นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมจัดส่งสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาเสนอพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพให้ผ่านกระบวนการรัฐสภาเพื่อช่วยกระตุ้นให้ พรบ.ฉบับนี้ ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยด่วน หลังติดค้างที่มาตรา 2 หลักการและเหตุผล
เมื่อเวลา 09.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2554 นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกรรมการการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ครั้งที่ 3/2554 โดยมี ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา เป็นประธานที่ปรึกษา ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยมีที่ประชุมได้รับรายงานจากการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ในเรื่องการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2554 รายการไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้กีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมได้เป็นกีฬาอาชีพที่สมบูรณ์แบบของประเทศในอนาคตอันใกล้ อีกทั้งมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2545 เห็ยชอบให้เรื่องการส่งเสริมกีฬาเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยพัฒนาและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ
ดังนั้นทาง กกท. จึงได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2554 ประกอบด้วย การเสริมสร้างศักยภาพกีฬาฟุตบอลอาชีพสู่ความเป็นเลิศระดับเอเชีย รวมเป็นเงิน 4,500,000 บาท, การพัฒนาสมรรถภาพและรายได้แก่บุคคลากรกีฬาฟุตบอลอาชีพ ไทยพรีเมียร์ลีก จำนวน 37,500,000 บาท ดิวิชั่น 1 จำนวน 30,950,000 บาท ลีกภูมิภาค 100,000,000 บาท, เงินรางวัลการแข่งขันไทยแลนด์ลีก คัพ จำนวน 10,000,000 บาท, การพัฒนาสมรรถภาพและรายได้แก่บุคคลากรกีฬาฟุตบอลอาชีพ เป็นเงิน 3,500,000 บาท และการพัฒนาฟุตบอลอาชีพให้เป็นกีฬายอดนิยมและสร้างความสุขของสังคมรวมเป็นเงิน 19,000,000 บาท
ทั้งนี้ยังได้เสนอข้อเสนอแนะเร่งด่วนในการพัฒนาฟุตบอลอาชีพ ประกอบด้วย 1.ปรับปรุงสนามแข่งขันฟุตบอลอาชีพให้ได้มาตรฐาน อาทิ พื้นสนาม ไฟฟ้าส่องสนาม ที่นั่งผู้ชม ห้องแต่งตัวผู้เล่น ผู้ตัดสิน ห้องพยาบาล ห้องฝ่ายรักษาความปลอดภัย 2.ส่งเสริมนักกีฬาและบุคคลากรให้มีความสามารถสูง โดยการสร้างให้สโมสรได้จัดตั้งทีมเยาวชน หรือ อะคาเดมี เพื่อพัฒนานักกีฬาและบุคคลากรให้มีประสิทธิภาพสูง 3.ส่งเสริมให้มีรายการแข่งขันฟุตบอลที่ได้มาตรฐานในหลายๆ รายการเพื่อให้บุคคลากรได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง 4.นักกีฬาและบุคคลากรมีรายได้สามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างยั่งยืน
ในส่วนของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเสนอให้มีการรายงานผลการดำเนินอย่างเป็นระบบ มีการวัดผลทางด้านสถิติ และสร้างมาตรฐานในการประเมินผลให้ชัดเจนเพื่อให้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ ตลอดจนควรมีคณะกรรมการติดตามประเมินผลการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 นี้ด้วย
ขณะเดียวกัน นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยถึงความคืบหน้าเรื่องพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพหลังจากที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีว่า "ขณะนี้กำลังเข้าสู่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในมาตรา 2 คือหลักการและเหตุผล ส่วนสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากว่ามี นายวิษณุ เครืองาม ประธานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะ 2 และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะ 2 มีความเห็นขัดแย้งเพราะไม่เห็นด้วยที่จะแยก พรบ.ฉบับนี้ออกจาก พรบ.การกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้ผ่านการพิจารณาแล้ว ซึ่งโดยหลักความเป็นจริง พรบ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพนั้นเป็นไปตามนโยบายของ ครม. เพื่อเป็นการออกกฏหมายป้องกันและคุ้มครองแก่บุคคลากรวงการกีฬา"
ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไป รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า "เตรียมมอบหมายให้สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาเสนอผ่านกระบวนการต่อคณะรัฐมนตรีผ่านการประชุมในรัฐสภาดำเนินการให้ทันกับรัฐบาลชุดนี้เพื่อความต่อเนื่อง"
ขณะเดียวกันนายพีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เปิดเผยว่า "หาก พรบ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฉบับนี้ไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในเร็ววัน เกรงว่าจะทำให้เกิดความเสียหายเนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่ง พรบ.ฉบับนี้ยังคงสภาพได้ 60 วัน ในการที่ ครม.ชุดใหม่จะพิจารณา ทว่าหากเลยวันที่กำหนดจะถือว่า พรบ.ฉบับนี้เป็นโมฆะทันที หมายความว่าทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องเริ่มต้นใหม่ในการเสนอ พรบ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพแก่ ครม.ชุดใหม่อีกครั้ง "