วาน“ส.ส.บ้าฟุตบอล” ตรวจสอบลีกอาชีพหน่อย!

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัปดาห์ก่อนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าชี้แจงกับกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครองท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรโดยมีเลขาธิการสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แห่งประเทศไทย และตัวแทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เข้าหารือด้วย

ทราบว่า เป็นการพูดคุย กรณี สตง.ได้รับหนังสือทักท้วงการจ่ายเงินงบประมาณของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง (อบจ.พัทลุง) เพื่อสนับสนุนทีมฟุตบอลลีกอาชีพ ซึ่งเป็นนิติบุคคล ภายใต้ชื่อทีม “พัทลุง เอฟซี” ทีมในลีกดิวิชั่น 2 เอไอเอส ลีก โซนภาคใต้

การหารือวันนั้น “ประมวล พงศ์ถาวราเดช” รองประธาน กมธ. ชุดนี้ แจ้งว่า ตัวแทน สตง. ได้ขอให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้อง และย้ำว่า หากดำเนินการไม่ถูกต้อง จะต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ

สตง. ยังเปรยว่า “ทราบว่าที่ผ่านมา อบจ.ทั่วประเทศสนับสนุนงบประมาณให้ฟุตบอลลีก อาชีพในแต่ละจังหวัด เป็นภาคธุรกิจ” พูดง่าย ๆ ก็คือ “ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ และขัดต่อกฎหมาย นำภาษีไปทำทีมฟุตบล ที่เป็นนิติบุคคล”

ปัญหามาเกิดตรง “ตัวแทนสมาคมอบจ.” กลับมาถาม สตง.ว่า ปัญหาเรื่องนี้จะอนุโลมได้หรือไม่ เพราะอบจ.ได้จ่ายงบประมาณ และใช้จ่ายไปแล้ว เนื่องจากให้เหตุผลว่า เป็นการสนับสนุนงบประมาณด้านการกีฬา

ขณะที่ “กมธ.ปกครองท้องถิ่น” ก็เห็นว่า หากการจ่ายงบประมาณของท้องถิ่นเรื่องใดไม่ถูกต้อง และทักท้วง ก็จะต้องทำให้เป็นไปตามระเบียบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายในภายหลัง”

เหมือนจะบานปลาย ! แต่เรื่องนี้ “วิมล กาญจนะ” ประธานจัดการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอสลีก ภูมิภาคดิวิชั่น 2 ได้ชี้แจงถึงกฎข้อบังคับทีมฟุตบอลอาชีพของไทย ที่จะต้องทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในนามสโมสร ซึ่งทำให้ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินงบประมาณจากหน่วยงานรัฐ

ประธานผู้นี้ ระบุว่า “ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจากทุกทีมที่ก่อตั้งเป็นสโมสรอาชีพ และส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน จะต้องมีความพร้อมในด้านการบริหารจัดการอยู่แล้ว ทั้งเรื่องงบประมาณ , การหาสปอนเซอร์ เข้าทีม”

แต่เมื่อตรวจดูบรรดาทีมที่ส่งเข้าแข่งขัน ก็จริงอย่างที่ประธานท่านว่า แต่ก็น่าจะเป็นแค่ไทยพรีเมียร์ลีก 18 ทีม หรือ ดิวิชั่น 1 ทั้ง18 ทีม ไม่น่าจะมีปัญหา หรือ ลีกภูมิภาคในกรุงเทพ-ปริมณฑล ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

แต่ถ้ามาดูทีมในลีกดิวิชั่น 2 ส่วนใหญ่ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคกลาง โดยเฉพาะที่มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( นายกฯอบจ. ) เข้ามาสวมบทบาท นายกสมาคมกีฬาจังหวัด หรือประธานสโมสร ย่อมได้รับผลกระทบจนถึงขั้นยุบทีม

อย่างงบประมาณ 100 ล้านบาท ที่ “กองทุนพัฒนากีฬาอาชีพ” จะมอบให้ก็เงียบ ปัญหาก็คือ หาสปอนเซอร์มาสนับสนุนยาก โดยเฉพาะจังหวัดเล็ก ๆ ถ้านักการเมืองระดับชาติไม่เข้ามาหนุนจริง ๆ

จะบอกว่า ปัญหานี้ สตง. คงจะปล่อย หรือ อนุโลมไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีข่าวตั้งแต่ตอนฟุตบอลไทยชุดซีเกมส์ ที่ประทศลาว ตกรอบแรก ในรอบ 36 ปี ที่พากันอ้างถึงการเก็บตัวที่น้อยเกินไป มีคนบอกว่า เก็บตัวไม่ถึงเดือน แต่เบิกเงิน 6 เดือน ตรงนี้ไม่รู้ว่าเข้าข่ายอนุโลมกันหรือไม่

วานคนในพรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้าฟุตบอลอย่าง “สุพัฒน์ ธรรมเพชร” ประธานดูแลจัดการแข่งขัน เอไอเอสลีก โซนภาคใต้ อดีต ส.ส.พัทลุง กับ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ( นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ) อดีตส.ส.กทม. ปชป. เข้าไปตรวจสอบก็น่าจะดี