xs
xsm
sm
md
lg

56 พรรคร่วมถก กกต.เตรียมพร้อมเลือกตั้ง ปธ.วอนแข่งขันปราศจากความรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หัวหน้าพรรคการเมือง 56 พรรคร่วมเข้าประชุม กกต. “อภิชาต” หวังฟังความเห็นมาปรับใช้เป็นกฎเกณฑ์เลือกตั้ง วอนแข่งขันปราศจากความรุนแรง ด้าน “เจ๊สด” วอนอย่าให้เกิดความขัดแย้ง หวั่นเหตุไม่พึงประสงค์เกิด “ประพันธ์” เผยคุยวันนี้เน้นค่าใช้จ่าย เวทีกลาง ข้อระวังนำสถาบันหาเสียง คาดคงถกลงสัตยาบันด้วย

วันนี้ (2 พ.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดีรังสิต การประชุมผู้บริหารพรรคการเมืองที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการเชิญตัวแทนพรรคการเมืองจำนวน 56 พรรคเข้าร่วมประชุม โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วม เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมชาติพัฒนา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ หัวหน้าพรรครักษ์สันติ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ที่ปรึกษาพรรคประชาสันติ เป็นต้น

โดย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมากเนื่องจากว่านายกรัฐมนตรีจะมีการยุบสภาอย่างแน่นอน ดังนั้น กกต.ก็ต้องมีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง จึงทำให้ กกต.ต้องจัดงานครั้งนี้เพื่อรับความความคิดเห็นของพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ 52 พรรคการเมืองว่ามีความคิดเห็นกันอย่างไรเพื่อนำมาเป็นกรอบกติกา กฎเกณฑ์ในการใช้กับการเลือกตั้งต้องอยู่ภายใต้ของความเสมอภาค

นายอภิชาตกล่าวว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่คำคัญมากของระบบรัฐสภาไทย เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐสภาและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องผ่านระบบการเลือกตั้ง และแม้ว่าการเลือกตั้งจะยังไม่ใช่เงื่อนไขเป็นตัวชี้วัดสุดท้ายที่ดีที่สุด แต่ในขณะนี้ถือได้ว่าการเลือกตั้งจะเป็นกลไกที่ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และเมื่อประชาชนตัดสินใจเลือกใครแล้วก็ขอให้ยอมรับกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้งแม้ว่าทุกพรรคการเมืองจะมีความมุ่งหวังที่จะชนะเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่มุ่งหวังเช่นเดียวกัน ก็ขอให้แข่งขันกันโดยปราศจากความรุนแรงใน และพรรคการเมืองเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือให้พรรคการเมือง และผู้สมัครช่วยกันทำความเข้าใจ ให้ความรู้กับประชาชน เรื่องของประชาธิปไตยที่ถูกต้องกับประชาชนในวิถีทางประชาธิปไตย

“ในเรื่องของความปลอดภัยในการหาเสียงในพื้นที่ แม้ว่าการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง แต่ผมเห็นว่า ขณะนี้ก็ยังมีการหาเสียงลำบากในบางพื้นที่ที่มีการแข่งขันรุนแรง จึงอยากขอฝากพรรคการเมืองทุกพรรคการเมืองด้วย เพราะท่านจะรู้ว่าใครที่ชื่นชอบ หรือใครเป็นผู้สนับสนุนพวกท่านบ้าง หากมีการชุมนุมก็ขอให้อยู่ในขอบเขตอย่าให้เกิดผลกระทบต่อผู้อื่น หากมีลักษณะที่รุนแรงก็ขอให้มีการเข้าไปห้ามปรามกันด้วย เพราะพรรคการเมืองจะช่วยได้อย่างมาก ทั้งนี้สังคมคาดหวังการทำหน้าที่ของ กกต.อย่างมากจึงขอยืนยันว่า กกต.จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ยึดหลักกฎหมาย และเป็นธรรม” นายอภิชาตกล่าว

นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า นักการเมืองถือเป็นอาชีพหนึ่งซึ่งเป็นอาชีพที่มีอิทธิพล สามารถนำพาประเทศไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งและการเลือกตั้งก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ประกอบไปด้วยนักการเมืองและ กกต. ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องทำงานร่วมกัน มีความสัมพันธ์ที่แยกออกจากกันไม่ได้ เมื่อมีการเลือกตั้งนักการเมืองก็ต้องไปสมัครลงรับเลือกตั้งโดยจะต้องเป็นผู้ที่มีสังกัดพรรค หากไม่มีก็ลงไม่ได้ อยากให้ทุกฝ่ายไม่มีความขัดแย้งเพราะทุกคนไม่ต้องการที่จะให้มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นมา ดังนั้น การจับมือของพรรคการเมืองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่หากมีความแตกแยกหรือขัดแย้งเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ก็อาจเกิดขึ้นได้ และกกต.เองก็ไม่ต้องการที่จะหมดอาชีพนี้ไปด้วย ดังนั้นทุกคนจะต้องทำให้เกิดความสมานฉันท์ไม่ให้การเมืองสะดุดลง แม้ว่าจะมีกฎเกณฑ์บางเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะทำยากก็อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้เดินไปด้วยกันได้ ไม่ว่าพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่จะต้องไม่เกิดการแตกแยก

ขณะที่ นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองในวันนี้ว่า กกต.ได้เชิญตัวแทนพรรคการเมืองจำนวน 56 พรรคมาหารือเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยประเด็นที่จะหารือในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งเดิมกำหนดไว้ 1.5 ล้านบาทต่อคน โดยในวันนี้จะพูดคุยเพื่อกำหนดว่าจะปรับเพิ่ม หรือลดลง รวมทั้งเรื่องการนำสถาบันมาใช้ในการหาเสียง และการจัดเวทีกลาง เนื่องจากการจัดเวทีกลางก่อนหน้านี้ที่จัดเขตละ 2 ครั้ง ไม่มีประชาชนมาร่วมรับฟัง ในวันนี้จึงจะขอหารือกับหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค เพื่อลดการจัดเวทีกลางให้เหลือเขตเลือกตั้งเพียงเขตละ 1 ครั้ง รวมทั้งขอให้พรรคการเมืองไปตรวจสอบว่าสมาชิกพรรคของตนเองลงทะเบียนสังกัดพรรคการเมืองเรียบร้อยหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีการตกหล่นของรายชื่อ

เมื่อถามว่า การประชุมครั้งนี้ให้พรรคการเมืองลงสัตยาบันเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความสมานฉันท์หรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีการหารือกันว่าจะทำร่วมกันหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงในระหว่างการหาเสียง และให้มีการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีมวลชนมาปิดล้อม ซึ่งจากการเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งการประชุมพรรคการเมืองลักษณะเช่นนี้ก็ประสบความสำเร็จมาแล้ว ที่จัดการประชุมกรรมการบริหารพรรคในปี 2550

เมื่อถามว่า การที่นำข้อบังคับเรื่องการนำสถาบันมาใช้ในการหาเสียงไปไว้ในหมวดข้อควรปฏิบัติแทนข้อห้าม นายประพันธ์กล่าวว่า ข้อบังคับดังกล่าวได้ผ่านมติของ กกต.แล้ว แต่คงต้องนำเรื่องนี้มาหารือกับตัวแทนพรรคการเมืองอีกครั้ง และจะรับฟังความคิดเห็นของตัวแทนพรรคการเมือง

นายประพันธ์กล่าวว่า ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งของ กกต. ก็พร้อมที่จะจัดการเลือกตั้ง หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ถามว่าถ้านายกฯ ประกาศยุบสภาในวันที่ 6 พ.ค. นายประพันธ์กล่าวว่า กกต. ก็จะมีห้วงเวลาในการจัดการเลือกตั้ง 2 วัน คือ 26 มิ.ย. และ 3 ก.ค. แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูวันยุบสภาที่แน่นอนก่อน ส่วนจะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้น วันนี้ทางศาลรัฐธรรมนูญก็จะพิจารณาว่าจะรับเรื่องไว้ตีความหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ เปลี่ยนแปลงจากเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองทางกกต.จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาตามความเป็นจริง หากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็จะพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครร้องเรียนเข้ามา









กำลังโหลดความคิดเห็น