xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.ลงใต้ซับภัยน้ำท่วม วอน ปชช.ช่วยกันบริจาคของใช้จำเป็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“ประยุทธ์” เผย “ในหลวง-ราชินี-พระบรมวงศานุวงศ์” ทรงห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วม เร่งส่งชุดค้นหาพร้อมสุนัขทหาร 15 ตัวหาผู้สูญหาย วอน ปชช.บริจาค “วิทยุ-ไฟฉาย-ผ้าห่ม-ชุดชั้นใน” เร่งใช้ช่องทางวิทยุสื่อสารให้ความช่วยเหลือ ปชช.อนุโลมคนที่มาเกณฑ์ทหารไม่ได้ เลื่อนเป็นปีหน้า

วันที่ 31 มี.ค. 2554 ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ และพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบปัญหาอุทกภัยเพื่อตรวจเยี่ยมและนำสิ่งของไปบรรเทาทุกข์ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะเข้าไปดูแลเรื่องการบริหารจัดการของกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งได้มีการจัดศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเริ่มเกิดอุทกภัย โดยขณะนี้ได้รับรายงานว่ามี 8 จังหวัด 10 อำเภอ ซึ่งรวมประชาชนกว่าหลายแสนคนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบกได้สั่งการลงไปให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 4 ได้เข้าไปดูแลในเรื่องของการจัดสรร กำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมทั้งถุงยังชีพที่พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันบริจาค และส่งไปเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามทางกองทัพกบยังมีการเตรียมถุงยังชีพที่ได้เตรียมการลงพื้นที่ใน โดยคาดว่าน่าจะถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในช่วงสายๆของวันที่ 31 มี.ค.นี้ สำหรับการเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะรถไปได้ช้า เนื่องจากฝนตกหนักตลอดทาง รวมทั้งมีลมพายุ นอกจากนี้เราได้รวบรวมในเรื่องกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ที่ประกอบไปด้วยเครื่องมือทางการช่าง ในส่วนของอากาศยาน รวมทั้งหน่วยแพทย์ลงไปในพื้นที่ เพราะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ จ.กระบี่ ได้ร้องขอมา ซึ่งเป็นหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยจะเข้าไปในพื้นที่ประมาณ 5-10 วัน และหากว่ามีความจำเป็นต้องอยู่นานกว่านั้นคงต้องมีการสับเปลี่ยนกันไปจนกว่า จะจบภารกิจ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้สั่งการไปยัง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงไปในพื้นที่ จ.กระบี่ด้วยตนเอง เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหาราบที่ 15 (ร.15 พัน.1) ซึ่งได้เดินทางเข้าไปช่วยก่อนหน้านี้แล้วว่ามีความเพียงพอหรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งได้มีการสั่งให้นำเครื่องมือการช่างเข้าไป อย่างไรก็ตาม ตนก็จะลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเองว่าขาดเหลืออะไรบ้าง ทั้งนี้การประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ประชาชนชาวใต้ทั้งหมดคงได้รับกำลังใจจากประชาชนทั้งประเทศที่ส่งความห่วงใยลงไป และมีเจ้าหน้าที่หลายส่วนในการช่วยการปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง หรือกรมต่างๆ ที่รับผิดชอบ รวมทั้งตำรวจและเหล่าทัพต่างๆ ซึ่งทุกคนได้รวมพลังกันในการเข้าไปช่วย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ค่อนข้างมีความรุนแรง ระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว ซึ่งไหลลงมาจากภูเขาด้วย ซึ่งคงต้องหาทางแก้ปัญหากันต่อไปในอนาคตว่าจะทำอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านของประชาชนที่อยู่บริเวณปากทางน้ำ หรือการปลูกต้นไม้ต่างๆ บนภูเขา

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านทรงเป็นห่วง ประชาชนและพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งท่านพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนหนึ่งผ่านสภากาชาดไทย และผมคิดว่าพระองค์ท่านคงส่งความห่วงใยไปถึงประชาชนทุกคนที่ยากลำบากในขณะนี้ และในส่วนของราชวงศ์อื่นๆ ด้วยทุกพระองค์ก็เป็นห่วง เพราะเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงมากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นความเดือดร้อนในระยะยาว และอีกเรื่องหนึ่งที่พระองค์ท่านทรงเป็นห่วง คือ อาชีพของประชาชนที่ทำสวนยางพารา และสวนปาล์ม ซึ่งอาจจะเสียหายมากซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคตด้วย จึงอยากขอฝากให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจส่งเงินทอง ใครที่มีแรงมากก็ส่งมากหน่อย ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพสกนิกรของท่านตลอดเวลา และอยากให้ทุกคนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระองค์ท่าน ซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และถุงยังชีพ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องที่จะตามคือ การฟื้นฟูบูรณะบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเรามีความพร้อมที่จะดำเนินการ และสิ่งที่จะต้องทำต่อไป คือ ความร่วมมือร่วมใจว่าจะทำอย่างไรให้คนหลายแสนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยเขาอยู่ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ยังไม่มีบ้านและอาชีพ ซึ่งถือเป็นปัญหาหลัก สิ่งของที่คนในพื้นที่ต้องการ คือ ไฟฉาย ถ่านไฟฉาย ผ้าห่ม ชุดชั้นในหญิง-ชาย วิทยุเอเอ็ม-เอฟเอ็ม ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) ได้เข้าไปจัดหาเพิ่มเติมเพราะเขาติดต่อสื่อสารกับใครไม่ได้ ซึ่งตนจะใช้วิธีการกระจายเสียงผ่านสถานีวิทยุสื่อสารไปยังประชาชนและคนจะ เปิดฟังว่ามีใครเดือดร้อนที่ไหนอย่างไร และจะมารับการช่วยเหลือได้ที่ไหน ซึ่งตนคิดว่าน่าจะทำให้ความช่วยเหลือทำได้ดีขึ้น ทั้งนี้ขอฝากไปยังหน่วยช่วยเหลืออื่นถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยกันบริจาควิทยุราคาถูกที่รับคลื่นเอเอ็ม-เอฟเอ็มได้ไปแจกชาวบ้าน และเราจะสามารถติดต่อสื่อสารกับประชาชนได้

เมื่อถามถึงการเคลื่อนย้ายอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพยายามหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ที่ขวางทางน้ำไหล ซึ่งทุกครั้งที่มีน้ำไหลลงมาจากภูเขาก็จะปะทะกับบ้านเรือของประชาชน แต่ต้องดูในเรื่องกฎหมาย แต่ตนคิดว่ารัฐบาลคงดูในเรื่องกฎหมายให้

เมื่อถามว่าในส่วนพื้นที่ที่เข้าไปไม่ถึงจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สั่งไปตั้งแต่วันแรกแล้วว่าการช่วยเหลือจะต้องมีความทั่วถึงและไม่ซ้ำซ้อน อย่างไรก็ตาม คงต้องประสานงานกับส่วนราชการในพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเขาจะรู้ว่าชาวบ้านอยู่ตรงจุดไหนบ้าง จึงจำเป็นต้องมีการประสานงานกันกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย และส่วนล่วงหน้าที่เข้าไปทำงาน เพื่อให้รู้ว่าที่ไหนมีความเดือดร้อน และมีใครบ้างที่ยังบาดเจ็บและสูญหาย ซึ่งเราคงต้องหาทางเข้าไปช่วย อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเป็นไปค่อนข้างยากเนื่องจากลมฟ้าอากาศยังไม่อำนวย ซึ่งจะเป็นอันตรายทั้งต่อผู้ประสบภัยและคนที่เข้าไปช่วย ทั้งนี้ ตนได้กำชับไปแล้วว่าให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และพยายามหามาตรการว่าทำอย่างไรถึงจะมีความปลอดภัยสำหรับคนที่เข้าไปช่วย แม้แต่อากาศยานหากลมแรงก็จะมีปัญหาในการใช้เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อการรับและส่งของ แต่ทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าได้มีการสั่งการให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราได้รวบรวมเอาไว้เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะไปไหนก็ได้ ซึ่งมีทั้งเรือ รถ และบางส่วนอาจจะต้องเดินเท้าด้วย ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ชุดค้นหาลงพื้นที่เพิ่มเติม โดยมีชุดสุนัขทหารประมาณ 15 ตัวเข้าไปบุคคลสูญหายและเข้าไปดูในเรื่องของความสูญเสียต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาได้รับรายงานว่ามีคนหายและยังค้นหามาเจอ ทั้งนี้คาดว่าเราจะค้นได้คนสูญหายได้มากขึ้น

เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงเรื่องการเกณฑ์ทหารในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนแต่เราคงเลื่อนการเกณฑ์ทหารไม่ได้ เพราะเป็นห้วงของการฝึก จะให้ไปทยอยฝึกคงไม่ได้ คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามปกติ เพียงแต่ว่าในพื้นที่ใดที่ประสบปัญหาใครมาไม่ได้ก็ให้ผู้ปกครองมาแจ้ง เลื่อนไปเกณฑ์ปีหน้า ซึ่งกำลังให้หน่วยที่รับผิดชอบดำเนินการอยู่ ส่วนที่ไม่เดือดร้อนก็มาเกณฑ์ทหารตามปกติ ทั้งนี้คงไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนกำลังพล เนื่องจากมีการเรียกสำรองไว้อยู่แล้ว ซึ่งปีนี้เราต้องการทหารเพิ่มจำนวนหนึ่ง ซึ่งทุกปีจะเกณฑ์ประมาณ 80,000 คน แต่ในปีนี้ต้องการจำนวน 88,000 ถึง 90,000 คน ซึ่งถือว่าทหารต้องรับภาระมากขึ้นและเราทำหน้าที่ในหลายภารกิจด้วยกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น