ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบ.สส.นำผบ.เหล่าทัพแถลงชัดไม่มีปฏิวัติ ยืนยันเป็นฉันทามติทหารไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง เพราะขัดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับกลาโหม บอกใครคิดเคลื่อนกำลังเจอข้อหากบฎ "ไอ้ตู่"ไม่เชื่ออ้างทหารมักบอกไม่มีแต่ก็ปฏิวัติทุกครั้ง ปูดปชป.ตั้ง "ดาวพงษ์"เกาะติด บล็อก ล็อค พรรคเพื่อไทย "บิ๊กจิ๋ว"กลัวรัฐบาลลากยาวอยู่ครบเทอม ส่วน "เจ๊สด"หนีหน้า หลังทิ้งบอมบ์
หลังจากนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสจะมีการปฏิวัติเงียบ และไม่มีการเลือกตั้ง ทำให้เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ได้มีการออกมาแสดงท่าทีสำคัญของผู้นำทางทหาร หลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่กองทัพอากาศ โดยพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้นำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.พงศ์พัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ.10 ตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายในห้องรับรอง ถึงจุดยืนของกองทัพต่อสถานการณ์การเมือง
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า หน้าที่ของทัพ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในภารกิจการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นส่วนหนึ่งของกอ.รมน. โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ มีกอ.รมน.เป็นแกนหลัก ซึ่งหัวหน้ารับผิดชอบสูงสุด คือ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.รมน. มีผบ.ทบ. เป็นรอง ผอ.รมน. และทหารเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานร่วมกับส่วนราชการอื่นเท่านั้น การดำเนินการต่างๆ ก็ทำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
"ขอวิงวอนสื่อมวลชน ช่วยถ่ายทอดไปยังประชาชนว่า อย่าเชื่อข่าวลือ อย่ารื้อข่าวอ้าง กองทัพไทยอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ท่านเชื่อเถอะครับว่า จะไม่ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ท่านเลิกเชื่อข่าวลือว่า ทหารจะปฏิวัติ ไม่มีหรอกครับ ท่านเลิกเชื่อข่าวลือว่า ทหารเกี่ยวข้องทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เรามีหนึ่งเสียงเหมือนพวกท่าน ทหารก็เป็นประชาชน มีสิทธิเพียงหนึ่งเสียงเท่ากันในการไปเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญปี 2550 หมวดที่ 4 มาตรา 70-74 ข้าราชการไม่เกี่ยวพันทางการเมือง รวมถึงข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ทหารไม่ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ท่านเชื่อเถอะครับว่า คำพูดของกองทัพ และทหารเชื่อถือได้ ไม่มีใครไปก้าวล่วงทางการเมือง ไม่ว่าจะผลักดัน กดดัน หรือไปแอบอิง หรือให้อิงแอบ เพื่อทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของประชาชน คิดว่านับตั้งแต่นี้ไปคงไม่มีข่าวอะไรซึ่งมุ่งทำให้กองทัพออกจากประชาชน และทำให้กองทัพแยกออกจากกัน"พล.อ.ทรงกิตติกล่าว พร้อมหันไปถาม ผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. และตัวแทนจากสตช.ว่า ยืนยันหรือเปล่า
พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ต่อไปนี้ ไม่ต้องมีข่าวแล้วว่า ใครจะไปเดินตาม คอยกดดัน ไม่มีเสรีในการไปหาเสียง ทุกพรรคการเมืองสามารถขอเข้ามาหาเสียงในหน่วยทหารได้ ทหารก็ทำหน้าที่ตามที่ได้รับการมอบ อย่าลือ อย่าอ้างการเมือง ก็ดำเนินการกันไป ขอให้อยู่บนแนวทางทางการเมืองของท่าน การยืนยันครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่า กองทัพไม่มีความเกี่ยวพันกับการเมือง ยิ่งต้องรักษาเกียรติและเป็นที่มั่นใจของประชาชน เรา คือ คนของประชาชน และเป็นประชาชน รู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร และต้องเว้นจากทำอะไร
"ถ้ามีหน่วยใดเคลื่อนย้ายกำลัง โดยไม่ได้รับคำสั่ง คือ กบฏ ถ้ามีทหารกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไปเกี่ยวข้อทางการเมืองหรือกดดัน ก็ขอให้ร้องเรียนมา หากมีมูลก็จะสอบสวน หยุดเอากองทัพมาอ้าง หยุดเอากองทัพมาแนบ และหยุดผลักกองทัพออกจากประชาชน เราขอเดินทางในทางสร้างสรรค์ในการพัฒนา รักษาอธิปไตย เกาะเกี่ยวแขนไปกับประชาชน"ผบ.สส.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาผบ.ทบ.ในยุคก่อน ออกมายืนยันว่า ไม่ปฏิวัติ แต่ก็เกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2549 การแถลงครั้งนี้ ถือเป็นฉันทามติของ ผบ.เหล่าทัพ ที่ยืนยันจะไม่ปฏิวัติ และไม่เกี่ยวข้องเรื่องการจัดตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวพร้อมหันไป ถามผบ.เหล่าทัพ เรียงทีละคน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่ยิ้ม เมื่อถูกถาม พล.อ.ทรงกิตติ จึงกล่าวต่อว่า ทุกคนยืนยันเหมือนกันหมดว่า ไม่มี
"ถ้ามีก็หาหลักฐาน ต้องมีหลักฐาน หรือกล่าวหา สร้างข่าวกันลอยๆ พอสร้างข่าว และบอกว่าคนนี้เลวไปแล้ว ก็ไม่ใช่ เชื่อเถอะครับ เรารักประเทศชาติ ยึดถือครรลองของประชาธิปไตย ขอให้เชื่อ มีการยืนยันกันขนาดนี้แล้วไม่เชื่อหรือ จะให้นอนยันหรือยังไง" ผบ.สส.กล่าว
เมื่อถามว่า คนที่ออกมาพูดเป็นคนสำคัญในหลายวงการที่ออกมาพูดเรื่องนี้ อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในส่วนตัวของแต่ละท่านที่ออกมาพูด แต่ตนมีหน้าที่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ขอให้เชื่อมั่นและศรัทธา
เมื่อถามว่าได้สบตากับพล.อ.ประยุทธ์ หรือยัง พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ทำไมจะต้องถามคำถามที่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี เพราะทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นทหาร ยึดมั่นอย่างนี้แล้ว จะมาถามว่าจะมีการปฏิวัติเงียบทำไม ท่านไปดำเนินการทางการเมืองของท่านให้ดีที่สุด รัฐบาลเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคการเมือง ถ้าทุกคนในประเทศไทยทำตามหน้าที่ก็จะเจริญ
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องไปติดตามว่าต้นตอข่าวลือมาจากไหน เพราะเสียเวลาทำงาน ซึ่ง 4-5 ปี ที่ผ่านมา มีแต่กระแสข่าว บางคนไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็พูด ผู้ที่ไม่รู้ก็พูด คนที่คิดว่าตัวเองรู้ แต่ไม่ได้รับผิดชอบก็พูด แต่คนที่รับผิดชอบพูด กลับไม่เชื่อ การเลือกตั้งจะมีขึ้นหรือไม่ ไม่ได้อยู่กับกองทัพ อยู่ที่หมดวาระการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้ามีการยุบสภา ก็เป็นเป็นเรื่องของรัฐบาล กกต.ก็ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งของท่านไป พอเลือกตั้งเสร็จแล้ว มีการจัดตั้งรัฐบาล ก็ทำไป
เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าหลังเลือกตั้งจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือมีนายกฯ ม.7 พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มีครับ วันนี้ผมทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบ หลังเกษียณ ผมก็เป็นแค่พลเมืองดีของประเทศไทย
** "ไอ้ตู่"ไม่เชื่อทหารจะไม่ปฏิวัติ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้นำเหล่าทัพออกมาระบุว่าทหารจะไม่ปฏิวัติ ว่า ก่อนการปฏิวัติทุกครั้ง มักจะได้ยินนายทหารออกมาพูดว่าจะไม่ปฏิวัติทั้งสิ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วก็จะอ้างชาติบ้านเมืองทำการปฏิวัติ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทุกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อนายทหารทั้งหลายออกมาพูด ก็ถือเป็นเรื่องดี ประชาชนจะได้มีความทรงจำที่ดีกับทหาร แม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะยุบสภาฯ ช่วงต้นเดือนพ.ค.ก็ตาม
ทั้งนี้ มีเรื่องที่น่าจับตา เพราะขณะนี้ได้ข้อมูลจากนายทหารว่า จากผลสำรวจการเลือกตั้งโดยกอ.รมน .นั้น พบว่า คนยังนิยมพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก ดั้งนั้น กอ.รมน. จึงจัดตั้งศูนย์กำกับควบคุมการเลือกตั้ง โดยมีพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบ โดยศูนย์นี้มีหน้าที่ติดตามกำกับควบคุมการเลือกตั้ง โดยจะส่งทหารลงไปเกาะติด บล็อค และล็อคแกนนำพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับที่เคยใช้เพื่อสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 ซึ่งครั้งนั้น ตอนท้ายมีการระบุให้เปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย แต่ครั้งนี้จะหนักกว่าเดิม เพราะจะมีนักการเมืองอีกฝ่ายเป็นผู้ชี้เป้าให้ด้วย
นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อใกล้เลือกตั้ง จะมีการส่งกำลังทหารไปเกาะติดหมู่บ้าน ชุมนุม เพื่อสร้างความชิงชังไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย จะมีการกล่าวหาว่าคนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จงรักภักดี และเมื่อถึงช่วงนับคะแนน ทหารบางส่วนจะถูกแปลงเป็นกรรมการนับคะแนน ซึ่งจะไปขี้ฉ้อกันตอนนั้น
โดยการเลือกตั้งครั้งหน้า คนเสื้อแดงจะเกาะติดอยู่ในพื้นที่ หากพบทหารลงไปกระทำการดังกล่าว จะจับตัวส่งกกต .ทันที เพราะทหารไม่ควรมายุ่งกับการเมือง และการเลือกตั้ง ประเทศควรจะเดินไปสู่ถนนเลือกตั้ง วันนี้ยังได้ยินว่า มีคนคิดโมเดลทั้งปฏิวัติเงียบ ปฏิวัติดัง หรือมีเลือกตั้ง แต่จะใช้วิธีโกงเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งโรคที่คาดไม่ถึงหากไม่มีการเลือกตั้ง ส่วนจะเป็นโรคอะไรนั้น คงต้องไปถามนายอภิสิทธิ์เอาเอง
"ทหารควรมีหน้าที่หลัก คือ ดูแลด้านความมั่นคง แต่วันนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ได้ ทำให้ขณะนี้มีทหารที่คุมการรบจริงๆ เริ่มเบื่อหน่าย เพราะผู้บังคับบัญชาแปลงงบประมาณการฝึกรบมาใช้กับการฝึกตีเกราะ เคาะโล่ เพื่อปราบปรามคนไทยด้วยกันเอง ทำให้มีผู้นำการรบ ลาออกก่อนเกษียณอายุราชการถึง 60% หากวันนี้เราทำสงคราม ก็จะไม่มีผู้ชำนาญทางการรบเลย มีแต่คนที่จะมาเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า แต่ไม่มีทหารจะไปยิงกับคนที่ใช้ปืนจริงๆ เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล้ายืนยันหรือไม่ว่าไม่มีทหารลาออก"นายจตุพรกล่าว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีกลุ่มคนที่พยายามป่วนให้การเมืองเสียหาย เพราะมีคนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมรับ สำหรับพรรคเพื่อไทย เห็นว่ากระบวนการเลือกตั้ง เป็นการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น จึงเดินหน้าให้มีการเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยขอบคุณผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ออกมาสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าจะไม่ปฏิวัติ และเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม
** "จิ๋ว"เชื่อไม่มีปฏิวัติ มีแต่ลากยาว
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวการปฏิวัติว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะผู้มีอำนาจอย่างผู้บัญชาการทหารบก เคยย้ำหลายครั้งว่า จะไม่ทำเรื่องดังกล่าว ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนับสนุนแนวทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย แต่หากจะมีเหตุไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น คงเป็นเพราะรัฐบาลดึงเวลาเพื่ออยู่ต่อจนครบเทอม เพราะไม่พร้อมเลือกตั้งมากกว่า อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย พร้อมทำงานการเมืองในทุกรูปแบบ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน
“ชวน”บอกอย่าให้ความสำคัญข่าวปฏิวัติเงียบ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรีระบุจะมีการปฏิวัติเงียบว่า อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย เมื่อถึงวาระที่รัฐบาลยุบสภา ก็เลือกตั้งใหม่ เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ยอมรับว่ามีคนอยากให้มีปฏิวัติ ซึ่งถือเป็นเรื่องของคนๆ นั้น แต่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย และเดินไปตามทางนี้ ส่วนกกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งก็รับผิดชอบไป และไม่ขอวิจารณ์กรณีที่มีการเสนอว่าควรเว้นวรรคการเลือกตั้ง เพื่อฟื้นฟูบ้านเมือง เพราะเมื่อตัดสินใจให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ต้องเดินไปให้ได้ และไม่ควรสนับสนุน โดยเฉพาะสื่ออย่าเอาเรื่องนี้มาพูดทุกวัน เสมือนอยากให้มันเกิดขึ้น
**"เจ๊สด"รูดซิปปากงดสัมภาษณ์สื่อ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสข่าวว่าจะมีการปฏิวัติ ไม่มีเลือกตั้ง จนทำให้ถูกฝ่ายการเมือง รุมอัดกลับมานั้น ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่ติดต่อขอสัมภาษณ์ ทั้งผ่านเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และทางโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่สามารถติดต่อนางสดศรีได้ อีกทั้งพบว่า มีการยกเลิกกำหนดการบันทึกเทปเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะนำไปออกในรายการ "เช้านี้ที่หมอชิต" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ห้องแถลงข่าวที่อยู่ตรงข้ามกับห้องสื่อมวลชน สำนักงาน กกต. เป็นสถานที่ดำเนินการ
เมื่อตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า นางสดศรี ได้ของดที่จะให้สัมภาษณ์สื่อสักระยะหนึ่ง และในวันที่ 7-9 เม.ย. นางสดศรี ก็จะยังคงเดินทางไปร่วมปัจฉิมนิเทศนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมือง และการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 2 ที่ เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งจะมีสื่อมวลชนร่วมคณะไปด้วย
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ไม่มีสิ่งใดบอกเหตุว่าจะมีการปฏิวัติ อย่างที่มีการพูดกัน เพราะผบ.ทบ. และรมว.กลาโหม ก็พูดย้ำถึง 2 ครั้งแล้วว่า จะมีเลือกตั้ง จึงควรเลิกพูดกันได้แล้วว่าจะมีปฏิวัติ ไม่มีเลือกตั้ง เพราะข่าวที่ออกไปแล้วทำให้ต่างประเทศดูประเทศไทยไม่ดี ซึ่งในวันที่ 7 เม.ย.นี้ กฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาวาระ 2 ก็ขอให้ส.ส.ช่วยกันให้ความเห็นชอบ
หลังจากนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสจะมีการปฏิวัติเงียบ และไม่มีการเลือกตั้ง ทำให้เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ได้มีการออกมาแสดงท่าทีสำคัญของผู้นำทางทหาร หลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่กองทัพอากาศ โดยพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้นำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.พงศ์พัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ.10 ตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายในห้องรับรอง ถึงจุดยืนของกองทัพต่อสถานการณ์การเมือง
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า หน้าที่ของทัพ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในภารกิจการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นส่วนหนึ่งของกอ.รมน. โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ มีกอ.รมน.เป็นแกนหลัก ซึ่งหัวหน้ารับผิดชอบสูงสุด คือ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.รมน. มีผบ.ทบ. เป็นรอง ผอ.รมน. และทหารเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานร่วมกับส่วนราชการอื่นเท่านั้น การดำเนินการต่างๆ ก็ทำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
"ขอวิงวอนสื่อมวลชน ช่วยถ่ายทอดไปยังประชาชนว่า อย่าเชื่อข่าวลือ อย่ารื้อข่าวอ้าง กองทัพไทยอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ท่านเชื่อเถอะครับว่า จะไม่ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ท่านเลิกเชื่อข่าวลือว่า ทหารจะปฏิวัติ ไม่มีหรอกครับ ท่านเลิกเชื่อข่าวลือว่า ทหารเกี่ยวข้องทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เรามีหนึ่งเสียงเหมือนพวกท่าน ทหารก็เป็นประชาชน มีสิทธิเพียงหนึ่งเสียงเท่ากันในการไปเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญปี 2550 หมวดที่ 4 มาตรา 70-74 ข้าราชการไม่เกี่ยวพันทางการเมือง รวมถึงข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ทหารไม่ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ท่านเชื่อเถอะครับว่า คำพูดของกองทัพ และทหารเชื่อถือได้ ไม่มีใครไปก้าวล่วงทางการเมือง ไม่ว่าจะผลักดัน กดดัน หรือไปแอบอิง หรือให้อิงแอบ เพื่อทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของประชาชน คิดว่านับตั้งแต่นี้ไปคงไม่มีข่าวอะไรซึ่งมุ่งทำให้กองทัพออกจากประชาชน และทำให้กองทัพแยกออกจากกัน"พล.อ.ทรงกิตติกล่าว พร้อมหันไปถาม ผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. และตัวแทนจากสตช.ว่า ยืนยันหรือเปล่า
พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ต่อไปนี้ ไม่ต้องมีข่าวแล้วว่า ใครจะไปเดินตาม คอยกดดัน ไม่มีเสรีในการไปหาเสียง ทุกพรรคการเมืองสามารถขอเข้ามาหาเสียงในหน่วยทหารได้ ทหารก็ทำหน้าที่ตามที่ได้รับการมอบ อย่าลือ อย่าอ้างการเมือง ก็ดำเนินการกันไป ขอให้อยู่บนแนวทางทางการเมืองของท่าน การยืนยันครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่า กองทัพไม่มีความเกี่ยวพันกับการเมือง ยิ่งต้องรักษาเกียรติและเป็นที่มั่นใจของประชาชน เรา คือ คนของประชาชน และเป็นประชาชน รู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร และต้องเว้นจากทำอะไร
"ถ้ามีหน่วยใดเคลื่อนย้ายกำลัง โดยไม่ได้รับคำสั่ง คือ กบฏ ถ้ามีทหารกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไปเกี่ยวข้อทางการเมืองหรือกดดัน ก็ขอให้ร้องเรียนมา หากมีมูลก็จะสอบสวน หยุดเอากองทัพมาอ้าง หยุดเอากองทัพมาแนบ และหยุดผลักกองทัพออกจากประชาชน เราขอเดินทางในทางสร้างสรรค์ในการพัฒนา รักษาอธิปไตย เกาะเกี่ยวแขนไปกับประชาชน"ผบ.สส.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาผบ.ทบ.ในยุคก่อน ออกมายืนยันว่า ไม่ปฏิวัติ แต่ก็เกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2549 การแถลงครั้งนี้ ถือเป็นฉันทามติของ ผบ.เหล่าทัพ ที่ยืนยันจะไม่ปฏิวัติ และไม่เกี่ยวข้องเรื่องการจัดตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวพร้อมหันไป ถามผบ.เหล่าทัพ เรียงทีละคน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่ยิ้ม เมื่อถูกถาม พล.อ.ทรงกิตติ จึงกล่าวต่อว่า ทุกคนยืนยันเหมือนกันหมดว่า ไม่มี
"ถ้ามีก็หาหลักฐาน ต้องมีหลักฐาน หรือกล่าวหา สร้างข่าวกันลอยๆ พอสร้างข่าว และบอกว่าคนนี้เลวไปแล้ว ก็ไม่ใช่ เชื่อเถอะครับ เรารักประเทศชาติ ยึดถือครรลองของประชาธิปไตย ขอให้เชื่อ มีการยืนยันกันขนาดนี้แล้วไม่เชื่อหรือ จะให้นอนยันหรือยังไง" ผบ.สส.กล่าว
เมื่อถามว่า คนที่ออกมาพูดเป็นคนสำคัญในหลายวงการที่ออกมาพูดเรื่องนี้ อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในส่วนตัวของแต่ละท่านที่ออกมาพูด แต่ตนมีหน้าที่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ขอให้เชื่อมั่นและศรัทธา
เมื่อถามว่าได้สบตากับพล.อ.ประยุทธ์ หรือยัง พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ทำไมจะต้องถามคำถามที่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี เพราะทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นทหาร ยึดมั่นอย่างนี้แล้ว จะมาถามว่าจะมีการปฏิวัติเงียบทำไม ท่านไปดำเนินการทางการเมืองของท่านให้ดีที่สุด รัฐบาลเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคการเมือง ถ้าทุกคนในประเทศไทยทำตามหน้าที่ก็จะเจริญ
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องไปติดตามว่าต้นตอข่าวลือมาจากไหน เพราะเสียเวลาทำงาน ซึ่ง 4-5 ปี ที่ผ่านมา มีแต่กระแสข่าว บางคนไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็พูด ผู้ที่ไม่รู้ก็พูด คนที่คิดว่าตัวเองรู้ แต่ไม่ได้รับผิดชอบก็พูด แต่คนที่รับผิดชอบพูด กลับไม่เชื่อ การเลือกตั้งจะมีขึ้นหรือไม่ ไม่ได้อยู่กับกองทัพ อยู่ที่หมดวาระการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้ามีการยุบสภา ก็เป็นเป็นเรื่องของรัฐบาล กกต.ก็ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งของท่านไป พอเลือกตั้งเสร็จแล้ว มีการจัดตั้งรัฐบาล ก็ทำไป
เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าหลังเลือกตั้งจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือมีนายกฯ ม.7 พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มีครับ วันนี้ผมทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบ หลังเกษียณ ผมก็เป็นแค่พลเมืองดีของประเทศไทย
** "ไอ้ตู่"ไม่เชื่อทหารจะไม่ปฏิวัติ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้นำเหล่าทัพออกมาระบุว่าทหารจะไม่ปฏิวัติ ว่า ก่อนการปฏิวัติทุกครั้ง มักจะได้ยินนายทหารออกมาพูดว่าจะไม่ปฏิวัติทั้งสิ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วก็จะอ้างชาติบ้านเมืองทำการปฏิวัติ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทุกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อนายทหารทั้งหลายออกมาพูด ก็ถือเป็นเรื่องดี ประชาชนจะได้มีความทรงจำที่ดีกับทหาร แม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะยุบสภาฯ ช่วงต้นเดือนพ.ค.ก็ตาม
ทั้งนี้ มีเรื่องที่น่าจับตา เพราะขณะนี้ได้ข้อมูลจากนายทหารว่า จากผลสำรวจการเลือกตั้งโดยกอ.รมน .นั้น พบว่า คนยังนิยมพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก ดั้งนั้น กอ.รมน. จึงจัดตั้งศูนย์กำกับควบคุมการเลือกตั้ง โดยมีพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบ โดยศูนย์นี้มีหน้าที่ติดตามกำกับควบคุมการเลือกตั้ง โดยจะส่งทหารลงไปเกาะติด บล็อค และล็อคแกนนำพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับที่เคยใช้เพื่อสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 ซึ่งครั้งนั้น ตอนท้ายมีการระบุให้เปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย แต่ครั้งนี้จะหนักกว่าเดิม เพราะจะมีนักการเมืองอีกฝ่ายเป็นผู้ชี้เป้าให้ด้วย
นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อใกล้เลือกตั้ง จะมีการส่งกำลังทหารไปเกาะติดหมู่บ้าน ชุมนุม เพื่อสร้างความชิงชังไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย จะมีการกล่าวหาว่าคนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จงรักภักดี และเมื่อถึงช่วงนับคะแนน ทหารบางส่วนจะถูกแปลงเป็นกรรมการนับคะแนน ซึ่งจะไปขี้ฉ้อกันตอนนั้น
โดยการเลือกตั้งครั้งหน้า คนเสื้อแดงจะเกาะติดอยู่ในพื้นที่ หากพบทหารลงไปกระทำการดังกล่าว จะจับตัวส่งกกต .ทันที เพราะทหารไม่ควรมายุ่งกับการเมือง และการเลือกตั้ง ประเทศควรจะเดินไปสู่ถนนเลือกตั้ง วันนี้ยังได้ยินว่า มีคนคิดโมเดลทั้งปฏิวัติเงียบ ปฏิวัติดัง หรือมีเลือกตั้ง แต่จะใช้วิธีโกงเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งโรคที่คาดไม่ถึงหากไม่มีการเลือกตั้ง ส่วนจะเป็นโรคอะไรนั้น คงต้องไปถามนายอภิสิทธิ์เอาเอง
"ทหารควรมีหน้าที่หลัก คือ ดูแลด้านความมั่นคง แต่วันนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ได้ ทำให้ขณะนี้มีทหารที่คุมการรบจริงๆ เริ่มเบื่อหน่าย เพราะผู้บังคับบัญชาแปลงงบประมาณการฝึกรบมาใช้กับการฝึกตีเกราะ เคาะโล่ เพื่อปราบปรามคนไทยด้วยกันเอง ทำให้มีผู้นำการรบ ลาออกก่อนเกษียณอายุราชการถึง 60% หากวันนี้เราทำสงคราม ก็จะไม่มีผู้ชำนาญทางการรบเลย มีแต่คนที่จะมาเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า แต่ไม่มีทหารจะไปยิงกับคนที่ใช้ปืนจริงๆ เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล้ายืนยันหรือไม่ว่าไม่มีทหารลาออก"นายจตุพรกล่าว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีกลุ่มคนที่พยายามป่วนให้การเมืองเสียหาย เพราะมีคนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมรับ สำหรับพรรคเพื่อไทย เห็นว่ากระบวนการเลือกตั้ง เป็นการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น จึงเดินหน้าให้มีการเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยขอบคุณผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ออกมาสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าจะไม่ปฏิวัติ และเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม
** "จิ๋ว"เชื่อไม่มีปฏิวัติ มีแต่ลากยาว
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวการปฏิวัติว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะผู้มีอำนาจอย่างผู้บัญชาการทหารบก เคยย้ำหลายครั้งว่า จะไม่ทำเรื่องดังกล่าว ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนับสนุนแนวทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย แต่หากจะมีเหตุไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น คงเป็นเพราะรัฐบาลดึงเวลาเพื่ออยู่ต่อจนครบเทอม เพราะไม่พร้อมเลือกตั้งมากกว่า อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย พร้อมทำงานการเมืองในทุกรูปแบบ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน
“ชวน”บอกอย่าให้ความสำคัญข่าวปฏิวัติเงียบ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรีระบุจะมีการปฏิวัติเงียบว่า อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย เมื่อถึงวาระที่รัฐบาลยุบสภา ก็เลือกตั้งใหม่ เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ยอมรับว่ามีคนอยากให้มีปฏิวัติ ซึ่งถือเป็นเรื่องของคนๆ นั้น แต่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย และเดินไปตามทางนี้ ส่วนกกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งก็รับผิดชอบไป และไม่ขอวิจารณ์กรณีที่มีการเสนอว่าควรเว้นวรรคการเลือกตั้ง เพื่อฟื้นฟูบ้านเมือง เพราะเมื่อตัดสินใจให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ต้องเดินไปให้ได้ และไม่ควรสนับสนุน โดยเฉพาะสื่ออย่าเอาเรื่องนี้มาพูดทุกวัน เสมือนอยากให้มันเกิดขึ้น
**"เจ๊สด"รูดซิปปากงดสัมภาษณ์สื่อ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสข่าวว่าจะมีการปฏิวัติ ไม่มีเลือกตั้ง จนทำให้ถูกฝ่ายการเมือง รุมอัดกลับมานั้น ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่ติดต่อขอสัมภาษณ์ ทั้งผ่านเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และทางโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่สามารถติดต่อนางสดศรีได้ อีกทั้งพบว่า มีการยกเลิกกำหนดการบันทึกเทปเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะนำไปออกในรายการ "เช้านี้ที่หมอชิต" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ห้องแถลงข่าวที่อยู่ตรงข้ามกับห้องสื่อมวลชน สำนักงาน กกต. เป็นสถานที่ดำเนินการ
เมื่อตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า นางสดศรี ได้ของดที่จะให้สัมภาษณ์สื่อสักระยะหนึ่ง และในวันที่ 7-9 เม.ย. นางสดศรี ก็จะยังคงเดินทางไปร่วมปัจฉิมนิเทศนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมือง และการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 2 ที่ เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งจะมีสื่อมวลชนร่วมคณะไปด้วย
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ไม่มีสิ่งใดบอกเหตุว่าจะมีการปฏิวัติ อย่างที่มีการพูดกัน เพราะผบ.ทบ. และรมว.กลาโหม ก็พูดย้ำถึง 2 ครั้งแล้วว่า จะมีเลือกตั้ง จึงควรเลิกพูดกันได้แล้วว่าจะมีปฏิวัติ ไม่มีเลือกตั้ง เพราะข่าวที่ออกไปแล้วทำให้ต่างประเทศดูประเทศไทยไม่ดี ซึ่งในวันที่ 7 เม.ย.นี้ กฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาวาระ 2 ก็ขอให้ส.ส.ช่วยกันให้ความเห็นชอบ
