วานนี้(4 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. ออกมาระบุว่า มีนายทหารเตรียมทำรัฐประหารเงียบว่า ตนเองไม่ได้ติดตาม ส่วนคิดว่ามูลความจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เดี๋ยวไปเลือกตั้งกัน
ที่นางสดศรีออกมาพูดว่า มีการล็อคตำแหน่งรมว.มหาดไทยไว้แล้ว ซึ่งสอคล้องกับสิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีพูด นายกฯ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน หน้าที่ของเราคือ แก้ปัญหา และบริหารบ้านเมืองไปจนกระทั้งมีการยุบสภา ส่วนที่มีแต่คนพูดถึงการปฏิวัติ นายกฯอ้างว่าไม่ทราบและตนเองไม่ได้พูด
**เทือกมึนไม่รู้เจตนาสดศรีปูดปว.
กรณีนี้นายสุเ ทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ขอ ให้มั่นใจว่ามีการเลือกตั้งแน่นอน และพวกเราทุกฝ่ายก็ควรจะมีเตนารมณ์ร่วมกันว่าเราจะเดินหน้าไปสู่การเลือก
“ใครมาขัดขวาง บิดเบือนหรือมาทำให้เป็นอย่างอื่น เป็นการฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ทั้งสิ้น ส่วนใครจะเอาข้อมูลอะไรมาพูดจานั้ นคิดว่าพี่น้องประชาชนก็ไม่ต้องไปตระหนกตกใจหรือไปเปลี่ยนใจ ยืนยันเลยว่าไม่เคยได้ยิน ไม่เคยระแคะระคาย”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็สงสัย และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเอาข่าวนี้มาพูดและพูดเพื่ออะไร ไม่เข้าใจจริง ๆ และไม่สามารถตอบได้ รวมทั้งไม่กล้าวิจารณ์ด้วย
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งคราวหน้าแล้วท่านจะกลับมานั่งตำแหน่งรมว.มหาดไทยด้วยหรืออย่างไร นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ พูดอะไรไปก็ได้ทั้งนั้ นเพราะไม่รู้ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เวลาพูดกันก็ต้องเข้าใจ”
**ผบ.ทบ.สยบข่าวไม่มีเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า จะยังมีการเลือกตั้ง แม้ว่า จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า จะไม่มีเลือกตั้ง เพราะทหารมีแต่หนุนเลือกตั้งไม่ยุ่งเรื่องอื่นหน้าที่ของทหารคือ สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคำพูดที่ว่าเว้นวรรคประเทศ เพราะไม่ทหารไม่ได้ไปยุ่งอะไร
**"จำลอง"ชมกล้าแฉปมปฏิวัติ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมนางสดศรีที่กล้าออกมาพูดลักษณะนี้ เพราะนางสดศรีถือเป็นบุคคลที่คลุกคลีอยู่ในวงการเมืองเป็นอย่างดี เมื่อเห็นว่าการเมืองไม่สามารถไปต่อได้ จึงออกมาแนะหนทางในการแก้ปัญหา โดยระบุไปที่กองทัพ ซึ่งเป็นผู้จะออกมาแก้ปัญหา แต่ของพันธมิตรฯ ไม่ได้มีการระบุว่าจะเป็นใคร หรือทำอาชีพอะไร เพราะเห็นว่าเมื่อประเทศกำลังป่วยหนัก ใครที่จะเข้ามารักษาได้ก็ยินดีเสมอ เพราะวิธีการของแต่กลุ่มนั้นมีความแตกต่างกัน
**กกต. ยังเชื่อต้องมีการเลือกตั้ง
นาย ประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า นายกฯประกาศชัดเจนว่าจะยุบสภาตนเดือน พ.ค. แต่ปรากฏว่าก็ยังมีคนสงสัยว่าจะเลือกตั้งหรือไม่ ตนขอเรียนว่าต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งแน่นอน โปรแกรมทุกอย่างถูกวางไว้ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ. ก็บอกว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอนและให้ทหารวางตัวเป็นกลาง
ส่วนกฎหมายลูกทั้งสามฉบับน่าจะผ่านไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งขั้น ส.ว. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่คิดว่าน่าจะนานเช่นกัน สำหรับการลดวันลงคะแนนล่วงหน้า เหลือวันเดียวและให้ลงทะเบียนก่อน คาดว่ามน่าจะมีปัญหาอะไร กกต. ก็สามารถที่จะปฏิบัติได้
ส่วนกกต. จังหวัด 62 แห่งที่จะหมดวาระวันที่ 8 ก.ค. เชื่อว่าหากยุบสภา ต้นพ.ค. ตามที่ นายกฯระบุ วันเลือกตั้งอย่างยาวนานที่สุดไม่น่าเกิน 3 ก.ค. ซึ่ง กกต.จังหวัดก็น่าจะทำงานไปก่อน นอกจากนี้กลางเดือน เม.ย. ก็น่าจะแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จ ทุกอย่างก็จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
** 4พรรคใหญ่ถวิลจัดตั้งรัฐบาล
ที่สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งของ (กกต.) มีการจัดการอภิปรายในหัวข้อ “เลือกตั้งอย่างไร ให้เมืองไทยพ้นวิกฤต” โดยมีตัวแทน 4 พรรคการเมืองร่วมอภิปราย
นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะต้องมีการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้มีวิกฤต เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีพรรคที่ได้เสียงข้างมากแบบเด็ดขาด สูตรการจัดตั้งรัฐบาลอาจไม่ใช่แค่พรรคลำดับที่ 1-2 ส่วนใครที่คิดว่าอยากให้พรรคที่ได้ลำดับ 1และ 2 ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลนั้น ส่วนตัวยังศรัทธาในการมีฝ่ายค้าน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นถามว่าจะให้พรรคที่ได้ลำดับที่ 3 ทำหน้าที่ตรวจสอบเป็นฝ่ายค้านหรือ มองว่าจะยิ่งเป็นการผลักให้พรรคเหล่านี้ไปเล่นอยู่นอกสภามากกว่า ดังนั้นพรรคที่ได้คะแนนมาลำดับที่ 3 จะเป็นตัวชี้ขาด
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า หลังเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต้องให้เกียรติกับพรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลก่อนระยะหนี่ง ไม่ใช่ไปจัดตั้งแข่งในทันที หรือถ้าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลแล้ว บริหารงานไประยะหนึ่งแล้วไปต่อไม่ได้ พรรคที่ได้คะแนนเป็นลำดับ 2 ก็มารวมเสียงตั้งรัฐบาล มันก็ไม่ผิด จริงอยู่ที่ขณะนี้กติกา กระบวนการเลือกตั้งนายกฯเปลี่ยนแปลงไปอยู่ที่ในสภา แต่ก็ต้องมีการคุยตกลงกันก่อนหน้านั้น ไม่เช่นนั้นไม่มีทางตั้งได้ ซึ่งตรงนี้มือที่มองไม่เห็นก็ควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และเคารพระบบรัฐสภา ถ้าเป็นอย่างนี้การเลือกตั้งก็จะทำให้การเมืองพ้นวิกฤตแน่นอน โดยหลังการเลือกตั้งก็อย่าคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะทำได้เฉพาะพรรคที่ได้ที่ 1 หรือที่ 2 แต่พรรค 3-4-5-6 อาจได้เป็นรัฐบาลก็ได้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทยท้าพรรคการเมืองอื่นให้ยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ถ้าพรรคไหนได้เสียงข้างมาก จะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ก็เพราะเรากลัวจะไม่ชนะ แต่ก็คิดว่ามาขนาดนี้แล้ว ถ้าแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน ก็กลับไม่มีพรรคไหนยอมรับคำท้า ซึ่งอยากขอยืมคำพูดสวย ๆ ของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ที่ชอบพูดเสมอว่า 1 เสียงก็มีความหมาย 1 ผู้เสียชีวิต ก็ต้องเคารพ ต้องเคารพเสียงของประชาชนที่ให้กับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าจะมีคะแนนเสียงมากกว่าพรรคที่มาอันดับ 2 เพียงเสียงเดียวก็ตาม
นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ ประธานส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ถ้าทำได้พรรคภูมิใจไทยคงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย แต่เชื่อว่าจะไม่มีพรรคใดได้เสียงเกิน 250 กติกาของรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้เขียนว่าผู้ได้เสียงข้างมากจะได้เป็นนายกฯ เลย แต่ต้องไปเลือกกันในสภา ดังนั้นถ้าหากพรรคที่ได้เสียงข้างมากมาเชิญไปร่วมรัฐบาลก็จะนำไปตัดสินใจ หรือถ้าพรรคภูมิใจไทย ได้ 60 เสียงใครมาเชิญไปเป็นนายกฯ เชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าผ่านไป 1 เดือน สถานการณ์จะยุ่ง คนที่ไม่ยึดมั่นในกติกาจะออกจากสภาฯมาเล่นนอกสภาฯ
ที่นางสดศรีออกมาพูดว่า มีการล็อคตำแหน่งรมว.มหาดไทยไว้แล้ว ซึ่งสอคล้องกับสิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีพูด นายกฯ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน หน้าที่ของเราคือ แก้ปัญหา และบริหารบ้านเมืองไปจนกระทั้งมีการยุบสภา ส่วนที่มีแต่คนพูดถึงการปฏิวัติ นายกฯอ้างว่าไม่ทราบและตนเองไม่ได้พูด
**เทือกมึนไม่รู้เจตนาสดศรีปูดปว.
กรณีนี้นายสุเ ทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ขอ ให้มั่นใจว่ามีการเลือกตั้งแน่นอน และพวกเราทุกฝ่ายก็ควรจะมีเตนารมณ์ร่วมกันว่าเราจะเดินหน้าไปสู่การเลือก
“ใครมาขัดขวาง บิดเบือนหรือมาทำให้เป็นอย่างอื่น เป็นการฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ทั้งสิ้น ส่วนใครจะเอาข้อมูลอะไรมาพูดจานั้ นคิดว่าพี่น้องประชาชนก็ไม่ต้องไปตระหนกตกใจหรือไปเปลี่ยนใจ ยืนยันเลยว่าไม่เคยได้ยิน ไม่เคยระแคะระคาย”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็สงสัย และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเอาข่าวนี้มาพูดและพูดเพื่ออะไร ไม่เข้าใจจริง ๆ และไม่สามารถตอบได้ รวมทั้งไม่กล้าวิจารณ์ด้วย
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งคราวหน้าแล้วท่านจะกลับมานั่งตำแหน่งรมว.มหาดไทยด้วยหรืออย่างไร นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ พูดอะไรไปก็ได้ทั้งนั้ นเพราะไม่รู้ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เวลาพูดกันก็ต้องเข้าใจ”
**ผบ.ทบ.สยบข่าวไม่มีเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า จะยังมีการเลือกตั้ง แม้ว่า จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า จะไม่มีเลือกตั้ง เพราะทหารมีแต่หนุนเลือกตั้งไม่ยุ่งเรื่องอื่นหน้าที่ของทหารคือ สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคำพูดที่ว่าเว้นวรรคประเทศ เพราะไม่ทหารไม่ได้ไปยุ่งอะไร
**"จำลอง"ชมกล้าแฉปมปฏิวัติ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมนางสดศรีที่กล้าออกมาพูดลักษณะนี้ เพราะนางสดศรีถือเป็นบุคคลที่คลุกคลีอยู่ในวงการเมืองเป็นอย่างดี เมื่อเห็นว่าการเมืองไม่สามารถไปต่อได้ จึงออกมาแนะหนทางในการแก้ปัญหา โดยระบุไปที่กองทัพ ซึ่งเป็นผู้จะออกมาแก้ปัญหา แต่ของพันธมิตรฯ ไม่ได้มีการระบุว่าจะเป็นใคร หรือทำอาชีพอะไร เพราะเห็นว่าเมื่อประเทศกำลังป่วยหนัก ใครที่จะเข้ามารักษาได้ก็ยินดีเสมอ เพราะวิธีการของแต่กลุ่มนั้นมีความแตกต่างกัน
**กกต. ยังเชื่อต้องมีการเลือกตั้ง
นาย ประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า นายกฯประกาศชัดเจนว่าจะยุบสภาตนเดือน พ.ค. แต่ปรากฏว่าก็ยังมีคนสงสัยว่าจะเลือกตั้งหรือไม่ ตนขอเรียนว่าต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งแน่นอน โปรแกรมทุกอย่างถูกวางไว้ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ. ก็บอกว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอนและให้ทหารวางตัวเป็นกลาง
ส่วนกฎหมายลูกทั้งสามฉบับน่าจะผ่านไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งขั้น ส.ว. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่คิดว่าน่าจะนานเช่นกัน สำหรับการลดวันลงคะแนนล่วงหน้า เหลือวันเดียวและให้ลงทะเบียนก่อน คาดว่ามน่าจะมีปัญหาอะไร กกต. ก็สามารถที่จะปฏิบัติได้
ส่วนกกต. จังหวัด 62 แห่งที่จะหมดวาระวันที่ 8 ก.ค. เชื่อว่าหากยุบสภา ต้นพ.ค. ตามที่ นายกฯระบุ วันเลือกตั้งอย่างยาวนานที่สุดไม่น่าเกิน 3 ก.ค. ซึ่ง กกต.จังหวัดก็น่าจะทำงานไปก่อน นอกจากนี้กลางเดือน เม.ย. ก็น่าจะแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จ ทุกอย่างก็จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
** 4พรรคใหญ่ถวิลจัดตั้งรัฐบาล
ที่สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งของ (กกต.) มีการจัดการอภิปรายในหัวข้อ “เลือกตั้งอย่างไร ให้เมืองไทยพ้นวิกฤต” โดยมีตัวแทน 4 พรรคการเมืองร่วมอภิปราย
นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะต้องมีการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้มีวิกฤต เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีพรรคที่ได้เสียงข้างมากแบบเด็ดขาด สูตรการจัดตั้งรัฐบาลอาจไม่ใช่แค่พรรคลำดับที่ 1-2 ส่วนใครที่คิดว่าอยากให้พรรคที่ได้ลำดับ 1และ 2 ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลนั้น ส่วนตัวยังศรัทธาในการมีฝ่ายค้าน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นถามว่าจะให้พรรคที่ได้ลำดับที่ 3 ทำหน้าที่ตรวจสอบเป็นฝ่ายค้านหรือ มองว่าจะยิ่งเป็นการผลักให้พรรคเหล่านี้ไปเล่นอยู่นอกสภามากกว่า ดังนั้นพรรคที่ได้คะแนนมาลำดับที่ 3 จะเป็นตัวชี้ขาด
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า หลังเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต้องให้เกียรติกับพรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลก่อนระยะหนี่ง ไม่ใช่ไปจัดตั้งแข่งในทันที หรือถ้าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลแล้ว บริหารงานไประยะหนึ่งแล้วไปต่อไม่ได้ พรรคที่ได้คะแนนเป็นลำดับ 2 ก็มารวมเสียงตั้งรัฐบาล มันก็ไม่ผิด จริงอยู่ที่ขณะนี้กติกา กระบวนการเลือกตั้งนายกฯเปลี่ยนแปลงไปอยู่ที่ในสภา แต่ก็ต้องมีการคุยตกลงกันก่อนหน้านั้น ไม่เช่นนั้นไม่มีทางตั้งได้ ซึ่งตรงนี้มือที่มองไม่เห็นก็ควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และเคารพระบบรัฐสภา ถ้าเป็นอย่างนี้การเลือกตั้งก็จะทำให้การเมืองพ้นวิกฤตแน่นอน โดยหลังการเลือกตั้งก็อย่าคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะทำได้เฉพาะพรรคที่ได้ที่ 1 หรือที่ 2 แต่พรรค 3-4-5-6 อาจได้เป็นรัฐบาลก็ได้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทยท้าพรรคการเมืองอื่นให้ยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ถ้าพรรคไหนได้เสียงข้างมาก จะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ก็เพราะเรากลัวจะไม่ชนะ แต่ก็คิดว่ามาขนาดนี้แล้ว ถ้าแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน ก็กลับไม่มีพรรคไหนยอมรับคำท้า ซึ่งอยากขอยืมคำพูดสวย ๆ ของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ที่ชอบพูดเสมอว่า 1 เสียงก็มีความหมาย 1 ผู้เสียชีวิต ก็ต้องเคารพ ต้องเคารพเสียงของประชาชนที่ให้กับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าจะมีคะแนนเสียงมากกว่าพรรคที่มาอันดับ 2 เพียงเสียงเดียวก็ตาม
นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ ประธานส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ถ้าทำได้พรรคภูมิใจไทยคงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย แต่เชื่อว่าจะไม่มีพรรคใดได้เสียงเกิน 250 กติกาของรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้เขียนว่าผู้ได้เสียงข้างมากจะได้เป็นนายกฯ เลย แต่ต้องไปเลือกกันในสภา ดังนั้นถ้าหากพรรคที่ได้เสียงข้างมากมาเชิญไปร่วมรัฐบาลก็จะนำไปตัดสินใจ หรือถ้าพรรคภูมิใจไทย ได้ 60 เสียงใครมาเชิญไปเป็นนายกฯ เชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าผ่านไป 1 เดือน สถานการณ์จะยุ่ง คนที่ไม่ยึดมั่นในกติกาจะออกจากสภาฯมาเล่นนอกสภาฯ