามีประวัติหรือวิสัยทัศน์ใดมาบ้าง
ภายหลังประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศให้หัวหน้าพรรคการเมือง 26 พรรค ที่เดินทางลงทะเบียนเมื่อเช้าวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งเป็นวันรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์เป็นวันแรก ที่อาคารกีฬาเวสน์ สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง ขึ้นจับหมายเลขเพื่อใช้ในการหาเสียง จำนวน26 หมายเลข
เมื่อพิจารณาดูจาก “ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1” จาก 26 หมายเลขแล้ว นั้นก็หมายถึงผู้ที่ประกาศตัวขอเป็น “นายกรัฐมนตรี คนที่ 28” ของประเทศไทยทันที
เริ่มจากปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 “ประชาธิปัตย์” “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ในฐานะหัวหน้าพรรคและอดีตนายกรัฐมนตรี จบการศึกษา “เศรษฐศาสตร์” ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ได้เกียรตินิยมอันดับ 1
ทางการเมืองเริ่มเป็นอาสาสมัครช่วยหาเสียงให้กับ “พิชัย รัตตกุล” ทำงานวิชาการในเรื่อง แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ให้กับนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2535 ขณะมีอายุได้เพียง 27 ปี เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ของประเทศไทย
ถูกจับตาว่า เลือกเข้ามาก็เหมือนเดิม ยิ่งเลือกยิ่งแย่แน่นอน เพราะจากโพลต่างๆ ให้คะแนนการทำงานของนายอภิสิทธิ์ ถือว่าสอบตกหลายด้าน บางเรื่องคาบเส้น แถมแก้ปัญหาไม่ลงนำมาสู่การยุบสภาหาทางออกให้ตัวเอง ถูกถล่มยับว่า เป็นคนรูปหล่อตอแหลทุกเรื่อง
สรุปแล้ว เลือกคนนี้เข้ามาได้ของแถมเป็นข้าวยากหมากแพง ต้องหวาดผวาวิตกกังวลที่มีคนใช้ความรุนแรงและเผาบ้านเผาเมืองที่ได้รับประกันตัวออกมานอกคุก
ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 “เพื่อไทย” “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชื่อเล่นว่า “ปู” เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2510 เป็นน้องสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สมรสโดยไม่ได้จดทะเบียนกับ “อนุสรณ์ อมรฉัตร” อดีตผู้บริหารในเครือบริษัท ซีพี และกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็มลิงก์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์
จบการศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนตักกีสเตท สหรัฐอเมริกา ก่อนเข้าทำงานที่ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด และเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ตำแหน่งสุดท้าย “กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด” และยังเป็นกรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม
ถูกพรรคตรงกันข้ามตั้งข้อครหา “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” เพราะเขาคนนั้นก็คือพี่ชายคนโต “ทักษิณ ชินวัตร” หลายโพลแรกๆมองว่า เพื่อไทย วินแน่ คนในพรรคการันตรีว่า จะเป็น “นารีขี้ม้าขาว”มาช่วยประเทศ คู่แข่งจ้องถล่มด้วยการท้าดีเบต ถูกหยามเป็นทั้ง “นารี (ตก)ม้าขาว” “เป็นตัวหนังตะลุง” แถมถูกเยาะเย้ยว่าเหมือนนางเอกหนังฮ่องกง “ซูฉี”
สรุปแล้วเลือกคนนี้เข้ามา นอกจากจะได้“ทักษิณ ชินวัตร” แล้วยังต้องหวาดผวาวิตกกังวลที่มีคนใช้ความรุนแรงและเผาบ้านเผาเมืองเพราะจะได้ปาร์ตี้ลิตส์คนเสื้อแดงเข้ามาอีกกอง ทั้ง “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ที่กำลังนอนอยู่ในคุก ได้ “ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ” แถม “เหวง โตจิราการ”อีกคน
ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 “ภูมิใจไทย” ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ที่อยู่ภายใต้คาถากำกับของ “มนต์เขมร” มี “เนวิน ชิดชอบ”แกนนำพรรคตัวจริง กับเสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” ผู้ลูกชักใย ทั้งเรื่องเบี้ยกระสุนบวกกับอำนาจรัฐของผู้พ่อที่ปัจจุบัน เป็น รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2479 จบการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพ และปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร
ก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างใช้ชื่อว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (STECON) ในช่วง “ซิโน-ไทย ฟ้าสีทองผ่องอำไพ” เคยรับงานสัมปทานระดับเมกะโปรเจกต์ ของรัฐบาลหลายยุคหลายสมัย ผลงานที่สร้างชื่อ เช่น งานก่อสร้างโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ 12,260 ล้านบาท ฯลฯ
ตำแหน่งสูงสุด เคยเป็นถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ช่วงสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนเป็นเวลา 5 ปี ด้วยคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551
สรุปแล้ว เลือกคนนี้เข้ามาจะได้ภาพของโกงบ้านกินเมืองอย่างไม่รู้จบสิ้น แถม “มนต์เขมร” ก็จะขลังขึ้นเป็นทวีคูณ
ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 “ชาติไทยพัฒนา” “ชุมพล ศิลปอาชา” ในฐานะ “น้องชาย“หลงจู้ นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 บรรหาร ศิลปอาชา “เจ้าของพรรคตัวจริง” เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2483 อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท (M.P.A.) Syracuse University สหรัฐอเมริกาด้านครอบครัว เคยทำงาน ทั้งที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และเป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็น ส.ส.สุพรรณบุรี สังกัดพรรคชาติไทย และชาติไทยพัฒนา
เป็นเบี้ยให้พี่ชายหลงจู๊ตลอดเวลา มีเสียงแว่วว่า หากนโยบายใดจะออกจากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พรรคกำกับจะต้องผ่านตาพี่ชายก่อน โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณ
สรุปแล้ว เลือกคนนี้เข้ามาจะได้ภาพของโกงบ้านกินเมืองอย่างไม่รู้จบสิ้นเช่นกัน
หรือปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 “ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน” “ประภาส ลิมปะพันธ์” ผอ.เขตเลือกตั้งภาคเหนือ หรือ“วรรณรัตน์ ชาญนุกูล” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครราชสีมา และ ที่มี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” และแกนนำ2 พีที่เหลือ อย่าง “พินิจ จารุสมบัติ” และ “ปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ” คอนโทรลอยู่
ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ในฐานะประธานพรรค “รักษ์สันติ” “ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์” เป็นหนึ่งใน “เซนต์คาเบรียล คอนเนกชัน” สำเร็จโรงเรียนนายร้อยตำรวจและจบการศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตต สหรัฐอเมริกา
ในช่วงสองปีแรกของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อนร่วมรุ่น นรต.25 ที่สร้างผลงานการจัดระเบียบสังคมเข้มงวดกับสถานบริการตามพระราชบัญญัติจนได้ฉายาว่า “มือปราบสายเดี่ยว” สมัยเป็นรองนายกฯ ถูกย้ายไปเป็น รมว.ยุติธรรม ภายหัลงขัดแย้งกับ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งเรียกกันว่า “สงครามคนดี”
นี้ยังไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 คนอื่น อย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย สมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม รวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยที่พร้อมเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี
ถามว่า เลือกแล้วได้อะไรตามมา คำตอบ “เลือกเข้ามาก็เหมือนเดิม” เพราะโพลหลายสถาบันเขาก็ว่ากันอย่างนั้น